การออกประกาศ 3 ฉบับรวดของ คสช. เพื่อปรับโครงสร้างการบริหารภายใน สตช. ทั้งในส่วนของ ก.ต.ช. ,ก.ตร. และการตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ว่ากันว่า 2 นายตำรวจ ที่มีโอกาศชิงดำเก้าอี้ ผบ.ตร.จริงๆ มีเพียง 2 นาย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 3

สำหรับ พล.ต.อ.เอก มีอาวุโสสูงสุด จุดแข็งคือเชี่ยวชาญงานสอบสวน และจัดว่ากว้างขวางทั้งในกระบวนการยุติธรรม อัยการและศาลเป็นศิษย์เก่าวัดนวลนรดิศ ร่วมสถาบันกับ พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช. และ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 น้องชายแท้ๆ ของ พล.อ.ประยุทธ์

ส่วน พล.ต.อ.สมยศ เทียบรุ่นเตรียมทหาร รุ่น 15 รุ่นเดียวกับ พล.ท.ปรีชา และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
ที่น่าสนใจคือ พล.ต.อ.สมยศ ถือว่าแนบสนิท ร่วมรับทานอาหารมือใหญ่กันหลายครั้ง กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์"และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องชายของ พล.อ.ประวิตร

ผู้สันทัดกรณีให้แง่คิดว่า ถ้าจะวัดใจกัน ดูหลักอาวุโสเพรียวๆ ก็ต้อง พล.ต.อ.เอก แต่ถ้าในเชิงของอำนาจและความสัมพันธ์ ก็ต้อง พล.ต.อ.สมยศ แต่มุมหนึ่งที่ บิ๊ก ในคสช. ใหสัญญาณไว้อย่างน่าคิดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ต้องคนที่เข้าใจการปฏิรูปโครงสร้างของ สตช. ดีที่สุด

นี่เองจึงเป็นที่ไปที่มาของการย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดูบทสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.สมยศ ที่ตีพิมพ์ในสื่อเครือเนชั่นเมื่อไม่นานมานี้เขา ระบุตอนหนึ่งถึงปัญหาการเมืองแทรกแซงตำรวจ ทำให้องค์กรตำรวจมีปัญหา และชี้ต้นตอว่ามาจาก พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ซึ่งก็คือนายตำรวจที่ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง!!!

http://www.nationtv.tv/main/content/politics/378415834/