เคยลองกันหรือยังครับกับ LINE Shop application ใหม่จาก LINE เท่าที่ผมได้ทดลองใช้ ได้ผลแบบนี้ัครับ !!!
จนถึงวันนี้คงไม่ต้องถามกันแล้วนะครับว่าแอพพลิเคชั่นใดบนสมาร์ทโฟนที่ครองใจคนไทยมากที่สุด เพราะหลายคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “LINE” คือแอพฯ แรกที่นึกถึง ไม่ว่าจะแชท จะโทร จะเล่นเกม แม้แต่จะซื้อขาย LINE ทำได้หมด จนกระทั่งล่าสุด Naver บริษัทแม่ของ LINE ในเกาหลี ก็ตัดสินใจเคาะแอพพลิเคชั่นตัวใหม่ตระกูล LINE ที่ออกมารองรับการทำธุรกิจซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่นเต็มตัวในชื่อของ “LINE Shop” ซึ่งนำร่องเปิดตัวแอพฯ นี้ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก หลังจากที่ความนิยมของผู้ใช้ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทาบจำนวนผู้ใช้ในญี่ปุ่นและไต้หวันได้สำเร็จ โดยหวังว่าจะเป็นช่องทางค้าขายในกลุ่มผู้ใช้ LINE ด้วยกัน ที่จะกลายเป็นสังคมอีคอมเมิรซ์ที่แข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้
เจาะขั้นตอนเปิดร้าน ขายสบาย แถมง่ายนิดเดียว
จากแอพฯ สนทนาแต่ต่อยอดมาจนกลายเป็นสังคมขนาดย่อมๆ LINE จึงนำความได้เปรียบตรงนี้มาผสมเข้ากับฟังก์ชั่นร้านค้า มีหน้าร้านแถมมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนสนทนาระหว่างลูกค้ากับผู้ขาย ซึ่งหากใครพอจะจำได้ ก่อนหน้านี้ LINE ก็เคยสร้าง marketplace ของตัวเองคือ LINE Flash Sale สำหรับขายสินค้าลิขสิทธ์ของ LINE โดยเฉพาะ จำพวกเคสสมาร์ทโฟน, กระเป๋า, เสื้อ และของที่ระลึกลายการ์ตูนอีกจิปาถะ แต่ LINE Shop จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ LINE ทุกคนได้มีร้านค้าเป็นของตัวเอง
LINE Shop เป็นแอพพลิเคชั่นแยกต่างหาก (stand alone) จากแอพฯ สนทนา ซึ่งตอนนี้เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งผู้ใช้ iOS และแอนดรอยด์ จะเปิดร้านผ่าน LINE Shop ทำได้ไม่ยากครับ ยิ่งถ้าใครมีบัญชีผู้ใช้ LINE อยู่ด้วยแล้วก็สามารถสร้างร้านได้ทันที ซึ่งจากเดิมที่พี่ไทยเราประยุกต์เอาแอพฯ สนทนาไปเป็นร้านขายของนั้น ปัญหาคือผู้ซื้อกับผู้ขายจะต้องแอด LINE ID กันก่อนเพื่อเข้าโหมดแชท แต่ใน LINE Shop ฟังก์ชั่นพวกนี้จะมาพร้อมกันเบ็ดเสร็จ เรียกว่าจิ้มไปไม่กี่ทีตามขั้นก็เปิดร้านได้แล้ว ง่ายแค่ไหน มาดูขั้นตอนกันครับ
1. ดาวน์โหลดแอพ LINE SHOP สำหรับผู้ใช้งานไอโฟน ไอแพด (iOS) ดาวน์โหลดที่
https://itunes.apple.com/th/app/line-shop-easy-free-shopping/id896126632?mt=8
สำหรับผู้ใช้งานมือถือหรือแทบเล็ตระบบแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดที่
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.linecorp.lineec.android
เมื่อติดตั้งแล้ว เปิดแอพ LINE SHOP ขึ้นมา จะเจอหน้าตาแบบนี้
2. เข้าสู่ระบบ ซึ่งสามารถเลือกการเข้าสู่ระบบได้สองแบบคือ “เข้าสู่ระบบด้วย LINE” หรือ “เข้าสู่ระบบด้วยอีเมล” ใครมีบัญชี LINE อยู่แล้ว ก็เอาบัญชีที่เราแชทอยู่ทุกวันมาใช้ได้เลยครับ โดยระบบจะให้ทำการยืนยันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในไลน์ของคุณ ให้เลือก “อนุญาต” เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป
3. หลังจากเข้าสู่ระบบ ผู้ใช้ทุกคนจะยังอยู่ในสถานะ “ผู้ซื้อ” ซึ่งหากคุณต้องการเป็น “ผู้ขาย” หรือเปิดร้านค้าช้อปปิ้งออนไลน์ ให้คุณเลือกที่สัญลักษณ์ฟันเฟือง ตรงมุมขวาบน แล้วเลือกหัวข้อ “เปิดร้านค้าใหม่”
4. ระบบจะให้คุณเลือกรูปแบบร้านค้า โดยมีสองแบบคือ “ธรรมดา” และ “ร้านค้าที่ได้รับการรับรอง” โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันคือ แบบธรรมดาจะเป็นใครก็ได้ แต่แบบรับรองหรือ Sally Grade จะให้เจ้าของร้านเพิ่มเติมหลักฐานการยืนยันตัวตนร้านค้าบางอย่าง แต่ก็จะทำให้ได้รับสิทธิพิเศษมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
5. เมื่อได้ร้านมาแล้ว ก็เข้าไปตกแต่งร้านกันหน่อยครับ ส่วนปรับแต่งตรงนี้ LINE ไม่ได้ให้อะไรที่ซับซ้อนจนเกินไป หลักๆ คือเราจะมี cover และรูปโปรไฟล์ร้านของตัวเอง มีโทนสีมาให้เลือก จากนั้นก็เข้าไปใส่ร้านละเอียดของร้านเช่น ที่อยู่ เบอร์โทร รายละเอียดของร้านเพิ่มเติม เมื่อครบแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้น
6. ระบบจะพาเรามายังหน้าร้านของเรา ตรงนี้จะเริ่มสนุกเพราะจะมีฟอร์มมาให้เราใส่รายละเอียดสินค้า หรูหราไฮโซกว่าแบบแชทเดิมๆ มากมาย ใส่ราคาได้ และที่มันเจ๋งมากคือ มีส่วนโปรโมชั่นมาให้ใช้ได้ (เยี่ยมสุดๆ) สินค้าเหล่านี้ ผู้ซื้อสามารถเข้ามารีวิวได้ด้วย หากจะส่งข่าวสารอะไรไปยังผู้ติดตาม ก็โพสผ่าน Timeline ได้เลย ดูเป็นแบบแผนน่าเชื่อถือกว่าเดิมเยอะมากครับ
ล่าสุดจากการสำรวจ พ่อค้าแม่ค้าที่เลือกเปิดร้านบน LINE Shop กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน เพราะความสะดวกที่จัดมาให้พร้อมตั้งแต่หมวดหมู่ร้านค้าที่เยอะและจำแนกง่ายมาก คนขายก็ไม่มึน ลูกค้าก็ไม่หลง และโหมดการสนทนา การปฏิสัมพันธ์นั้น ออกแบบและคิดมาอย่างเข้าใจทั้งคนซื้อและคนขาย รวมถึงพฤติกรรมของคนไทยด้วย
แม้ในขณะนี้ LINE Shop จะยังรองรับผู้ใช้บทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (ยังไม่รองรับการใช้งานบน PC) แต่ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นการเปิดตัวบริการใหม่ที่งดงาม และประสบความสำเร็จอีกครั้งสำหรับ Naver ก่อนจะนำ LINE เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ
>> ร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้งานได้เลยนะครับ ของแบบนี้ยิ่งแชร์ยิ่งเยอะประสบการณ์ (เอ๊ะ คำนี้คุ้นๆแฮะ)
ขอบคุณบทความจาก asiashopmobile
LINE Shop ขายกันให้หนำใจ เปิดตัวเมืองไทยที่แรกในโลก!
จนถึงวันนี้คงไม่ต้องถามกันแล้วนะครับว่าแอพพลิเคชั่นใดบนสมาร์ทโฟนที่ครองใจคนไทยมากที่สุด เพราะหลายคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “LINE” คือแอพฯ แรกที่นึกถึง ไม่ว่าจะแชท จะโทร จะเล่นเกม แม้แต่จะซื้อขาย LINE ทำได้หมด จนกระทั่งล่าสุด Naver บริษัทแม่ของ LINE ในเกาหลี ก็ตัดสินใจเคาะแอพพลิเคชั่นตัวใหม่ตระกูล LINE ที่ออกมารองรับการทำธุรกิจซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่นเต็มตัวในชื่อของ “LINE Shop” ซึ่งนำร่องเปิดตัวแอพฯ นี้ในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก หลังจากที่ความนิยมของผู้ใช้ในเมืองไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนทาบจำนวนผู้ใช้ในญี่ปุ่นและไต้หวันได้สำเร็จ โดยหวังว่าจะเป็นช่องทางค้าขายในกลุ่มผู้ใช้ LINE ด้วยกัน ที่จะกลายเป็นสังคมอีคอมเมิรซ์ที่แข็งแกร่งในอนาคตอันใกล้
เจาะขั้นตอนเปิดร้าน ขายสบาย แถมง่ายนิดเดียว
จากแอพฯ สนทนาแต่ต่อยอดมาจนกลายเป็นสังคมขนาดย่อมๆ LINE จึงนำความได้เปรียบตรงนี้มาผสมเข้ากับฟังก์ชั่นร้านค้า มีหน้าร้านแถมมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนสนทนาระหว่างลูกค้ากับผู้ขาย ซึ่งหากใครพอจะจำได้ ก่อนหน้านี้ LINE ก็เคยสร้าง marketplace ของตัวเองคือ LINE Flash Sale สำหรับขายสินค้าลิขสิทธ์ของ LINE โดยเฉพาะ จำพวกเคสสมาร์ทโฟน, กระเป๋า, เสื้อ และของที่ระลึกลายการ์ตูนอีกจิปาถะ แต่ LINE Shop จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ LINE ทุกคนได้มีร้านค้าเป็นของตัวเอง
LINE Shop เป็นแอพพลิเคชั่นแยกต่างหาก (stand alone) จากแอพฯ สนทนา ซึ่งตอนนี้เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทั้งผู้ใช้ iOS และแอนดรอยด์ จะเปิดร้านผ่าน LINE Shop ทำได้ไม่ยากครับ ยิ่งถ้าใครมีบัญชีผู้ใช้ LINE อยู่ด้วยแล้วก็สามารถสร้างร้านได้ทันที ซึ่งจากเดิมที่พี่ไทยเราประยุกต์เอาแอพฯ สนทนาไปเป็นร้านขายของนั้น ปัญหาคือผู้ซื้อกับผู้ขายจะต้องแอด LINE ID กันก่อนเพื่อเข้าโหมดแชท แต่ใน LINE Shop ฟังก์ชั่นพวกนี้จะมาพร้อมกันเบ็ดเสร็จ เรียกว่าจิ้มไปไม่กี่ทีตามขั้นก็เปิดร้านได้แล้ว ง่ายแค่ไหน มาดูขั้นตอนกันครับ
1. ดาวน์โหลดแอพ LINE SHOP สำหรับผู้ใช้งานไอโฟน ไอแพด (iOS) ดาวน์โหลดที่ https://itunes.apple.com/th/app/line-shop-easy-free-shopping/id896126632?mt=8
สำหรับผู้ใช้งานมือถือหรือแทบเล็ตระบบแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.linecorp.lineec.android
เมื่อติดตั้งแล้ว เปิดแอพ LINE SHOP ขึ้นมา จะเจอหน้าตาแบบนี้
2. เข้าสู่ระบบ ซึ่งสามารถเลือกการเข้าสู่ระบบได้สองแบบคือ “เข้าสู่ระบบด้วย LINE” หรือ “เข้าสู่ระบบด้วยอีเมล” ใครมีบัญชี LINE อยู่แล้ว ก็เอาบัญชีที่เราแชทอยู่ทุกวันมาใช้ได้เลยครับ โดยระบบจะให้ทำการยืนยันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในไลน์ของคุณ ให้เลือก “อนุญาต” เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป
3. หลังจากเข้าสู่ระบบ ผู้ใช้ทุกคนจะยังอยู่ในสถานะ “ผู้ซื้อ” ซึ่งหากคุณต้องการเป็น “ผู้ขาย” หรือเปิดร้านค้าช้อปปิ้งออนไลน์ ให้คุณเลือกที่สัญลักษณ์ฟันเฟือง ตรงมุมขวาบน แล้วเลือกหัวข้อ “เปิดร้านค้าใหม่”
4. ระบบจะให้คุณเลือกรูปแบบร้านค้า โดยมีสองแบบคือ “ธรรมดา” และ “ร้านค้าที่ได้รับการรับรอง” โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันคือ แบบธรรมดาจะเป็นใครก็ได้ แต่แบบรับรองหรือ Sally Grade จะให้เจ้าของร้านเพิ่มเติมหลักฐานการยืนยันตัวตนร้านค้าบางอย่าง แต่ก็จะทำให้ได้รับสิทธิพิเศษมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
5. เมื่อได้ร้านมาแล้ว ก็เข้าไปตกแต่งร้านกันหน่อยครับ ส่วนปรับแต่งตรงนี้ LINE ไม่ได้ให้อะไรที่ซับซ้อนจนเกินไป หลักๆ คือเราจะมี cover และรูปโปรไฟล์ร้านของตัวเอง มีโทนสีมาให้เลือก จากนั้นก็เข้าไปใส่ร้านละเอียดของร้านเช่น ที่อยู่ เบอร์โทร รายละเอียดของร้านเพิ่มเติม เมื่อครบแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้น
6. ระบบจะพาเรามายังหน้าร้านของเรา ตรงนี้จะเริ่มสนุกเพราะจะมีฟอร์มมาให้เราใส่รายละเอียดสินค้า หรูหราไฮโซกว่าแบบแชทเดิมๆ มากมาย ใส่ราคาได้ และที่มันเจ๋งมากคือ มีส่วนโปรโมชั่นมาให้ใช้ได้ (เยี่ยมสุดๆ) สินค้าเหล่านี้ ผู้ซื้อสามารถเข้ามารีวิวได้ด้วย หากจะส่งข่าวสารอะไรไปยังผู้ติดตาม ก็โพสผ่าน Timeline ได้เลย ดูเป็นแบบแผนน่าเชื่อถือกว่าเดิมเยอะมากครับ
ล่าสุดจากการสำรวจ พ่อค้าแม่ค้าที่เลือกเปิดร้านบน LINE Shop กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน เพราะความสะดวกที่จัดมาให้พร้อมตั้งแต่หมวดหมู่ร้านค้าที่เยอะและจำแนกง่ายมาก คนขายก็ไม่มึน ลูกค้าก็ไม่หลง และโหมดการสนทนา การปฏิสัมพันธ์นั้น ออกแบบและคิดมาอย่างเข้าใจทั้งคนซื้อและคนขาย รวมถึงพฤติกรรมของคนไทยด้วย
แม้ในขณะนี้ LINE Shop จะยังรองรับผู้ใช้บทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (ยังไม่รองรับการใช้งานบน PC) แต่ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นการเปิดตัวบริการใหม่ที่งดงาม และประสบความสำเร็จอีกครั้งสำหรับ Naver ก่อนจะนำ LINE เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ
>> ร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้งานได้เลยนะครับ ของแบบนี้ยิ่งแชร์ยิ่งเยอะประสบการณ์ (เอ๊ะ คำนี้คุ้นๆแฮะ)
ขอบคุณบทความจาก asiashopmobile