บ้านของฉันมีเสาสัญญาณใหญ่โตตั้งอยู่หลังบ้าน ติดประตูห้องนอน
เครื่องจักรส่งเสียงดังตลอดคืน...
ตอนที่เขาทาสีใหม่ ละอองสีฟุ้งเต็มหลังคาบ้านของฉัน...
เราคงรู้กันดีว่า เราไม่ควรวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างที่นอน
แล้วบ้านของฉัน ที่มีเสาส่งสัญญาณแผ่คลื่นรังสีทุกวันข้างหัวเตียงของฉัน จะเป็นอะไรไหม ?
ไม่มีใครยืนยันได้เลยสักคน
บางคนอาจจะกล่าวว่า เราใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ทุกวัน
มีคลื่นสัญญาณ คลื่นรังสีผ่านสมองเราอยู่ทุกวัน
แต่เราเลือกที่จะอยู่ห่างมันได้ เลือกปิดมือถือ ปิดเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ต แล้วหลับอย่างสนิท
แต่ฉัน...คนที่มีเสาส่งสัญญาณส่งเสียงครางต่ำๆ อยู่ข้างหัวเตียง ไม่มีสิทธิทำอย่างนั้น
ผลการศึกษาวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศนับจากช่วงทศวรรษ 1980 พบว่าเสาพวกนี้ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ซึ่งทำลายสุขภาพมนุษย์ได้ หากรับคลื่นแรงเกินควรและหรือเป็นเวลานานเกินไป
มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งถึง 2 เท่าตัว หากได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ก็สามารถกระทบต่อสมองมนุษย์ ทำให้น ปวดหัว หน้ามืด คลื่นเ
ยน สับสน อ่อนเพลีย
ความจำเสื่อม ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ชักกระตุก ฯลฯ
คุณมาลานชา ละอองทิพย์ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้ตั้งคำถามว่า
เสาส่งสัญญาณต้นหนึ่ง มีคลื่นรังสีไมโครเวฟหรือพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเปิดอยู่ตลอดเวลา
ไม่เคยปิด 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่ติดตั้ง
แม้แต่วันที่ไฟฟ้าดับ มันยังคงรับและส่งสัญญาณอยู่ในที่ๆของมันเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างซื่อตรง แม่นยำ
ให้กับผู้ที่เรียกใช้มันในรัศมีที่มันสามารถส่งไปถึง
มีใครจะรู้ไหมว่าเมื่อคุณกดโทรศัพท์มือถือ ไปยังเลขหมายปลายทาง
คลื่นสัญญาณไมโครเวฟนั้นจะถูกส่งไปที่เสาต้นหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับและส่งต่อคลื่นโทรศัพท์ของคุณอีกที
กี่ครั้งที่มันต้องทำหน้าที่รับและส่งในเวลาหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงอาจมีการรับ-ส่งเป็นหมื่นหรือแสนครั้งต่อวัน
ไม่มีใครมองเห็นคลื่นนั้นด้วยตาเปล่าเพราะมันคือพลังงานชนิดหนึ่ง
แล้วลองคิดตามดูว่าคนที่มีที่พักอาศัยอยู่ใกล้เสาฯเขาต้องมีคลื่นรังสีไมโครเวฟตัวนี้ผ่านศีรษะไปวันละกี่ครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มก็ยืนยันอย่างชัดเจนว่าคลื่นรังสีตัวนี้ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
มันจึงถูกติดตั้งทุกที่ บนหลังคาดาดฟ้า ข้างบ้านหน้าบ้าน หลังบ้าน
คนที่อยู่ใกล้ กับเสาสัญญาณเหล่านี้ไม่สามารถปิดคลื่นจากรังสีตัวนี้ได้มันยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ชิด รอบๆ ตัว
เมื่อมีการรับส่งสัญญาณจากทุกสารทิศ ก็จะมีสัญญาณวิ่งผ่านข้ามศีรษะไปมาไม่ว่าจะนั่งนอน ยืน เดิน ทานอาหาร อ่านหนังสือ
ไม่ว่าจะเปิดโทรทัศน์โทรศัพท์หรือปิดมันเพราะรู้สึกไม่อยากเล่นกับคลื่นในวันนี้ แต่มันยังอยู่ที่เดิม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่ารังสีเหล่านี้ไม่ตกค้างในร่างกาย
และไม่มีผลกระทบอันตรายที่ร้ายแรงใดๆ แน่นอน
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่มีบ้านใกล้เรือนเคียงเสาฯจึงรู้สึกปลอดภัยและ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
เพราะถึงจะแย้งก็แย้งได้ลำบากเพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นต่างยกเอาทฤษฎี
ผลงานวิจัยผลการพิสูจน์จากองค์กร และองค์การ ต่างๆ มากมายมาอ้าง
เพื่อประกอบเป็นหลักฐานอ้างอิงได้อย่างช่ำชองและตรงกันหมดเหมือนกับว่าทุกคนที่อยู่ภายในหน่วยงาน
ได้ถูกส่งเข้าอบรมคอร์สเรื่องความไม่อันตรายของเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จากตำราเล่มเดียวกันหมด
มีบทความมากมายกล่าวถึงความเสี่ยงที่จะตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้กับโรงเรียน
เพราะพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ายิ่งความถี่ต่ำมากๆ
จะมีผลการทำลายเซลล์ในระยะยาวได้ เนื่องด้วยคลื่นรังสีคือพลังงานไม่ใช่สารรังสีที่จะตกค้าง
แต่มันสามารถแปลงเป็นอนุมูลอิสระแล้วไปทำร้ายเซลล์หรือทำร้ายเซลล์โดยตรง
โดยเฉพาะเนื้อสมองของเด็กน้อย และเอ็นไซม์ในเลือดซึ่งถือเป็นเซลล์อย่างหนึ่ง
ดังนั้นหลายประเทศจึงได้พยายามแสวงหานโยบายและมาตรการป้องกันอันตรายของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
จากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
แม้แต่ที่องค์การอนามัยโลกก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องผลกระทบทางชีวภาพของรังสีไมโครเวฟ
ที่ส่งคลื่นมาจากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือก็เป็นเพียงการยืนยันว่า
ไม่มีผลกระทบระยะสั้นแต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปกป้องประชาชนจากผลกระทบระยะยาว
เรามี....พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550
มาตรา 5 บุคคลมีสิทธิในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
มาตรา 10 เมื่อมีกรณีที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเกิดขึ้น
หน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ กรณีดังกล่าว ต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นและวิธีป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
ให้ประชาชนทราบและจัดหาข้อมูลให้โดยเร็ว การเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งต้อง
ไม่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
มาตรา11 บุคคลหรือคณะบุคคลมีสิทธิร้องขอให้มีการประเมินและมีสิทธิได้รับข้อมูล
คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการอนุญาต หรือการดำเนินโครงการ
หรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบ สิทธิความเป็นพลเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
แต่ฉันจะทำอะไรได้บ้าง ?
ทีนี้มาดูประเทศอื่นๆบ้าง ว่าเขาจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง
- ชาวอังกฤษประท้วงให้ถอนเสาทีใกล้บ้านเขา เหตุเพราะมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง เช่นมะเร็งผิวหนัง ในครอบครัวเพิ่มขึ้น
- ประเทศอิสราเอล เกิดจลาจลเผาเสาโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยเป็นมะเร็งกว่า 200 คน
- ประเทศไต้หวันมีการทำลายเสาโทรศัพท์อีกว่า 900 เสาในปี 2548
- ประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ได้ตรากฎหมายจำกัดความแรงคลื่น และในหลายประเทศกำลังมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
- ประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดจุดปลอดสัญญาณไร้สายในโรงพยาบาลเด็กอ่อนและผู้สูงอายุ
"There is no scientific evidence that man made EMFs are safe".
ยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่จะพิสูจน์ได้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นจะปลอดภัย
Summary of EMF Issues ,references by 85 Professional
ท้ายที่สุดนี้....
Mobile companies should not bein the denial mode, and accept that radiationcauses serious health problems.
บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหลายก็ไม่ควรที่จะตั้งท่าคอยปฏิเสธอยู่ถ่ายเดียว และควรจะต้องยอมรับว่ารังสีสามารถทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่รุนแรงด้านสุขภาพได้ และต้องมีท่าทีและการยอมรับเช่นนี้ก่อนเท่านั้น ผู้คนทั่วโลกถึงจะได้ช่วยกันดำเนินการวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้พบทางออกของปัญหานี้
http://www.scribd.com/doc/24587464/Biological-Effects-of-Cell-Tower-Radiation-on-Human-Body
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
อยากคุยกับคนที่บอกว่าเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่อันตราย...มันจริงหรือ ?
เครื่องจักรส่งเสียงดังตลอดคืน...
ตอนที่เขาทาสีใหม่ ละอองสีฟุ้งเต็มหลังคาบ้านของฉัน...
เราคงรู้กันดีว่า เราไม่ควรวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างที่นอน
แล้วบ้านของฉัน ที่มีเสาส่งสัญญาณแผ่คลื่นรังสีทุกวันข้างหัวเตียงของฉัน จะเป็นอะไรไหม ?
ไม่มีใครยืนยันได้เลยสักคน
บางคนอาจจะกล่าวว่า เราใช้โทรศัพท์มือถืออยู่ทุกวัน
มีคลื่นสัญญาณ คลื่นรังสีผ่านสมองเราอยู่ทุกวัน
แต่เราเลือกที่จะอยู่ห่างมันได้ เลือกปิดมือถือ ปิดเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ต แล้วหลับอย่างสนิท
แต่ฉัน...คนที่มีเสาส่งสัญญาณส่งเสียงครางต่ำๆ อยู่ข้างหัวเตียง ไม่มีสิทธิทำอย่างนั้น
ผลการศึกษาวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศนับจากช่วงทศวรรษ 1980 พบว่าเสาพวกนี้ส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ซึ่งทำลายสุขภาพมนุษย์ได้ หากรับคลื่นแรงเกินควรและหรือเป็นเวลานานเกินไป
มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งถึง 2 เท่าตัว หากได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ก็สามารถกระทบต่อสมองมนุษย์ ทำให้น ปวดหัว หน้ามืด คลื่นเยน สับสน อ่อนเพลีย
ความจำเสื่อม ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ชักกระตุก ฯลฯ
คุณมาลานชา ละอองทิพย์ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้ตั้งคำถามว่า
เสาส่งสัญญาณต้นหนึ่ง มีคลื่นรังสีไมโครเวฟหรือพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเปิดอยู่ตลอดเวลา
ไม่เคยปิด 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่วันที่ติดตั้ง
แม้แต่วันที่ไฟฟ้าดับ มันยังคงรับและส่งสัญญาณอยู่ในที่ๆของมันเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างซื่อตรง แม่นยำ
ให้กับผู้ที่เรียกใช้มันในรัศมีที่มันสามารถส่งไปถึง
มีใครจะรู้ไหมว่าเมื่อคุณกดโทรศัพท์มือถือ ไปยังเลขหมายปลายทาง
คลื่นสัญญาณไมโครเวฟนั้นจะถูกส่งไปที่เสาต้นหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับและส่งต่อคลื่นโทรศัพท์ของคุณอีกที
กี่ครั้งที่มันต้องทำหน้าที่รับและส่งในเวลาหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงอาจมีการรับ-ส่งเป็นหมื่นหรือแสนครั้งต่อวัน
ไม่มีใครมองเห็นคลื่นนั้นด้วยตาเปล่าเพราะมันคือพลังงานชนิดหนึ่ง
แล้วลองคิดตามดูว่าคนที่มีที่พักอาศัยอยู่ใกล้เสาฯเขาต้องมีคลื่นรังสีไมโครเวฟตัวนี้ผ่านศีรษะไปวันละกี่ครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มก็ยืนยันอย่างชัดเจนว่าคลื่นรังสีตัวนี้ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
มันจึงถูกติดตั้งทุกที่ บนหลังคาดาดฟ้า ข้างบ้านหน้าบ้าน หลังบ้าน
คนที่อยู่ใกล้ กับเสาสัญญาณเหล่านี้ไม่สามารถปิดคลื่นจากรังสีตัวนี้ได้มันยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ชิด รอบๆ ตัว
เมื่อมีการรับส่งสัญญาณจากทุกสารทิศ ก็จะมีสัญญาณวิ่งผ่านข้ามศีรษะไปมาไม่ว่าจะนั่งนอน ยืน เดิน ทานอาหาร อ่านหนังสือ
ไม่ว่าจะเปิดโทรทัศน์โทรศัพท์หรือปิดมันเพราะรู้สึกไม่อยากเล่นกับคลื่นในวันนี้ แต่มันยังอยู่ที่เดิม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่ารังสีเหล่านี้ไม่ตกค้างในร่างกาย
และไม่มีผลกระทบอันตรายที่ร้ายแรงใดๆ แน่นอน
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่มีบ้านใกล้เรือนเคียงเสาฯจึงรู้สึกปลอดภัยและ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
เพราะถึงจะแย้งก็แย้งได้ลำบากเพราะผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นต่างยกเอาทฤษฎี
ผลงานวิจัยผลการพิสูจน์จากองค์กร และองค์การ ต่างๆ มากมายมาอ้าง
เพื่อประกอบเป็นหลักฐานอ้างอิงได้อย่างช่ำชองและตรงกันหมดเหมือนกับว่าทุกคนที่อยู่ภายในหน่วยงาน
ได้ถูกส่งเข้าอบรมคอร์สเรื่องความไม่อันตรายของเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จากตำราเล่มเดียวกันหมด
มีบทความมากมายกล่าวถึงความเสี่ยงที่จะตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้กับโรงเรียน
เพราะพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ายิ่งความถี่ต่ำมากๆ
จะมีผลการทำลายเซลล์ในระยะยาวได้ เนื่องด้วยคลื่นรังสีคือพลังงานไม่ใช่สารรังสีที่จะตกค้าง
แต่มันสามารถแปลงเป็นอนุมูลอิสระแล้วไปทำร้ายเซลล์หรือทำร้ายเซลล์โดยตรง
โดยเฉพาะเนื้อสมองของเด็กน้อย และเอ็นไซม์ในเลือดซึ่งถือเป็นเซลล์อย่างหนึ่ง
ดังนั้นหลายประเทศจึงได้พยายามแสวงหานโยบายและมาตรการป้องกันอันตรายของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
จากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ
แม้แต่ที่องค์การอนามัยโลกก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องผลกระทบทางชีวภาพของรังสีไมโครเวฟ
ที่ส่งคลื่นมาจากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือก็เป็นเพียงการยืนยันว่า
ไม่มีผลกระทบระยะสั้นแต่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปกป้องประชาชนจากผลกระทบระยะยาว
เรามี....พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550
มาตรา 5 บุคคลมีสิทธิในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
มาตรา 10 เมื่อมีกรณีที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเกิดขึ้น
หน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ กรณีดังกล่าว ต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นและวิธีป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ
ให้ประชาชนทราบและจัดหาข้อมูลให้โดยเร็ว การเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งต้อง
ไม่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
มาตรา11 บุคคลหรือคณะบุคคลมีสิทธิร้องขอให้มีการประเมินและมีสิทธิได้รับข้อมูล
คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการอนุญาต หรือการดำเนินโครงการ
หรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบ สิทธิความเป็นพลเมืองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
แต่ฉันจะทำอะไรได้บ้าง ?
ทีนี้มาดูประเทศอื่นๆบ้าง ว่าเขาจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง
- ชาวอังกฤษประท้วงให้ถอนเสาทีใกล้บ้านเขา เหตุเพราะมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง เช่นมะเร็งผิวหนัง ในครอบครัวเพิ่มขึ้น
- ประเทศอิสราเอล เกิดจลาจลเผาเสาโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากพบว่ามีผู้ป่วยเป็นมะเร็งกว่า 200 คน
- ประเทศไต้หวันมีการทำลายเสาโทรศัพท์อีกว่า 900 เสาในปี 2548
- ประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ได้ตรากฎหมายจำกัดความแรงคลื่น และในหลายประเทศกำลังมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
- ประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดจุดปลอดสัญญาณไร้สายในโรงพยาบาลเด็กอ่อนและผู้สูงอายุ
"There is no scientific evidence that man made EMFs are safe".
ยังไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่จะพิสูจน์ได้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกมนุษย์สร้างขึ้นจะปลอดภัย
Summary of EMF Issues ,references by 85 Professional
ท้ายที่สุดนี้....
Mobile companies should not bein the denial mode, and accept that radiationcauses serious health problems.
บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหลายก็ไม่ควรที่จะตั้งท่าคอยปฏิเสธอยู่ถ่ายเดียว และควรจะต้องยอมรับว่ารังสีสามารถทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่รุนแรงด้านสุขภาพได้ และต้องมีท่าทีและการยอมรับเช่นนี้ก่อนเท่านั้น ผู้คนทั่วโลกถึงจะได้ช่วยกันดำเนินการวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้พบทางออกของปัญหานี้
http://www.scribd.com/doc/24587464/Biological-Effects-of-Cell-Tower-Radiation-on-Human-Body
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ