สืบเนื่องจากกระทู้ด้านข้อสอบ ของ ธนาคารกรุงไทย (แบบกว้างๆ) ที่มีอยู่หลายส่วน หลายหัวข้อ เช่น
1. ความรู้เกี่ยวกับธนาคารกรุงไทย (ส่วนใหญ่มีในเว็บไซต์) เช่น พันธกิจ, สัญลักษณ์, ประวัติธนาคาร, หลักของสินเชื่อ, หลักการตลาด เป็นต้น
2. ด้านการคำนวณ เรขาคณิต, เลขอนุกรม, การคำนวนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ, เงินฝากออมทรัพย์
3. ด้านทักษะ ทัศนคติ หรือ EQ
4. ด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ของทางธนาคาร (ในเว็บไซต์ ส่วนของข้อมูลผลิตภัณฑ์ เช่น เงินฝาก, สินเชื่อ, ประกัน, กองทุนต่างๆ)
5. ด้านการตัดสินใจให้การบริการลูกค้า
>>>> อันนี้ คือ กว้างๆ น้องๆ ไปหาอ่านในหน้าเว็บไซต์ของธนาคารได้ และ เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการลงทุนต่างๆ <<<<
ส่วนด้านการสอบสัมภาษณ์ เน้นการนำเสนอการขายผลิตภัณฑ์ (นำเสนอของกรุงไทยดีที่สุด) ให้กรรมการประทับใจ ถูกใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าของเราให้ได้
1. แนะนำตัวคราวๆ (ชื่อ, อายุ, จบการศึกษาที่ไหน, เคยทำงานอะไร, กิจกรรมยามว่าง... เป็นต้น)
2. แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เสนอขาย (ควรทำสื่อการนำเสนอเอง เช่น โบชัวหรือแผ่นพับต่างๆ ถ้ามีตัวอย่างสินค้านั้นๆ ก็นำไปประกอบการสัมภาษณ์ด้วย)
3. เตรียมคำถามที่อาจเป็นช่องทางให้คณะกรรมการถามได้ หรือ หัดตอบข้อโต้แย้งด้านการขายให้ได้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเทคนิค และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
ส่วนสุดท้ายด้านการไปอบรม + ทำงานจริง (อบรมทฤษฎีที่ กทมฯ และอบรมภาคปฏิบัติที่เขาใหญ่)
น้องๆ ต้องทำความคุ้นเคยกับระบบงานอย่าง PD Teller ก่อน ซึ่งเป็นโปรแกรมด้านการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ฝาก / ถอน / โอนต่างธนาคาร / ซื้อ - เบิก ตั๋วแลกเงิน / ชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ (Payments) / การเบิกเช็ค เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการทำงานด้านนี้
>>>> และมีการทดสอบทั้งข้อเขียน และ ปฎิบัติด้วย ก่อนที่จะมาลงที่สาขา <<<<
ถึงเวลาลงสาขา นั่งเคาว์เตอร์จริงๆ
เช้ามาก่อน 8.00 น. เพื่อมาเปิดคอมฯ เตรียมอุปกรณ์บนโต๊ะ ตราประทับต่างๆ จากนั้น 8.00 - 8.15 น. ประชุม Morning ตอนเช้า (รายงานผลการขายวันที่ผ่านมา ชื่นชมผลงาน แบ่งปันประสบการณ์ขาย ....) จากนั้น น้องไปรับเงินจากพี่แคชเชียร์ นับเงิน เก็บเข้าลิ้นชักตนเอง .... รอ ....
>> แบงค์ เปิด 8.30 น. น้องๆ ก็กดเรียกคิวลูกค้า ทำงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ .... เงินเกิน 7 แสน น้องๆ ต้องส่งเงินให้แคชเชียร์ (แต่ถ้าเป็นพี่ๆ ถ้ามัดธนบัตรได้หลายๆ มัดก็จะรีบส่งเลย ป้องกันการผิดพลาด)
จนแบงค์ปิด 16.30 น.
น้องๆ ต้องนับเงินให้ตรงกับจำนวนเงินในระบบ ส่งเงิน (TO) ของแคชเชียร์ จากนั้นมานั่งแยกสลิป แต่ละหัวออกจากกัน เช่น SDCH, SWCH เป็นต้น
แล้วมาบวกๆๆ กระทบยอดให้ตรง (เอาเป็นว่า ถ้าสาขาไหนลูกค้าเยอะก็นั่งบวกๆ นานหน่อยแล้วกัน 555+)
ส่วนสาขาในห้าง (สงสารนะ) เพราะปิดแบงค์ เลิกงานดึก แม้ว่าจะเปิดทำงาน (เวลาเปิดตามห้างฯ) 10.00 น. ก็ตาม >> เหนื่อยแท้ แถมต้องเจอลูกค้าประเภทที่ต้องบริการรวดเร็ว ทันใจ เพราะอยู่ห้าง รอนานไม่ได้
แต่สุดท้ายนี้ ไม่ว่าน้องๆ จะเข้ามาทำงานตำแหน่งอะไร ขอให้น้องๆ มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ อดทน ขยัน พี่เชื่อว่า ถ้าอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จด้านการทำงานอย่างแน่นอน >>> เนื่องจาก ปัจจุบัน ธ. กรุงไทย เน้นด้านการบริการที่ดี + เน้นการขายเป็นหลัก น้องต้องมียอด เช่น ยอดเงินฝาก / ยอดประกัน เป็นต้น เพราะมีผลต่อการประเมินผลงาน (KPI) รายบุคคล ที่ทางธนาคารได้ปรับปรุงระบบใหม่ วัดเป็นตัวเลข เป็น % เป็นหลัก
ดังนั้น พนักงานตำแหน่งนี้มีหน้าที่หลักๆ คือ บริการลูกค้า + นำเสนอผลิตภัณฑ์ (หรือปิดการขายได้ ก็ยิ่งดี)
KPI ที่ประเมินผลการทำงานของตำแหน่งนี้ ยกตัวอย่าง เช่น
1. ผลงานด้านการขาย
2. รายงาน % การ Error รายการ
3. คะแนนประเมินความพึงพอใจในการทำงานที่ลูกค้าให้
4. ผลงานด้านการ Referral ลูกค้า (อย่างน้อย 5 คนต่อวัน)
และอื่นๆ อีก ... ไว้เจอกันในตอนทำงานเลยดีกว่า ^^
หลังไมค์... ตำแหน่ง ออเธอะไรสเทลเลอร์ ของ ธ.กรุงไทย เขาทำงานอะไรกันบ้าง?
1. ความรู้เกี่ยวกับธนาคารกรุงไทย (ส่วนใหญ่มีในเว็บไซต์) เช่น พันธกิจ, สัญลักษณ์, ประวัติธนาคาร, หลักของสินเชื่อ, หลักการตลาด เป็นต้น
2. ด้านการคำนวณ เรขาคณิต, เลขอนุกรม, การคำนวนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ, เงินฝากออมทรัพย์
3. ด้านทักษะ ทัศนคติ หรือ EQ
4. ด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ของทางธนาคาร (ในเว็บไซต์ ส่วนของข้อมูลผลิตภัณฑ์ เช่น เงินฝาก, สินเชื่อ, ประกัน, กองทุนต่างๆ)
5. ด้านการตัดสินใจให้การบริการลูกค้า
>>>> อันนี้ คือ กว้างๆ น้องๆ ไปหาอ่านในหน้าเว็บไซต์ของธนาคารได้ และ เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการลงทุนต่างๆ <<<<
ส่วนด้านการสอบสัมภาษณ์ เน้นการนำเสนอการขายผลิตภัณฑ์ (นำเสนอของกรุงไทยดีที่สุด) ให้กรรมการประทับใจ ถูกใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าของเราให้ได้
1. แนะนำตัวคราวๆ (ชื่อ, อายุ, จบการศึกษาที่ไหน, เคยทำงานอะไร, กิจกรรมยามว่าง... เป็นต้น)
2. แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เสนอขาย (ควรทำสื่อการนำเสนอเอง เช่น โบชัวหรือแผ่นพับต่างๆ ถ้ามีตัวอย่างสินค้านั้นๆ ก็นำไปประกอบการสัมภาษณ์ด้วย)
3. เตรียมคำถามที่อาจเป็นช่องทางให้คณะกรรมการถามได้ หรือ หัดตอบข้อโต้แย้งด้านการขายให้ได้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเทคนิค และประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
ส่วนสุดท้ายด้านการไปอบรม + ทำงานจริง (อบรมทฤษฎีที่ กทมฯ และอบรมภาคปฏิบัติที่เขาใหญ่)
น้องๆ ต้องทำความคุ้นเคยกับระบบงานอย่าง PD Teller ก่อน ซึ่งเป็นโปรแกรมด้านการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ฝาก / ถอน / โอนต่างธนาคาร / ซื้อ - เบิก ตั๋วแลกเงิน / ชำระค่าสินค้าและค่าบริการต่างๆ (Payments) / การเบิกเช็ค เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการทำงานด้านนี้
>>>> และมีการทดสอบทั้งข้อเขียน และ ปฎิบัติด้วย ก่อนที่จะมาลงที่สาขา <<<<
ถึงเวลาลงสาขา นั่งเคาว์เตอร์จริงๆ
เช้ามาก่อน 8.00 น. เพื่อมาเปิดคอมฯ เตรียมอุปกรณ์บนโต๊ะ ตราประทับต่างๆ จากนั้น 8.00 - 8.15 น. ประชุม Morning ตอนเช้า (รายงานผลการขายวันที่ผ่านมา ชื่นชมผลงาน แบ่งปันประสบการณ์ขาย ....) จากนั้น น้องไปรับเงินจากพี่แคชเชียร์ นับเงิน เก็บเข้าลิ้นชักตนเอง .... รอ ....
>> แบงค์ เปิด 8.30 น. น้องๆ ก็กดเรียกคิวลูกค้า ทำงานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ .... เงินเกิน 7 แสน น้องๆ ต้องส่งเงินให้แคชเชียร์ (แต่ถ้าเป็นพี่ๆ ถ้ามัดธนบัตรได้หลายๆ มัดก็จะรีบส่งเลย ป้องกันการผิดพลาด)
จนแบงค์ปิด 16.30 น.
น้องๆ ต้องนับเงินให้ตรงกับจำนวนเงินในระบบ ส่งเงิน (TO) ของแคชเชียร์ จากนั้นมานั่งแยกสลิป แต่ละหัวออกจากกัน เช่น SDCH, SWCH เป็นต้น
แล้วมาบวกๆๆ กระทบยอดให้ตรง (เอาเป็นว่า ถ้าสาขาไหนลูกค้าเยอะก็นั่งบวกๆ นานหน่อยแล้วกัน 555+)
ส่วนสาขาในห้าง (สงสารนะ) เพราะปิดแบงค์ เลิกงานดึก แม้ว่าจะเปิดทำงาน (เวลาเปิดตามห้างฯ) 10.00 น. ก็ตาม >> เหนื่อยแท้ แถมต้องเจอลูกค้าประเภทที่ต้องบริการรวดเร็ว ทันใจ เพราะอยู่ห้าง รอนานไม่ได้
แต่สุดท้ายนี้ ไม่ว่าน้องๆ จะเข้ามาทำงานตำแหน่งอะไร ขอให้น้องๆ มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ อดทน ขยัน พี่เชื่อว่า ถ้าอยู่ที่ไหนก็ประสบความสำเร็จด้านการทำงานอย่างแน่นอน >>> เนื่องจาก ปัจจุบัน ธ. กรุงไทย เน้นด้านการบริการที่ดี + เน้นการขายเป็นหลัก น้องต้องมียอด เช่น ยอดเงินฝาก / ยอดประกัน เป็นต้น เพราะมีผลต่อการประเมินผลงาน (KPI) รายบุคคล ที่ทางธนาคารได้ปรับปรุงระบบใหม่ วัดเป็นตัวเลข เป็น % เป็นหลัก
ดังนั้น พนักงานตำแหน่งนี้มีหน้าที่หลักๆ คือ บริการลูกค้า + นำเสนอผลิตภัณฑ์ (หรือปิดการขายได้ ก็ยิ่งดี)
KPI ที่ประเมินผลการทำงานของตำแหน่งนี้ ยกตัวอย่าง เช่น
1. ผลงานด้านการขาย
2. รายงาน % การ Error รายการ
3. คะแนนประเมินความพึงพอใจในการทำงานที่ลูกค้าให้
4. ผลงานด้านการ Referral ลูกค้า (อย่างน้อย 5 คนต่อวัน)
และอื่นๆ อีก ... ไว้เจอกันในตอนทำงานเลยดีกว่า ^^