ขอความรู้จากท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยนะคะ
เป็นเรื่องของแม่ พอดีสังเกตว่าแม่มีอาการ "ตด" บ่อยมาก บางทีเดินก็ตด ลุก-นั่งก็ตด นอนก็ยังตด
แรกๆที่เป็นก็เห็นเป็นเรื่องตลกนะคะ นึกแค่วันกินลมเข้าไปเยอะ แต่ "ตด" บ่อยๆก็เริ่มไม่ขำ
เคยถามแม่ว่า "ห้ามไม่ให้ตดได้มั้ย"
แม่ว่า "บางทีก็ห้ามได้ บางทีก็ห้ามไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะห้ามไม่ได้"
แม่ว่าอาจเป็นเพราะยาลมแผนโบราณที่กิน(จำชื่อยี่ห้อไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นขวดแก้ว มีสติ๊กเกอร์สีเหลือง แก้สารพัดดรคที่เกี่ยวกับลม รสชาดออกหวานๆ)
ช่วงแรกกินทุกเช้า ก็ "ตด ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ" ตอนนี้ก็เลยให้หยุดกินยาลม (เพราะหนูกินแล้วไม่เห็นจะช่วยได้)
ก็สังเกตว่าหลังจากหยุดกินยาลมก็ "ตด" น้อยลง แต่ก็ยังตดอยู่
เลยไม่รู้ว่าอาการตดเกิดจากอะไร เลยอยากถามผู้รู้ทั้งหลายด้วยค่ะ
จะขอพูดถึงสุขภาพของแม่ก่อนนะค่ะ เผื่อจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรค
1. แม่อายุ "59 ปี" น้ำหนักประมาณ 80 กก. สูงประมาณ 160 ซม. ไม่มีความดัน ไม่มีเบาหวาน แต่คอลเรสเตอรัลสูง 220 (ตรวจเมื่อ
2. เมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้วแม่ผ่าตัดขาทั้ง 2 ข้าง เพราะหมอสงสัยว่าที่ปวดหลัง อาจเป็นเพราะเป็นเส้นเลือดของ (แต่ต่อมาถึงตรวจพบว่าเป็น
เพราะข้อต่อ กระดูก ยุบไป 2 ข้อ)
3. ปัจจุบัน แม่มีอาการเจ็บที่หลังมาก ถ้ามีการเดิน นั่ง หรือยืนนาน เนื่องจากข้อต่อกระดูกยุบไป 2 ข้อต่อ(น่าจะเรียกอย่างนั้นนะคะ)
4. ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาพาแม่ไปนวดกับหมอนวดพื้นบ้าน(เผื่อว่าจะดีขึ้น แต่ก็ดีขึ้นเฉพาะช่วงที่นวด)
4. แม่เคยไม่หาหมอเนื่องจากมีอาการของโรคกรดไหลย้อน คือ จะมีอาการไอตลอด โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่นอนหลับ และมีเสมหะมากในตอนเช้า (แต่ตอนนี้ปรับพฤติกรรมการกินแล้ว มีอาการไอน้อยลงมาก เสมหะยังมีอยู่แต่ไม่มาก)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้ที่ได้รับ
ว่าด้วยเรื่องของ "ตด"
เป็นเรื่องของแม่ พอดีสังเกตว่าแม่มีอาการ "ตด" บ่อยมาก บางทีเดินก็ตด ลุก-นั่งก็ตด นอนก็ยังตด
แรกๆที่เป็นก็เห็นเป็นเรื่องตลกนะคะ นึกแค่วันกินลมเข้าไปเยอะ แต่ "ตด" บ่อยๆก็เริ่มไม่ขำ
เคยถามแม่ว่า "ห้ามไม่ให้ตดได้มั้ย"
แม่ว่า "บางทีก็ห้ามได้ บางทีก็ห้ามไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะห้ามไม่ได้"
แม่ว่าอาจเป็นเพราะยาลมแผนโบราณที่กิน(จำชื่อยี่ห้อไม่ได้ รู้แค่ว่าเป็นขวดแก้ว มีสติ๊กเกอร์สีเหลือง แก้สารพัดดรคที่เกี่ยวกับลม รสชาดออกหวานๆ)
ช่วงแรกกินทุกเช้า ก็ "ตด ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ" ตอนนี้ก็เลยให้หยุดกินยาลม (เพราะหนูกินแล้วไม่เห็นจะช่วยได้)
ก็สังเกตว่าหลังจากหยุดกินยาลมก็ "ตด" น้อยลง แต่ก็ยังตดอยู่
เลยไม่รู้ว่าอาการตดเกิดจากอะไร เลยอยากถามผู้รู้ทั้งหลายด้วยค่ะ
จะขอพูดถึงสุขภาพของแม่ก่อนนะค่ะ เผื่อจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรค
1. แม่อายุ "59 ปี" น้ำหนักประมาณ 80 กก. สูงประมาณ 160 ซม. ไม่มีความดัน ไม่มีเบาหวาน แต่คอลเรสเตอรัลสูง 220 (ตรวจเมื่อ
2. เมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้วแม่ผ่าตัดขาทั้ง 2 ข้าง เพราะหมอสงสัยว่าที่ปวดหลัง อาจเป็นเพราะเป็นเส้นเลือดของ (แต่ต่อมาถึงตรวจพบว่าเป็น
เพราะข้อต่อ กระดูก ยุบไป 2 ข้อ)
3. ปัจจุบัน แม่มีอาการเจ็บที่หลังมาก ถ้ามีการเดิน นั่ง หรือยืนนาน เนื่องจากข้อต่อกระดูกยุบไป 2 ข้อต่อ(น่าจะเรียกอย่างนั้นนะคะ)
4. ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาพาแม่ไปนวดกับหมอนวดพื้นบ้าน(เผื่อว่าจะดีขึ้น แต่ก็ดีขึ้นเฉพาะช่วงที่นวด)
4. แม่เคยไม่หาหมอเนื่องจากมีอาการของโรคกรดไหลย้อน คือ จะมีอาการไอตลอด โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่นอนหลับ และมีเสมหะมากในตอนเช้า (แต่ตอนนี้ปรับพฤติกรรมการกินแล้ว มีอาการไอน้อยลงมาก เสมหะยังมีอยู่แต่ไม่มาก)
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความรู้ที่ได้รับ