เข้าใจคะว่า เดี๋ยวนี้ธนาคารแข่งขันการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า แต่ละแบงค์ก็มีวิธีแตกต่างกัน ชวนน่าปวดหัว
แต่เงิบคะ วันนี้ ไปเปลี่ยนสมุดเล่มใหม่ ระหว่างรอสมุด เราก็นำเงินขึ้นมา 2ก้อนที่โต๊ะ เพื่อเตรียมฝากและโอน (นำขึ้นมานับตรวจดูอีกครั้ง)
พอเตรียมสมุดใหม่เสร็จ จนท.ก็ถามว่า " เงินนั้น ไม่ได้ทำอะไร ใช่ไหมคะ???" .............เงิบ 1 คะ
แม่เจ้า ถ้าเงินนั้น ไม่ได้ทำอะไร เดี๊ยนจะเอาขึ้นมานับ มาวางจ่ออยู่ตรงหน้าทำไมมิทราบ แบงค์พัน นะยะ ไม่ใช่เศษสตางค์
ถามแบบ.. อยากจบบริการไวๆประมาณ ติ๊ดๆ หมดเวลาแล้วนะเออ
เราก็แจ้งว่า จะฝาก และโอนด้วยคะ นางก็นำใบฝากเงินมาให้ 2ใบ ใบนึงไม่มีก็อปปี้ ใบนึงมีก็อปปี้ ให้เซ็นชื่อ จำนวนเงิน เบอร์โทร พร้อมทั้งอธิบายอย่างรวดเร็วว่า ใบที่มีก็อปปี้นั่นใช้สำหรับโอน เราก็เตรียมหมายเลขบัญชีผู้รับขึ้นมา อ้าว ทั้ง 2ใบหน้าตาเหมือนกัน ไม่มีช่องให้กรอกชื่อผู้รับ ในใบสำหรับการโอน นางเห็นว่าเรานิ่ง งง ก็เลยย้ำว่าให้เขียนตรงไหน (อ้าว !ก็มันเป็นครั้งแรกนี่ ที่ให้เซ็นชื่อโอนโดยไม่ขอเลขบัญชี ของผู้รับโอน เอ๊ะ รึว่า เขาจะมโนได้เอง ล้ำลึกๆ )
เราเซ็นเสร็จและยื่นสลิบให้ เดี๋ยวนางคงถามเลขบัญชี ชื่อผู้รับ แต่ปล่าวคะ ระหว่าง งงๆ นางบอก " ขอรับเงินด้วยคะ" ประเด็นนี้ชัดเจนที่สุด เพราะย้ำถึง 2ครั้ง ระหว่างที่เรายังไม่หายคาใจ
เราจึงยื่นเงินไปแบบทึ่งๆระคนสงสัย นางนับทั้งสองก้อน มารวมกันเป็นก้อนเดียว แล้วแจ้งจำนวนเงิน "สามหมื่นเก้านะคะ"
เราก็พยักหน้า ท่ามกลางความงง ..........เงิบ 2 ( ชั้นแยกมา 2ก้อน ทำสองรายการ จะมานับรวมเพื่อ....)
ก็เลยมาตั้งกระทู้ถามเพื่อนๆว่า เราตกยุค กับพัฒนาการขั้นติ๊ด ๆไปรึปล่าวคะ ? หากทำรายการโอนเงิน ให้เซ็นชื่อในใบโอน พร้อมจำนวนเงิน เรียบร้อยก่อน แล้วยื่นเงินพนักงาน ส่วนจะโอนให้ใคร เลขบัญชีไหน เข้าบัญชีอะไร ของธนาคารไหน ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ อันนี้เอาไว้ขั้นตอนสุดท้าย ที่สำคัญที่พนักงานย้ำอยู่ 2 ครั้ง คือ " ขอรับเงินด้วยคะ"
อันที่จริงเราทำธุรกรรมกับธนาคาร 2-3 ธนาคาร เป็นประจำทุกสัปดาห์ มีวันนี้หละ ที่รับรู้ได้ถึงพัฒนาการ ชวนทึ่ง เสมือนว่าเรา หลงยุค เพราะจนท.ก็แสดงสีหน้ายิ้ม(หยัน) หยั่งกะลูกค้าคนนี้ ไม่รู้อะไรเอาซะเลย บอกให้เอาเงินมา ๆ ก็เอามาซี งงอยู่ได้
ในความเป็นจริง เราจะกล้าฝากเงินไหม ในเมื่อยังไม่มีการระบุบัญชีปลายทางผู้รับเลย??? มันก็แปลกๆนะ ว่ามั๊ย รึว่าเราคิดมากไปเองคนเดียว
(ก่อนนำมาฝากและโอน ได้แจ้งความจำนงกับผจก.ที่เดินบริการอยู่ว่าจะมาเปลี่ยนสมุด และทำรายการฝากด้วย สามารถรับบริการที่เดียวกันเลยได้ไหมซึ่ง ผจก.ก็เป็นฝ่ายบอกว่าได้)
เพิ่มเติมคะ เราจะโอนเงินค่าสินค้าให้ปลายทางที่เราไม่เคยโอนด้วยคะ (ไม่แน่ใจในเรื่องความถูกต้องของบัญชีด้วย) อีกทั้งเงินก้อนนี้เป็นเงินที่ผู้อื่นฝากชำระมาด้วยคะ เราไม่ต้องการให้มีการผิดพลาดคะ เลยต้องรอบคอบ ว่าเราได้โอนไปยังถูกคน เลยไม่สบายใจที่พนง.สื่อสารมาในทำนองไม่ให้ความสำคัญกับผู้รับปลายทาง แต่เน้นที่จะรับเงินท่าเดียว ปกติ พนง.ที่เคาน์เตอร์จะแจ้งก่อนว่า โอนไปที่ผู้รับชื่อนั้นๆ จำนวน ตรวจนับเงิน แล้วยื่นให้เซ็นต์ทีหลัง ไม่เคยเจอที่เซ็นก่อน รับเงินก่อน ประเด็นอยู่ตรงนี้คะ
scb เดี๋ยวนี้พัฒนาบริการรวดเร็ว รวบรัดถึงขั้นขอรับเงินโดยไม่ขอเลขบัญชีผู้รับโอนแล้วหรือคะ
แต่เงิบคะ วันนี้ ไปเปลี่ยนสมุดเล่มใหม่ ระหว่างรอสมุด เราก็นำเงินขึ้นมา 2ก้อนที่โต๊ะ เพื่อเตรียมฝากและโอน (นำขึ้นมานับตรวจดูอีกครั้ง)
พอเตรียมสมุดใหม่เสร็จ จนท.ก็ถามว่า " เงินนั้น ไม่ได้ทำอะไร ใช่ไหมคะ???" .............เงิบ 1 คะ
แม่เจ้า ถ้าเงินนั้น ไม่ได้ทำอะไร เดี๊ยนจะเอาขึ้นมานับ มาวางจ่ออยู่ตรงหน้าทำไมมิทราบ แบงค์พัน นะยะ ไม่ใช่เศษสตางค์
ถามแบบ.. อยากจบบริการไวๆประมาณ ติ๊ดๆ หมดเวลาแล้วนะเออ
เราก็แจ้งว่า จะฝาก และโอนด้วยคะ นางก็นำใบฝากเงินมาให้ 2ใบ ใบนึงไม่มีก็อปปี้ ใบนึงมีก็อปปี้ ให้เซ็นชื่อ จำนวนเงิน เบอร์โทร พร้อมทั้งอธิบายอย่างรวดเร็วว่า ใบที่มีก็อปปี้นั่นใช้สำหรับโอน เราก็เตรียมหมายเลขบัญชีผู้รับขึ้นมา อ้าว ทั้ง 2ใบหน้าตาเหมือนกัน ไม่มีช่องให้กรอกชื่อผู้รับ ในใบสำหรับการโอน นางเห็นว่าเรานิ่ง งง ก็เลยย้ำว่าให้เขียนตรงไหน (อ้าว !ก็มันเป็นครั้งแรกนี่ ที่ให้เซ็นชื่อโอนโดยไม่ขอเลขบัญชี ของผู้รับโอน เอ๊ะ รึว่า เขาจะมโนได้เอง ล้ำลึกๆ )
เราเซ็นเสร็จและยื่นสลิบให้ เดี๋ยวนางคงถามเลขบัญชี ชื่อผู้รับ แต่ปล่าวคะ ระหว่าง งงๆ นางบอก " ขอรับเงินด้วยคะ" ประเด็นนี้ชัดเจนที่สุด เพราะย้ำถึง 2ครั้ง ระหว่างที่เรายังไม่หายคาใจ
เราจึงยื่นเงินไปแบบทึ่งๆระคนสงสัย นางนับทั้งสองก้อน มารวมกันเป็นก้อนเดียว แล้วแจ้งจำนวนเงิน "สามหมื่นเก้านะคะ"
เราก็พยักหน้า ท่ามกลางความงง ..........เงิบ 2 ( ชั้นแยกมา 2ก้อน ทำสองรายการ จะมานับรวมเพื่อ....)
ก็เลยมาตั้งกระทู้ถามเพื่อนๆว่า เราตกยุค กับพัฒนาการขั้นติ๊ด ๆไปรึปล่าวคะ ? หากทำรายการโอนเงิน ให้เซ็นชื่อในใบโอน พร้อมจำนวนเงิน เรียบร้อยก่อน แล้วยื่นเงินพนักงาน ส่วนจะโอนให้ใคร เลขบัญชีไหน เข้าบัญชีอะไร ของธนาคารไหน ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ อันนี้เอาไว้ขั้นตอนสุดท้าย ที่สำคัญที่พนักงานย้ำอยู่ 2 ครั้ง คือ " ขอรับเงินด้วยคะ"
อันที่จริงเราทำธุรกรรมกับธนาคาร 2-3 ธนาคาร เป็นประจำทุกสัปดาห์ มีวันนี้หละ ที่รับรู้ได้ถึงพัฒนาการ ชวนทึ่ง เสมือนว่าเรา หลงยุค เพราะจนท.ก็แสดงสีหน้ายิ้ม(หยัน) หยั่งกะลูกค้าคนนี้ ไม่รู้อะไรเอาซะเลย บอกให้เอาเงินมา ๆ ก็เอามาซี งงอยู่ได้
ในความเป็นจริง เราจะกล้าฝากเงินไหม ในเมื่อยังไม่มีการระบุบัญชีปลายทางผู้รับเลย??? มันก็แปลกๆนะ ว่ามั๊ย รึว่าเราคิดมากไปเองคนเดียว
(ก่อนนำมาฝากและโอน ได้แจ้งความจำนงกับผจก.ที่เดินบริการอยู่ว่าจะมาเปลี่ยนสมุด และทำรายการฝากด้วย สามารถรับบริการที่เดียวกันเลยได้ไหมซึ่ง ผจก.ก็เป็นฝ่ายบอกว่าได้)
เพิ่มเติมคะ เราจะโอนเงินค่าสินค้าให้ปลายทางที่เราไม่เคยโอนด้วยคะ (ไม่แน่ใจในเรื่องความถูกต้องของบัญชีด้วย) อีกทั้งเงินก้อนนี้เป็นเงินที่ผู้อื่นฝากชำระมาด้วยคะ เราไม่ต้องการให้มีการผิดพลาดคะ เลยต้องรอบคอบ ว่าเราได้โอนไปยังถูกคน เลยไม่สบายใจที่พนง.สื่อสารมาในทำนองไม่ให้ความสำคัญกับผู้รับปลายทาง แต่เน้นที่จะรับเงินท่าเดียว ปกติ พนง.ที่เคาน์เตอร์จะแจ้งก่อนว่า โอนไปที่ผู้รับชื่อนั้นๆ จำนวน ตรวจนับเงิน แล้วยื่นให้เซ็นต์ทีหลัง ไม่เคยเจอที่เซ็นก่อน รับเงินก่อน ประเด็นอยู่ตรงนี้คะ