หลังจากที่สื่อไทยตีโพยตีพายไปไกลแสนไกล ว่าแมงมุมบ้านขายาวเป้นแมงมุมแม่ไม้น้ำตาลจนทำให้มีความเข้าใจผิดโดยเข่นห่าไปทั่วบ้านทั่วมือง
ในรูปคือแมงมุมบ้านขายาว แมงมุมพเนจร huntsmanspider
มีความจริงเกี่ยวกับมันอยู่หลายข้อที่ควรทราบคือ
1.มันไม่ทำใยไม่สร้างรังให้รกหรือสกปรก มันจะอยู่ตามซอกหลบตู้ หัวเตียง ห้องงน้ำ ที่เย้นๆมีอาหารชุกชุม พบได้ทุกภาคแทบจะมีทุกบ้านในไทย
2.มันจะทำใยเฉพาะไว้คลุมถุงไข่เท่านั้น
3.รูปร่างหน้าตามันน่ากลัว...ตัวใหญ่ได้เท่าฝ่ามือ..หรือมากกว่า แขนขาเก้งก้าง..
.(พี่ชายผมเป็นโรค อแลคโนโฟเบีย เพราะมันเหอๆ)
4.มันวิ่งเร็วเร็วมากเร้วจนผวาเวลาขามันขยับ...ข้อ3+4 ทำให้มันเป้นสิ่งมีชิวิตที่น่ากลัวน่ารังเกียจที่สุดในสายตามหาชน
5.ต่างจากแมงมุมทั่วไปที่ใช้ไยสัมผัส พวกมันมีขนเล็กๆเต้มทั้งขาที่รับแรงสั่นสะเทือนจากอากาศทำให้รู้ตำแหน่งสิ่งที่ขยับอยู่ไกล้ๆ
6.แต่ด้วยข้อ 4+5 นี้ ทำให้มันเป็นนักล่าแทบจะชนิดเดียวที่ล่าแมงสาบได้ทัน (เว้นตะขาบบ้านขายาว ซึ่งพบน้อยมากในไทย) และกินแมลงสาบเป็นอาหารหลัก จากการสังเกตุ มันจะดักซุ่ม แล้วจู่โจมโดยการอ้อมดักแมลงสาบ
7.ในหลายประเทศมีการวิจัยและใช้แมงมุมชนิดนี้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช และ แน่นอน ในการควบคุมแมลงสาบ ซึ่งได้ผลดีเหลือเชื่อ
8.ด้วยประสาทสัมผัสที่เร็วมาก มันมักวิ่งหนีเราเมื่อเราเดินหรือมแรงสั่นสะเทือน ซึ่งแน่นอนมันวิ่งหนีก่อนที่จะกัดเราซะอีกนอกจากจะจนมุม หวงไข่ ซึ่งทำให้มีรายงานการกัดน้อยยยมาก
9.ว่าด้วยเรื่องพิษ ผมยังพยายามหาข้อมุลซึ่งตอนนี้ยังไม่ครบถ้วนพอที่จะนำมายืนยันในรูปแบบของค่า LD50 หรือผลงานการวิจัยได้ (ได้แล้วจะมาอัพเดต)แต่ยังไม่เคยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการกัดโดยตรงและจากประสบการณ์ ที่ถูกกัด รู้สึกปวดตุบๆ จุดนั้นช้ำเขียวเท่านั้น ทายาหม่อง 2 ชม หาย จากการสังเกตุการล่า สังเกตุได้ว่าเหยื่อ(แมลงสาบ/จิ้งหรีด)มีชีวิตอยู่เป็นเวลานานหลังจากถูกกัด คือกินไปเรื่อยๆและแน้นการใช้เขี้ยวคู่หน้าฉีกทิ้งเหยื่อเป็นหลักจึงอนุมานได้ว่า ไม่ใช้พิษเป็นวิธีการหลักในการล่าเหยื่อ
ทั้งนี้อยากให้ทำความเข้าใจ และผมขอร้องขอชีวิตแทนพวกมัน อย่าฆ่าเค้าเลยครับ
เค้ากลัวเราไม่ต่างจากที่เราก็กลัวเค้าหรอก ที่สำคัญค้ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก รวมถึงยังกำจัดแมลงสาบที่นำโรคร้ายมาสู่เรา ผมยังเชื่อว่าให้ธรรมชาติจัดการกันเองเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ส่วนเรื่องสื่อผมคงได้แต่พูดว่า.. Let it go....
ขอบคุณมากนะที่นี้สำหรับผู้สละเวลาอ่าน แชร์ ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องออกไป
ขอบคุณมากครับ
นพคุณ ละมั่งทอง
22/7/2557
มาจากเฟส
คุณ Kyokiai Y. Palm
เรียกร้องสิทธิ์ให้แมงมุมค่ะ (จากกรณีคนโดนแมงมุมกัด)
หลังจากที่สื่อไทยตีโพยตีพายไปไกลแสนไกล ว่าแมงมุมบ้านขายาวเป้นแมงมุมแม่ไม้น้ำตาลจนทำให้มีความเข้าใจผิดโดยเข่นห่าไปทั่วบ้านทั่วมือง
ในรูปคือแมงมุมบ้านขายาว แมงมุมพเนจร huntsmanspider
มีความจริงเกี่ยวกับมันอยู่หลายข้อที่ควรทราบคือ
1.มันไม่ทำใยไม่สร้างรังให้รกหรือสกปรก มันจะอยู่ตามซอกหลบตู้ หัวเตียง ห้องงน้ำ ที่เย้นๆมีอาหารชุกชุม พบได้ทุกภาคแทบจะมีทุกบ้านในไทย
2.มันจะทำใยเฉพาะไว้คลุมถุงไข่เท่านั้น
3.รูปร่างหน้าตามันน่ากลัว...ตัวใหญ่ได้เท่าฝ่ามือ..หรือมากกว่า แขนขาเก้งก้าง..
.(พี่ชายผมเป็นโรค อแลคโนโฟเบีย เพราะมันเหอๆ)
4.มันวิ่งเร็วเร็วมากเร้วจนผวาเวลาขามันขยับ...ข้อ3+4 ทำให้มันเป้นสิ่งมีชิวิตที่น่ากลัวน่ารังเกียจที่สุดในสายตามหาชน
5.ต่างจากแมงมุมทั่วไปที่ใช้ไยสัมผัส พวกมันมีขนเล็กๆเต้มทั้งขาที่รับแรงสั่นสะเทือนจากอากาศทำให้รู้ตำแหน่งสิ่งที่ขยับอยู่ไกล้ๆ
6.แต่ด้วยข้อ 4+5 นี้ ทำให้มันเป็นนักล่าแทบจะชนิดเดียวที่ล่าแมงสาบได้ทัน (เว้นตะขาบบ้านขายาว ซึ่งพบน้อยมากในไทย) และกินแมลงสาบเป็นอาหารหลัก จากการสังเกตุ มันจะดักซุ่ม แล้วจู่โจมโดยการอ้อมดักแมลงสาบ
7.ในหลายประเทศมีการวิจัยและใช้แมงมุมชนิดนี้ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช และ แน่นอน ในการควบคุมแมลงสาบ ซึ่งได้ผลดีเหลือเชื่อ
8.ด้วยประสาทสัมผัสที่เร็วมาก มันมักวิ่งหนีเราเมื่อเราเดินหรือมแรงสั่นสะเทือน ซึ่งแน่นอนมันวิ่งหนีก่อนที่จะกัดเราซะอีกนอกจากจะจนมุม หวงไข่ ซึ่งทำให้มีรายงานการกัดน้อยยยมาก
9.ว่าด้วยเรื่องพิษ ผมยังพยายามหาข้อมุลซึ่งตอนนี้ยังไม่ครบถ้วนพอที่จะนำมายืนยันในรูปแบบของค่า LD50 หรือผลงานการวิจัยได้ (ได้แล้วจะมาอัพเดต)แต่ยังไม่เคยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการกัดโดยตรงและจากประสบการณ์ ที่ถูกกัด รู้สึกปวดตุบๆ จุดนั้นช้ำเขียวเท่านั้น ทายาหม่อง 2 ชม หาย จากการสังเกตุการล่า สังเกตุได้ว่าเหยื่อ(แมลงสาบ/จิ้งหรีด)มีชีวิตอยู่เป็นเวลานานหลังจากถูกกัด คือกินไปเรื่อยๆและแน้นการใช้เขี้ยวคู่หน้าฉีกทิ้งเหยื่อเป็นหลักจึงอนุมานได้ว่า ไม่ใช้พิษเป็นวิธีการหลักในการล่าเหยื่อ
ทั้งนี้อยากให้ทำความเข้าใจ และผมขอร้องขอชีวิตแทนพวกมัน อย่าฆ่าเค้าเลยครับ
เค้ากลัวเราไม่ต่างจากที่เราก็กลัวเค้าหรอก ที่สำคัญค้ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก รวมถึงยังกำจัดแมลงสาบที่นำโรคร้ายมาสู่เรา ผมยังเชื่อว่าให้ธรรมชาติจัดการกันเองเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ส่วนเรื่องสื่อผมคงได้แต่พูดว่า.. Let it go....
ขอบคุณมากนะที่นี้สำหรับผู้สละเวลาอ่าน แชร์ ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องออกไป
ขอบคุณมากครับ
นพคุณ ละมั่งทอง
22/7/2557
มาจากเฟส คุณ Kyokiai Y. Palm