กระทู้วิทยาทาน ให้ระวังเรื่องทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน

เริ่มเรื่องคนขายมีอาชีพเป็นทนาย เค้าเลวมากในสายตาเรา

เราได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพร้อมที่ดิน  เป็นบ้านทาวเฮ้าท์ในราคา 2 ล้าน เพื่อนำไปกู้ธนาคาร ในสัญญาวางเงินมัดจำไป 2 หมื่น และตกลงกันไว้ว่าค่าโอนและค่าอากรออกกันคนละครึ่ง ไม่ได้ติดอากรแสตมป์ แต่ราคาที่ตกลงซื้อขายกันจริงๆ อยู่ที่ 1.7 ล้านบาท ไม่มีสัญญาเป็นราคาคำพูดที่ตกลงกันค่ะ

ที่ทำเกินเพราะธนาคารจะให้กู้แค่ 85% ของวงเงินที่ขอกู้ (แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกู้ได้ตามวงเงินนี้นะคะ ต้องรอราคาประเมินหลักทรัพย์ วงเงินไหนน้อยกว่าธนาคารจะเอาวงเงินนั้น แล้วให้กู้ 85% ค่ะ)

เราก็ไปดำเนินการส่วนของธนาคารเรียบร้อยเสียค่าใช้จ่ายไปก็มีค่าประเมินหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะ ไปๆมาๆ กับธนาคารอยู่หลายครั้งมาก จนได้วันโอนกันเรียบร้อยคือ วันที่ 29 ก.ค.นี้ค่ะ

มาวันที่ 20ก.ค.ที่ผ่านมา ก็คุยกันกับคนขายปกติ ทักทายกันตามอัธยาศัย เค้าก็ถามว่าวันโอนส่วนต่างที่เหลือจากวงเงินกู้จะจ่ายยังไง อีก 7 แสน (กู้แบงค์ได้ล้านสาม เรามีเงินประมาณ 5 แสนค่ะ)

เราก็อ้าว ตกลงซื้อขายกันที่ 1.7 ล้าน อยู่ๆฝ่ายคนขายมาบอกว่า เค้าไม่เคยบอกเลยว่าเค้าจะขายในราคา 1.7 ล้านบาท เราไปเอามาจากไหนราคา 1.7 ล้าน ผมไม่เคยบอกคุณเลยนะ ได้ยินคำนี้อยากจะกระโดดถีบขาคู่ให้ติดรถมันที่จอดอยู่มากๆ

ไม่มีทางเลยว่าเราจะจำผิดหรือคิดเอง กู้ธนาคารได้ ล้านสาม มีเงินสด 5 แสน โอนได้สบาย ไม่งั้นจะไปเซ็นสัญญาจ่ายค่าธรรมเนียมการยื่นกู้เพื่อ?

นึกถึงวันที่เราพูดว่าจะขาย 1.7 ล้าน เรายังจำได้ดีวันที่เค้าพูดเรื่องจะขายบ้านหลังนี้ให้เรา เค้าบอกเราว่าถ้าผมไม่เห็นคุณทั้งสองคน (หมายถึงเรากับแฟน) ตั้งใจทำงาน ผมไม่ขายให้คุณในราคานี้นะ ผมบอกคนอื่นว่า 2 ล้านหมด ถ้าจะซื้อ (ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอมาก) แถมมีกำชับด้วยนะ คุณไม่ต้องบอกใครนะว่าผมจะขายบ้านให้คุณ เราก็ไม่คิดอะไร

กลับมาที่บทสนทนา คนขายเค้ายืนยันอย่างเดียวว่าเค้าไม่เคยพูดว่าเค้าจะขาย 1.7 ล้าน เราไปเอาราคานี้มาจากไหน เราก็โอเค งั้นไม่เป็นไร ไม่ซื้อแล้วค่ะ
แล้วเรากลับไปดูรายละเอียดในสัญญาที่เราเซ็นไป มีข้อนึงเขียนไว้ว่า ถ้าผู้จะซื้อไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินมัดจำทั้งหมด)  เราก็มานั่งคิดเอง แต่เราไม่ได้ผิดสัญญาหนิ เพียงแต่ว่าไม่มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร ที่จะไปเถียงกับทนายเลวๆ คนนี้ได้ เราเลยโทรไปถามว่าเงินมัดจำ 2 หมื่นจะคืนให้เราไหม เค้าบอกเงินแค่นี้เดี๋ยวผมคืนให้ เราก็นึกดีใจ เออก็ยังดีไม่เลวถึงที่สุดจะยึดเงินมัดจำเรา

มาวันนี้ 26 ก.ค. บอกผมคืนให้ แต่แค่หมี่นเดียวนะ ผมมีค่าจ้างคนขนของออกจากบ้าน (คือตัวเค้าไม่ได้อยู่บ้านหลังที่จะขายให้เรา แต่เก็บของไว้ค่ะ) (แล้วคือเราไม่มีค่าใช้จ่ายว่างั้น คิดในใจนะคะ ไอเลว!!!) แล้วก็ให้เราลงชื่อในสัญญาว่าได้รับเงินคืนแล้ว ไม่เขียนจำนวนเงินนะ เราก็เลยเขียนเพิ่มไปเป็นได้รับเงินคืน 1 หมื่นบาท ทนายเลวยังบอกอีกว่าให้เขียนเพิ่มไปด้วยว่า "พอใจแล้ว"  เสียความรู้สึกมากมายค่ะ

สรุปคือ ฝันอยากมีบ้านสักหลังไม่ต้องมานั่งจ่าค่าเช่าเค้าก็จบกัน บ้านก็ซื้อไม่ได้ ค่าใช้จ่ายที่ธนาคารก็จ่ายไปหมดแล้ว เงินมัดจำก็ได้คืนไม่ครบ เพราะความไว้ใจคนง่ายเกินไปสำหรับเรา ยิ่งเป็นพวกทนายหัวหมอนี่ต้องระวัง เพราะเราเองมีความรู้ไม่มากพอ ถึงได้โดนคนเลวๆแบบนี้มาหัวหมอใส่

ที่มาเล่าให้ฟังไว้เป็นข้อมูลให้กับคนอยากจะซื้อบ้าน ต้องระวังเรื่องสัญญาให้ดี แล้วอย่าไว้ใจคนง่ายๆ เพียงแค่เค้ามีหน้าที่การงานดี มีบ้านหลังใหญ่ มีรถดีๆขับ คำพูดคำจาอัธยาศัยดี บ้างทีแค่สิ่งเหล่านี้มันพิสูจน์ความจริงใจของคนเราไม่ได้จริงๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่