"BRU Academy ผู้สร้างปราสาทหลังใหม่"
โค๊ชเยาวชนชื่อดังทั้งฝั่งอังกฤษ สเปน หรือแม้เอเชียก้าวหน้าอย่างญี่ปุ่นเองต่างยกย่องในทักษะฟุตบอล ความมุ่งมั่นในเกม และความคลั่งใคร้ในฟุตบอลของเด็กไทย แต่ทุกคนล้วนแต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขาดความเข้าใจเกม ระเบียบวินัยในเกมไม่ดี ในตอนแรกผมเองมีความคิดที่จะเปิดมุมเยาวชนยุคใหม่ของไทยเพื่อแย้งความเห็นนั้น โดยเจาะจงไปที่เฉพาะรุ่น 19 ปี ที่มีดาวรุ่งชื่อดังในระดับสโมสร และบอลนักเรียน แต่พอเก็บข้อมูลได้ก็พบว่า เชาวชนทีมชาติบางคนนั้นมีทัศนคติในการเป็นมือสมัครเล่นมากเกินไป ดังนั้นจึงมองไปที่การพัฒนาเยาวชนฟุตบอลสโมสร
หากจะมองรูปแบบการพัฒนาเยาวชนในไทย เดิมทีก็จะมีการใช้รูปแบบบอลนักเรียนป้อนสู่ทีมชาติ แต่ในปัจจุบัน กระแสความสำเร็จของการสร้างเยาวชนของชลบุรีในการคว้าแชมป์ไทยลีกในช่วงแรกของยุคเปลี่ยนผ่าน กระตุ้นให้มีการดึงเยาวชนทีมชาติเกือบยกชุดมาสังกัดเมืองทอง ยูไนเต็ด และดึงตัวที่ฝึกกับ JMG มารวมกับบอลโรงเรียนที่โพธินิมิตร จากนั้นบีจีและบีอีซีเทโรก็สร้างเยาวชนเช่นเดียวกัน แต่ทั้งสองทีมกลับได้ใช้งานเยาวชนที่ต่างกัน เมื่อทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงทางสังคมค่านิยมการรักท้องถิ่นจึงเพิ่มมากขึ้น และฟุตบอลเองยังเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ชั้นดี การดึงพีอีเอมาบุรีรัมย์จึงเกิดขึ้น
หากมองที่ตัวนักฟุตบอลเริ่มต้นเป็นยุครวมตัวพีอีเอนำโดยรังสรรค์และเจ้าอุ้ม ธีรทร รวมกับทีโอทีที่นำโดยกัปตันกบ สุเชาว์ นุชนุ่ม ช่วงนี้ก็มีการรวมเยาวชนทีมชาติอย่างเทพกิรติอุส อุกฤษณ์ มาสู่สองแฟรงค์ สเปนสไตล์ และเบลนด์สไตล์ที่มีการรวมข้อดีทุกยุคมารวมกันในปัจจุบัน แต่นั่นยังเรียกว่าบุรีรัมย์สไตล์ยังไม่ได้ ถ้ายังไม่มีสวนเติมเต็มสำคัญที่เรียกว่า อะคาเดมี่
ด้วยนโยบาย วิสัยทัศน์ของผู้บริหารอย่างนายเนวิน ชิดชอบอดีตนักการเมืองระดับชาติที่ฝั่งตัวเองฝั่งการเมือง มาสนุกกับชาวเมือง การสร้างเยาวชนจึงเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ด้วยคอนเนคชั่นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ และคลั่งหวอดกับทีมโรงเรียนมาจึงไม่ยากใหนการดึงตัวเยาวชนทีมชาติชุด 16 ปีมาร่วมทีมตลอดจนดึงเด็กพื้นที่และหานักเตะที่เป็นช้างเผือกมารวมตัวกัน โดยใช้ภัทรบพิตรเป็นที่บ่มเพาะและใช้ส่งแข่งขันในนามโรงเรียน จังหวัด หรือแม้แต่ส่งนักบอลบางคนไปแข่งจตุรมิตรในนามสวนกุหลาบอีกด้วย ผลเป็นอย่างไรล่ะ ทีมภัทรบพิตร ไต่เต้าจากบอลกรมพลศึกษาจากถ้วย ข,ค มาคว้าแชมป์และรองแชมป์ถ้วย ก ได้ในทุกรุ่นที่ส่งแข่งในปีที่ผ่านมา นักฟุตบอลที่เรียนจบจากภัทรบพิตรแล้ว จะเข้าเรียนกับวิทยาลัยกาญจนาที่บุรีรัมย์ เพื่ออนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ยังส่งไปเก็บตัวกับเลสเตอร์ ซิตี้รอบแรก 8 คน จากนั้นขึ้นชุดใหญ่ได้ทั้ง กีรติ เขียวสมบัติ, ยศพล เทียงดาห์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง,อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ก่อนที่แต่ละคนจะเติบโตไปในสโมสรอื่นๆ โดยเป็นตัวหลักของทีมทั้งสิ้น ในปีที่สองที่มีการส่งนักเตะเยาวชน 11 คน โดย 4 ใน 11 คน เป็นการฝึกต่อเนื่อง คือ นายเชาว์วัตน์ วีระชาติ นายณัฐวุฒิ สมบัติโยธา นายอาทิตย์ พรหมขันธ์ นายปิยพงษ์ หอมขจร ซึ่งเคยเดินทางไปฝึกมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และชุดใหม่อีก 7 คน ประกอบด้วย นายคมสันต์ ถนอมแนว นายวิทวุฒิ เนตรคำ นายนิรุจน์ ยาปัน นายป้องเพชร ทองเกล็ด นายอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ นายกันตวัฒน์ สุวรรณภาญกูร นายปวเรศ อาจพิบูลย์พร และในปีนี้ได้ส่งให้พันธมิตรอย่างสุรินทร์ซิตี้เล่น แต่ในนี้ขอแนะนำเหล่าลูกเจี๊ยบที่ถูกดันขึ้นชุดใหญ่ และในปีถัดไปนะครับ
เริ่มต้นที่คนแรก ''เจ้าเบนซ์'' ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ตำแหน่งกองหน้า,กลางรุก วันเกิด : 01/05/1996 น้ำหนัก: 65 ส่วนสูง : 174 โดยลงเล่น 6 นัด 341 นาที ยิงได้ 2 ประตู หากหลายคนยังคิดถึงการเป็น playmaker เจ้าเบนซ์ตอบโจทษ์ท่านได้ สามารถยิงประดูได้ดี หากแต่รูปร่างยังบางมาก ทำให้นึกถึงเอ็ม อนาวินในช่วงมาใหม่ๆ แต่ขอบอกว่า อายุแค่นี้ยังพัฒนาได้อีกมาก หลังจากลองเป็นชุดใหญ่ในสุรินทร์มาแล้ว
คะแนนเทียบกับจักรพันธ์ แก้วพรม ปัจจุบัน 8/10 อนาคตให้ 12/10
อิ้น เชาว์วัตน์ วีระชาติ 23/06/1996อายุ : 18นำหนัก : 65ส่วนสูง : 175ตำแหน่ง : กองกลางฝั่งขวา,รุกฝั่งขวา มีความคล่องตัวสูง หาจังหวะได้ดี การเปิดยังต้องปรับปรุงสำหรับทีมชุดใหญ่
คะแนนเทียบกับอนาวิน จูจีน ปัจจุบัน 8/10 อนาคตให้ 10/10
นนท์ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ อายุ 17 ปี แบ็คซ้ายกลางซ้าย สามปีที่แล้วมีใครยังจำกระทู้ดังในพันทิป ช้างเผือกในป่าใหญ่(เมสซี่น้อย ณ แม่ริม)ได้หรือไม่ ถ้าลืมไปแล้ว ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ทำประตูค่อนข้างดี อยู่สุรินทร์ก็ยิงบ่อย โดยมีพี่ชาย อมเรศ อมรเลิศศักดิ์ แบ็คขวาอีกคน
http://topicstock.ppantip.com/supachalasai/topicstock/2011/09/S11055201/S11055201.html
อีกสามคนที่คาดว่าจะ เติบโตในปีถัดไปและตอนนี้ลงเล่นให้สุรินทร์ซิตี้
นายอาทิตย์ บุตรจินดา สไตล์เดียวกับมุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา รูปร่างใหญ่ไปกับบอลดี
นายปิยพงษ์ หอมขจร กองหน้าเด็กบุรีรัมย์ ที่เริ่มเติบโตในบอลสุรินทร์ตั้งแต่มัธยม
นายอาทิตย์ พรหมขันธ์
สิทธิโชค กันหนู เจ้าไอซ์ หนึ่งในเยาวชนที่โกลไทยยกให้เป็นอนาคตบอลไทย
นี่ก็เป็นแนวรุกในอนาคตของบุรีรัมย์ ยิ่งในยุคที่มีเงินเยอะก็ยังซื้อนักบอลเก่งๆไม่ได้ในอนาคต ถ้าจะกล่าวว่า ลูกเจี๊ยบเหล่านี้คือ ผู้ที่จะสร้างปราสาทหลังใหม่จากผู้บัญชาการที่มีความชัดเจนอย่างประธานสโมสร อย่างไรก็ตามการลงทุนในเยาวชนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นระเบียบวินัย ทัศนคติการเป็นนักบอลอาชีพจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าการฝึกทักษะและการเข้าใจเกมเลย แต่ถ้าการฝึกเยาวชนที่ไม่มีคุณภาพรับรองได้ว่า เตรียมโดนแซงแน่นอน
"BRU Academy ผู้สร้างปราสาทหลังใหม่"
โค๊ชเยาวชนชื่อดังทั้งฝั่งอังกฤษ สเปน หรือแม้เอเชียก้าวหน้าอย่างญี่ปุ่นเองต่างยกย่องในทักษะฟุตบอล ความมุ่งมั่นในเกม และความคลั่งใคร้ในฟุตบอลของเด็กไทย แต่ทุกคนล้วนแต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขาดความเข้าใจเกม ระเบียบวินัยในเกมไม่ดี ในตอนแรกผมเองมีความคิดที่จะเปิดมุมเยาวชนยุคใหม่ของไทยเพื่อแย้งความเห็นนั้น โดยเจาะจงไปที่เฉพาะรุ่น 19 ปี ที่มีดาวรุ่งชื่อดังในระดับสโมสร และบอลนักเรียน แต่พอเก็บข้อมูลได้ก็พบว่า เชาวชนทีมชาติบางคนนั้นมีทัศนคติในการเป็นมือสมัครเล่นมากเกินไป ดังนั้นจึงมองไปที่การพัฒนาเยาวชนฟุตบอลสโมสร
หากจะมองรูปแบบการพัฒนาเยาวชนในไทย เดิมทีก็จะมีการใช้รูปแบบบอลนักเรียนป้อนสู่ทีมชาติ แต่ในปัจจุบัน กระแสความสำเร็จของการสร้างเยาวชนของชลบุรีในการคว้าแชมป์ไทยลีกในช่วงแรกของยุคเปลี่ยนผ่าน กระตุ้นให้มีการดึงเยาวชนทีมชาติเกือบยกชุดมาสังกัดเมืองทอง ยูไนเต็ด และดึงตัวที่ฝึกกับ JMG มารวมกับบอลโรงเรียนที่โพธินิมิตร จากนั้นบีจีและบีอีซีเทโรก็สร้างเยาวชนเช่นเดียวกัน แต่ทั้งสองทีมกลับได้ใช้งานเยาวชนที่ต่างกัน เมื่อทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงทางสังคมค่านิยมการรักท้องถิ่นจึงเพิ่มมากขึ้น และฟุตบอลเองยังเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ชั้นดี การดึงพีอีเอมาบุรีรัมย์จึงเกิดขึ้น
หากมองที่ตัวนักฟุตบอลเริ่มต้นเป็นยุครวมตัวพีอีเอนำโดยรังสรรค์และเจ้าอุ้ม ธีรทร รวมกับทีโอทีที่นำโดยกัปตันกบ สุเชาว์ นุชนุ่ม ช่วงนี้ก็มีการรวมเยาวชนทีมชาติอย่างเทพกิรติอุส อุกฤษณ์ มาสู่สองแฟรงค์ สเปนสไตล์ และเบลนด์สไตล์ที่มีการรวมข้อดีทุกยุคมารวมกันในปัจจุบัน แต่นั่นยังเรียกว่าบุรีรัมย์สไตล์ยังไม่ได้ ถ้ายังไม่มีสวนเติมเต็มสำคัญที่เรียกว่า อะคาเดมี่
ด้วยนโยบาย วิสัยทัศน์ของผู้บริหารอย่างนายเนวิน ชิดชอบอดีตนักการเมืองระดับชาติที่ฝั่งตัวเองฝั่งการเมือง มาสนุกกับชาวเมือง การสร้างเยาวชนจึงเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ด้วยคอนเนคชั่นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ และคลั่งหวอดกับทีมโรงเรียนมาจึงไม่ยากใหนการดึงตัวเยาวชนทีมชาติชุด 16 ปีมาร่วมทีมตลอดจนดึงเด็กพื้นที่และหานักเตะที่เป็นช้างเผือกมารวมตัวกัน โดยใช้ภัทรบพิตรเป็นที่บ่มเพาะและใช้ส่งแข่งขันในนามโรงเรียน จังหวัด หรือแม้แต่ส่งนักบอลบางคนไปแข่งจตุรมิตรในนามสวนกุหลาบอีกด้วย ผลเป็นอย่างไรล่ะ ทีมภัทรบพิตร ไต่เต้าจากบอลกรมพลศึกษาจากถ้วย ข,ค มาคว้าแชมป์และรองแชมป์ถ้วย ก ได้ในทุกรุ่นที่ส่งแข่งในปีที่ผ่านมา นักฟุตบอลที่เรียนจบจากภัทรบพิตรแล้ว จะเข้าเรียนกับวิทยาลัยกาญจนาที่บุรีรัมย์ เพื่ออนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ยังส่งไปเก็บตัวกับเลสเตอร์ ซิตี้รอบแรก 8 คน จากนั้นขึ้นชุดใหญ่ได้ทั้ง กีรติ เขียวสมบัติ, ยศพล เทียงดาห์, ชิติพัทธ์ แทนกลาง,อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ก่อนที่แต่ละคนจะเติบโตไปในสโมสรอื่นๆ โดยเป็นตัวหลักของทีมทั้งสิ้น ในปีที่สองที่มีการส่งนักเตะเยาวชน 11 คน โดย 4 ใน 11 คน เป็นการฝึกต่อเนื่อง คือ นายเชาว์วัตน์ วีระชาติ นายณัฐวุฒิ สมบัติโยธา นายอาทิตย์ พรหมขันธ์ นายปิยพงษ์ หอมขจร ซึ่งเคยเดินทางไปฝึกมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และชุดใหม่อีก 7 คน ประกอบด้วย นายคมสันต์ ถนอมแนว นายวิทวุฒิ เนตรคำ นายนิรุจน์ ยาปัน นายป้องเพชร ทองเกล็ด นายอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ นายกันตวัฒน์ สุวรรณภาญกูร นายปวเรศ อาจพิบูลย์พร และในปีนี้ได้ส่งให้พันธมิตรอย่างสุรินทร์ซิตี้เล่น แต่ในนี้ขอแนะนำเหล่าลูกเจี๊ยบที่ถูกดันขึ้นชุดใหญ่ และในปีถัดไปนะครับ
เริ่มต้นที่คนแรก ''เจ้าเบนซ์'' ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ตำแหน่งกองหน้า,กลางรุก วันเกิด : 01/05/1996 น้ำหนัก: 65 ส่วนสูง : 174 โดยลงเล่น 6 นัด 341 นาที ยิงได้ 2 ประตู หากหลายคนยังคิดถึงการเป็น playmaker เจ้าเบนซ์ตอบโจทษ์ท่านได้ สามารถยิงประดูได้ดี หากแต่รูปร่างยังบางมาก ทำให้นึกถึงเอ็ม อนาวินในช่วงมาใหม่ๆ แต่ขอบอกว่า อายุแค่นี้ยังพัฒนาได้อีกมาก หลังจากลองเป็นชุดใหญ่ในสุรินทร์มาแล้ว
คะแนนเทียบกับจักรพันธ์ แก้วพรม ปัจจุบัน 8/10 อนาคตให้ 12/10
อิ้น เชาว์วัตน์ วีระชาติ 23/06/1996อายุ : 18นำหนัก : 65ส่วนสูง : 175ตำแหน่ง : กองกลางฝั่งขวา,รุกฝั่งขวา มีความคล่องตัวสูง หาจังหวะได้ดี การเปิดยังต้องปรับปรุงสำหรับทีมชุดใหญ่
คะแนนเทียบกับอนาวิน จูจีน ปัจจุบัน 8/10 อนาคตให้ 10/10
นนท์ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ อายุ 17 ปี แบ็คซ้ายกลางซ้าย สามปีที่แล้วมีใครยังจำกระทู้ดังในพันทิป ช้างเผือกในป่าใหญ่(เมสซี่น้อย ณ แม่ริม)ได้หรือไม่ ถ้าลืมไปแล้ว ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ทำประตูค่อนข้างดี อยู่สุรินทร์ก็ยิงบ่อย โดยมีพี่ชาย อมเรศ อมรเลิศศักดิ์ แบ็คขวาอีกคน
http://topicstock.ppantip.com/supachalasai/topicstock/2011/09/S11055201/S11055201.html
อีกสามคนที่คาดว่าจะ เติบโตในปีถัดไปและตอนนี้ลงเล่นให้สุรินทร์ซิตี้
นายอาทิตย์ บุตรจินดา สไตล์เดียวกับมุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา รูปร่างใหญ่ไปกับบอลดี
นายปิยพงษ์ หอมขจร กองหน้าเด็กบุรีรัมย์ ที่เริ่มเติบโตในบอลสุรินทร์ตั้งแต่มัธยม
นายอาทิตย์ พรหมขันธ์
สิทธิโชค กันหนู เจ้าไอซ์ หนึ่งในเยาวชนที่โกลไทยยกให้เป็นอนาคตบอลไทย
นี่ก็เป็นแนวรุกในอนาคตของบุรีรัมย์ ยิ่งในยุคที่มีเงินเยอะก็ยังซื้อนักบอลเก่งๆไม่ได้ในอนาคต ถ้าจะกล่าวว่า ลูกเจี๊ยบเหล่านี้คือ ผู้ที่จะสร้างปราสาทหลังใหม่จากผู้บัญชาการที่มีความชัดเจนอย่างประธานสโมสร อย่างไรก็ตามการลงทุนในเยาวชนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นระเบียบวินัย ทัศนคติการเป็นนักบอลอาชีพจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าการฝึกทักษะและการเข้าใจเกมเลย แต่ถ้าการฝึกเยาวชนที่ไม่มีคุณภาพรับรองได้ว่า เตรียมโดนแซงแน่นอน