สวัสดีค่ะ แม่หนูเป็นมะเร็งเต้านมระยะลุกลามค่ะ


ประวัติการรักษา... (ขออนุญาตใส่ในสปอยเพื่อไม่ให้กระทู้ยาวเกินไป)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ปลายปี 55 คีโม FAC 6 ครั้ง แล้วผ่าตัด ยังเหลือจุดเล็กๆ หลายสิบจุดในปอด และ จุดบนกระดูซี่โครงที่1 ใกล้ไหปลาร้าข้างขวา

- เมษา 56 ฉายแสง 16 ครั้ง

- ปลายปี 56 เจอก้อนที่ตับ 2 ก้อน ขนาด 0.9 และ 1.2 ได้ทำคีโม Paclitaxel  6 ครั้ง (ไม่ทราบผลว่าเป็นมะเร็ง 100%)
  หลังจากนั้น CT Scan เจอขั้วปอดโต ไม่มีก้อนในปอด ในตับแล้ว หมอส่งไปปรึกษาอีกรพ.นึง

- มีนา 57 หมออีกรพ.ให้ทำคีโมตัวเดิมต่อ
  กลับมาทำ อีก 4 ครั้ง

- มิถุนา 57 อัลตร้าซาวด์เจอก้อนที่ตับ 2 ก้อน ขนาด 1.0 และ 1.2 (ไม่ทราบผลว่าเป็นมะเร็ง 100% แต่คิดว่าคงใช่)
  ไม่แน่ใจว่าเป็นก้อนเดิม หรือก้อนใหม่ค่ะ

- กรกฏา 57 หมอสั่งเปลี่ยนยาเป็น Xeloda เพราะ แม่จะมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วและเจ็บหัวใจตอนรับคีโม Paclitaxel  ค่ะ

ตอนนี้ได้ทานคีโม Xeloda (Capecitabine) ได้ 2 สัปดาห์
ฝ่าเท้าเริ่มเป็นจุดๆ สีช้ำๆ แล้วค่ะ

เบื้องต้นพอจะทราบผลข้างเคียงของยาบ้างแล้วค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
     ยาซีโลดา (Xeloda) หรือชื่อสามัญทางยาว่า เคพไซาตาบีน (Capecitabine) มีข้อบ่งใช้ในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักระยะแพร่กระจาย มักใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นเพื่อรักษาเสริมหลังจากรักษาด้วยวิธีหลักแล้ว

     ยาเคพไซตาบีนยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งมีการเติบโตและลดขนาดของเซลล์มะเร็ง เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมผ่านลำไส้ จากนั้นจะผ่านขบวนการเปลี่ยนแปลงยาให้เป็น active 5-fluorouracil  (5-FU) ซึ่งเป็นตัวยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง โดยขบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ยาออกฤทธิ์อาศัยเอนไซม์ 3 ชนิด ซึ่งเอนไซม์ดังกล่าวพบเป็นจำนวนมากในเซลล์มะเร็งเมื่อเทียบกับเซลล์ปกติของร่างกาย ดังนั้นจึงเป็นข้อดีของยานี้โดยหลักการ คือ ทำให้ระดับของ 5-FU ที่เป็นตัวยาออกฤทธิ์ในก้อนมะเร็งสูงกว่าเซลล์ปกติของร่างกาย จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยมีผลต่อเซลล์ปกติของร่างกายน้อย

     อย่างไรก็ตาม ยานี้ก็ยังมีผลข้างเคียงต่อร่างกาย อาการที่ปรากฎเด่นชัดคือ Hand foot syndrome ซึ่งก็คือ ความรู้สึกผิดปกติบริเวณมือหรือเท้า โดยเกิดทั้งฝั่งซ้ายและขวาพร้อมกัน ระดับความรุนแรงจะแต่งต่างกันในแต่ละคน และอาการที่เกิดขึ้นจะดีขึ้นและหายไปหลังหยุดรับประทานยา อาการที่อาจเกิด คือ ผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีผื่นแดงหรือคล้ำขึ้น ผิวลอก มีการบวม แดง ชา รู้สึกเจ็บผิวหนังแห้งหรือคัน ในบางรายอาจเกิดแผลพุพอง มีอาการปวดรุนแรง

     นอกจากนี้ ก็อาจมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะบ้าง อาการข้างเคียงดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการบรรเทาแก้ไข

http://www.siamca.com/webboard-id346.html

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=wachan&date=03-03-2010&group=1&gblog=19


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อยากทราบถึงวิธีการลดและบรรเทาอาการมือเท้าลอกร่อน หรือแตก ที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาค่ะ
หากทาโลชั่นบำรุงมือและเท้าให้ชุ่มชื้น หรือบำรุงเล็บให้แข็งแรง จะสามารถช่วยลดอาการได้บ้างไหมคะ
ถ้าสามารถช่วยได้ มีโลชั่นหรือยาตัวไหนแนะนำเป็นพิเศษไหมคะ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ...