บ้านเรามีกันอยู่ 5 คน พ่อ แม่ เรา น้องชาย และน้องสาว เราสามพี่น้องเรียนจบ ป.ตรี กันหมดแล้ว ต่างคนแยกย้ายกันไปทำงาน จะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ที่ระยอง เดือนละครั้ง พวกเราอยู่กันด้วยความสงบสุข
จนกระทั่ง เดือน ก.ค. 56 หลานสาวพ่อ บอกว่าจะพาป้า (พี่ของพ่อ) ไปเที่ยวบ้านที่ระยอง (หลานสาวพ่อคนนี้ ตั้งแต่จำความได้ เคยเจอพ่อแม่เราไม่กี่ครั้ง แต่นางแอดเฟรนด์มาหาเราทางเฟสบุ้ค ประมาณ 2 ปีได้ละมั้ง ช่วงแรกๆ ที่แอดมา ก้อมาคุยแต่เรื่องแฟนนางรวย เมื่อก่อนลำบาก ตอนนี้สบาย เราก็ไม่ได้คิดอะไร แค่เออๆ ออๆ ไป แต่คุยได้ไม่กี่วัน เราไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้ตอบนาง)
วันที่มาเที่ยวบ้าน ที่บ้านมีแค่พ่อ แม่ และน้องชายที่กลับมาบ้านพอดี ส่วนครอบครัวหลานสาวพ่อ มีตัวนาง สามี ลูกสามี 2คน และป้าเรา มานั่งคุยกันที่บ้าน เดินเล่นในสวน แล้วก้อไปเที่ยวทะเลกัน
หลังจากวันที่หลานสาวพ่อกลับจากบ้าน เราไม่กี่วัน นางก็โพสเฟสบุ้คในกรุ้ปญาติ ว่า “
คนเราเมื่อความอิจฉามันครอบงำจิตใจมากๆ เห็นคนอื่นได้ดีกว่าก็ทนไม่ได้ ไม่อยากรับฟัง ก็จะพยายามพูดเรื่องไม่ดีของเค้า แต่ลืมมองที่เรื่องไม่ดีของตัวเอง คนอย่างนี้น่าสงสาร ถือว่ามีปัญหาทางจิตลูกๆๆควรดูแล………………………………” เราก็เอะใจ โทรไปถามแม่ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า เพราะตั้งแต่วันนั้นนางยังไม่เจอญาติที่ไหนเลย แต่แม่บอกไม่เห็นมีอะไร และเราเห็นว่าไม่มีการเอ่ยชื่อ เราจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก และครอบครัวเราไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวนางเลยตั้งแต่วันนั้น
ผ่านไป 1ปี เดือน ก.ค.57 มีคนมาคอมเม้นต์ ในโพสนั้น นางจึงมาตอบเม้นต์ว่า
“มันคงคิดว่าลูกมันวิเศษมั้ง มันคงไม่รู้ว่าเหนือฟ้าก็มีฟ้านะ พวกบัวใต้น้ำ อย่าสนใจมันเลย ... ไม่ต้องวิเศษแบบกากๆ อย่างพวกมัน”(ดูเอานะคะ คือใช้คำว่า มัน ทุกคำ) และอีก 2 วัน โพสรูปมีข้อความว่า
“คนเก่งเขาไม่คุย คนคุยมักไม่เก่ง คนโง่มักอวดเบ่ง คนเก่งเขาเจียมตัว” เราก็แค่เห็น แต่ไม่ได้ตอบอะไร
หลังจากนั้น อีกไม่กี่วัน โพสรูปตัวนางรับปริญญากับบัตรนักเรียน ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว พร้อมข้อความ ว่า
“พ่อแม่ให้เรียนในโรงเรียนดีมีชาติมีสกุล ........ ที่สำคัญพ่อแม่สอนดีให้รู้จักมารยาทและอย่าดูถูกคนอื่น (จำไว้นะคะพวกคุณเทวดาไม่มีสวรรค์จะอยู่ ถ้าไม่จบ เจอกัน)” ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครไม่จบ เพราะเราไม่เคยยุ่งกะนางเลย เราเลยปรึกษากับน้องว่า นางหมายถึงใคร ถ้าเป็นแม่เราจริง แล้วเราไม่ทำอะไร นางก็จะด่าไปเรื่อยๆ น้องสาวจึงลองเข้าไปเม้นต์ถามว่า เป็นอะไร นางจึงมาตอบว่า ไม่รู้จริงเหรอว่าหมายถึงแม่เรา ให้พวกเราที่เรียนกันสูงๆ ตักเตือนแม่ให้รู้จักมารยาทและกาลเทศะในการพูดกับนาง แล้วก็พิมด่าต่อไปอีก ประมาณ 5-6 เม้นต์ เนื้อหาหลักๆ ประมาณว่า
คนเก่งไม่ได้มีแต่คนที่จบจุฬา ธรรมศาสตร์ มจพ. ตัวนางก็เก่ง ปัจจุบันนางรับราชการ (นางบอก นางเป็นครู อยู่โรงเรียนสุเหร่า แห่งหนึ่ง เขตมีนบุรี) ความสามารถก็เก่งกว่าครูหลายๆ คนที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง (นี่คือคนที่ไม่ได้ดูถูกใครใช่ป่ะ)
เราเห็นด่าแม่เรา เราเลยด่านางกลับไปนิดหน่อย นางก็อาละวาด อีก 5-6 เม้นต์ นางถามว่า เรารู้เรื่องนางได้ยังไง เราติดตามนางเหรอ จิงๆ แล้วป่าวเลย เราก็เอามาจากที่นางเคยพิมบอกเราเอง ทั้งที่เราไม่ได้ถามนั่นแหละ เช่น เรื่องที่นางบอกว่า “แต่งงานกับสามีคนนี้ เพราะเขามีเงิน เราลำบากมาตลอดชีวิต มีแฟนก็น่าจะหารวยๆ หน่อย” หลักฐานทุกอย่างที่นางพิมบอกเราทั้งในข้อความ หรือที่ด่าแม่เราในกรุ้ป เราแคปหน้าจอเก็บไว้หมดแหละ มีแต่นางที่มาติดตามเฟสเรา สามคนพี่น้องตลอดเวลาที่ผ่านมา แล้วก็เอาไปนินทา กับญาติคนอื่นๆ บางทีแค่โพสไปกินข้าวกับเพื่อน ไปหลายคนด้วยทั้งผู้หญิงผู้ชาย ก็ไปใส่ไฟกันถึงไหนไม่รู้ พูดลอยๆ ไปเรื่อย ตามประสาคนขี้อิจฉา (นี่เรารู้ทีหลัง จากปากแม่นาง)
หลังจากด่านางเสร็จ เราเลยโทรถามแม่ และแม่โทรไปคุยกับป้า(แม่ของนาง) ถามว่านางโกรธอะไร ปรากฏว่า หลักๆ เลย นางไม่พอใจ ที่ตอนไประยอง ป้าถามแม่ว่า ลูกๆ เรียนไหน แม่เราก็ตอบไปตามความจริง ว่า เราเรียน ป.โท อยู่ มธ. น้องชายจบวิศวะ มจพ. น้องสาวจบพยาบาล สภากาชาดฯ และไม่พอใจมาก ที่แม่บอกว่า ตอนนี้น้องสาวเป็นพยาบาล อยู่โรงพยาบาลจุฬาฯ แม่ตอบแค่นี้เป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้เข้าข้างแม่นะ แต่เรารู้จักแม่เราดี ใครถามอะไรก็พูดไป ไม่ได้คิดอะไร ไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยอิจฉาใครด้วย แต่นางได้ยินแม่กับป้าเราคุยกัน แล้วนางก็หาว่าแม่เราดูถูกนาง ทั้งๆ ที่แม่เราไม่ได้ถามถึงการศึกษาของนางเลย นางจึงเจ็บแค้น แล้วพาลนินทาบ้านเราลับหลังทุกอย่าง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มาบ้านเราที่ระยอง ทั้งที่ไม่มีใครเชิญนะ ขอมาเอง คาดว่าจริงๆ แล้วคงตั้งใจไปอวดนั่นอวดนี่ แต่พอไปถึงไม่มีอะไรสู้ได้เลย ก็คงเฟล โรคประสาทกำเริบ คงมีปมอะไร เลยหาเรื่องเก็บมาด่าบ้านเราทุกเม็ด
นางบอกว่ามาถึงบ้านเรา แม่เราไม่เรียกเข้าบ้าน บอกบ้านเราไม่มีที่นั่ง........(ทั้งที่บ้านเราใหญ่กว่าบ้านนาง)
นางมาถึงบ้านเราบอกว่า สามีหิวข้าว แม่เราไม่มีข้าวให้กิน แล้วก็ไม่บอกว่าร้านอาหารอยู่ไหน..........(คือเราไม่รู้ว่า อดอยากมาจากไหน มาบ้านเรา เพื่อมาขอกินข้าวเหรอ ตามมารยาทควรกินมาก่อนด้วยซ้ำ แต่พ่อเราก็โทรสั่งข้าวกล่องมาให้กินนะ เพราะพ่อแม่เรากินข้าวกันแล้ว ถ้าให้ทำใหม่คงใช้เวลานาน แล้วอีกอย่างแม่เราไม่ชอบไปกินข้าวนอกบ้าน เพราะพ่อและลูกๆ กลับมาบ้านก็อยากกินข้าวฝีมือแม่ เค้าก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าร้านอาหารไหนอร่อยบ้าง)
ตอนนางกลับ ครอบครัวนางไปแวะทะเลกัน ด้วยความคิดถึงของป้าที่ไม่ได้เจอพ่อนาน ก็คงอยากเจออีก เลยโทรหาพ่อ บอกให้พ่อตามไปทะเล ตอนแรกพ่อก็ไม่อยากไป แต่เห็นนานๆ ป้ามาที เลยตามไป พอไปถึงเค้าก็กินอาหารกันจะหมดแล้ว ชวนพ่อ แม่ น้องชาย เรากิน ก็กินไปตามมารยาท นิดๆ หน่อยๆ เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว พอกลับไป มานินทาว่า บ้านเราไม่ช่วยจ่ายตังค่าข้าวที่ทะเล .....(เอ่อ...ที่โทรตามมาทะเล คือ จะให้มาจ่ายค่าข้าวให้เหรอ ไม่มีตังหรือว่าไง แล้วก็ไม่บอกพ่อแม่เราไปตรงๆ จะได้จ่ายให้)
แถมยังไปนินทากับญาติคนอื่นๆ ของเรา พวกนั้นก็ ร่วมนินทาด้วยอีก บอกว่า หลายปีก่อน ตอนที่น้ำท่วมหนักที่รังสิต หลานชายพ่ออีกคนพาภรรยามาขออาศัยบ้านเราอยู่ เพราะมีสุนัข และไก่ ต้องอยู่บ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มาอยู่เป็นเดือน พอกลับไป นินทาอีกว่า ตอนอยู่บ้านเรา ซื้อกับข้าวมากินกัน พ่อกับแม่ก็ไปกินกะเขา (พ่อแม่เราไม่ได้คิดอะไร ชวนกินก็กิน บ้านก็บ้านเรา แต่ไม่ได้กินตลอดนะ เพราะส่วนใหญ่เป็นกับแกล้มเหล้า ซึ่งพ่อเราไม่กินเหล้า ส่วนใหญ่แม่จะซื้อกับข้าวมากินกับพ่อต่างหากอยู่แล้ว) แล้วตอนนั้น มาอาศัยบ้านเราอยู่สองคนแล้วนะ ยังไปชวนเพื่อนมาอยู่อีก พ่อแม่เราเห็นเดือดร้อนก็ช่วยไว้ ก็มานินทาว่า ซื้อกับข้าวมากินกับเพื่อน พอกินเหลือ แม่เราเก็บหมด (แต่ความจริง แม่เราไม่ได้เก็บนะ เพื่อนเขาแหละเป็นคนเก็บไป) บ้านเราก็ไม่ใช่โฮมสเตย์นะ ไม่คิดค่าเช่าก็บุญเท่าไหร่แล้ว
เราเจอแบบนี้เซ็งเลย ไม่รู้จะไปเคลียร์กับใครก่อน
แม่เราโดนด่า!!! เพราะลูกเรียน จุฬา มธ มจพ. ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง
จนกระทั่ง เดือน ก.ค. 56 หลานสาวพ่อ บอกว่าจะพาป้า (พี่ของพ่อ) ไปเที่ยวบ้านที่ระยอง (หลานสาวพ่อคนนี้ ตั้งแต่จำความได้ เคยเจอพ่อแม่เราไม่กี่ครั้ง แต่นางแอดเฟรนด์มาหาเราทางเฟสบุ้ค ประมาณ 2 ปีได้ละมั้ง ช่วงแรกๆ ที่แอดมา ก้อมาคุยแต่เรื่องแฟนนางรวย เมื่อก่อนลำบาก ตอนนี้สบาย เราก็ไม่ได้คิดอะไร แค่เออๆ ออๆ ไป แต่คุยได้ไม่กี่วัน เราไม่ค่อยว่าง เลยไม่ค่อยได้ตอบนาง)
วันที่มาเที่ยวบ้าน ที่บ้านมีแค่พ่อ แม่ และน้องชายที่กลับมาบ้านพอดี ส่วนครอบครัวหลานสาวพ่อ มีตัวนาง สามี ลูกสามี 2คน และป้าเรา มานั่งคุยกันที่บ้าน เดินเล่นในสวน แล้วก้อไปเที่ยวทะเลกัน
หลังจากวันที่หลานสาวพ่อกลับจากบ้าน เราไม่กี่วัน นางก็โพสเฟสบุ้คในกรุ้ปญาติ ว่า “คนเราเมื่อความอิจฉามันครอบงำจิตใจมากๆ เห็นคนอื่นได้ดีกว่าก็ทนไม่ได้ ไม่อยากรับฟัง ก็จะพยายามพูดเรื่องไม่ดีของเค้า แต่ลืมมองที่เรื่องไม่ดีของตัวเอง คนอย่างนี้น่าสงสาร ถือว่ามีปัญหาทางจิตลูกๆๆควรดูแล………………………………” เราก็เอะใจ โทรไปถามแม่ว่ามีเรื่องอะไรรึเปล่า เพราะตั้งแต่วันนั้นนางยังไม่เจอญาติที่ไหนเลย แต่แม่บอกไม่เห็นมีอะไร และเราเห็นว่าไม่มีการเอ่ยชื่อ เราจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก และครอบครัวเราไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวนางเลยตั้งแต่วันนั้น
ผ่านไป 1ปี เดือน ก.ค.57 มีคนมาคอมเม้นต์ ในโพสนั้น นางจึงมาตอบเม้นต์ว่า “มันคงคิดว่าลูกมันวิเศษมั้ง มันคงไม่รู้ว่าเหนือฟ้าก็มีฟ้านะ พวกบัวใต้น้ำ อย่าสนใจมันเลย ... ไม่ต้องวิเศษแบบกากๆ อย่างพวกมัน”(ดูเอานะคะ คือใช้คำว่า มัน ทุกคำ) และอีก 2 วัน โพสรูปมีข้อความว่า “คนเก่งเขาไม่คุย คนคุยมักไม่เก่ง คนโง่มักอวดเบ่ง คนเก่งเขาเจียมตัว” เราก็แค่เห็น แต่ไม่ได้ตอบอะไร
หลังจากนั้น อีกไม่กี่วัน โพสรูปตัวนางรับปริญญากับบัตรนักเรียน ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว พร้อมข้อความ ว่า “พ่อแม่ให้เรียนในโรงเรียนดีมีชาติมีสกุล ........ ที่สำคัญพ่อแม่สอนดีให้รู้จักมารยาทและอย่าดูถูกคนอื่น (จำไว้นะคะพวกคุณเทวดาไม่มีสวรรค์จะอยู่ ถ้าไม่จบ เจอกัน)” ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครไม่จบ เพราะเราไม่เคยยุ่งกะนางเลย เราเลยปรึกษากับน้องว่า นางหมายถึงใคร ถ้าเป็นแม่เราจริง แล้วเราไม่ทำอะไร นางก็จะด่าไปเรื่อยๆ น้องสาวจึงลองเข้าไปเม้นต์ถามว่า เป็นอะไร นางจึงมาตอบว่า ไม่รู้จริงเหรอว่าหมายถึงแม่เรา ให้พวกเราที่เรียนกันสูงๆ ตักเตือนแม่ให้รู้จักมารยาทและกาลเทศะในการพูดกับนาง แล้วก็พิมด่าต่อไปอีก ประมาณ 5-6 เม้นต์ เนื้อหาหลักๆ ประมาณว่า คนเก่งไม่ได้มีแต่คนที่จบจุฬา ธรรมศาสตร์ มจพ. ตัวนางก็เก่ง ปัจจุบันนางรับราชการ (นางบอก นางเป็นครู อยู่โรงเรียนสุเหร่า แห่งหนึ่ง เขตมีนบุรี) ความสามารถก็เก่งกว่าครูหลายๆ คนที่จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง (นี่คือคนที่ไม่ได้ดูถูกใครใช่ป่ะ)
เราเห็นด่าแม่เรา เราเลยด่านางกลับไปนิดหน่อย นางก็อาละวาด อีก 5-6 เม้นต์ นางถามว่า เรารู้เรื่องนางได้ยังไง เราติดตามนางเหรอ จิงๆ แล้วป่าวเลย เราก็เอามาจากที่นางเคยพิมบอกเราเอง ทั้งที่เราไม่ได้ถามนั่นแหละ เช่น เรื่องที่นางบอกว่า “แต่งงานกับสามีคนนี้ เพราะเขามีเงิน เราลำบากมาตลอดชีวิต มีแฟนก็น่าจะหารวยๆ หน่อย” หลักฐานทุกอย่างที่นางพิมบอกเราทั้งในข้อความ หรือที่ด่าแม่เราในกรุ้ป เราแคปหน้าจอเก็บไว้หมดแหละ มีแต่นางที่มาติดตามเฟสเรา สามคนพี่น้องตลอดเวลาที่ผ่านมา แล้วก็เอาไปนินทา กับญาติคนอื่นๆ บางทีแค่โพสไปกินข้าวกับเพื่อน ไปหลายคนด้วยทั้งผู้หญิงผู้ชาย ก็ไปใส่ไฟกันถึงไหนไม่รู้ พูดลอยๆ ไปเรื่อย ตามประสาคนขี้อิจฉา (นี่เรารู้ทีหลัง จากปากแม่นาง)
หลังจากด่านางเสร็จ เราเลยโทรถามแม่ และแม่โทรไปคุยกับป้า(แม่ของนาง) ถามว่านางโกรธอะไร ปรากฏว่า หลักๆ เลย นางไม่พอใจ ที่ตอนไประยอง ป้าถามแม่ว่า ลูกๆ เรียนไหน แม่เราก็ตอบไปตามความจริง ว่า เราเรียน ป.โท อยู่ มธ. น้องชายจบวิศวะ มจพ. น้องสาวจบพยาบาล สภากาชาดฯ และไม่พอใจมาก ที่แม่บอกว่า ตอนนี้น้องสาวเป็นพยาบาล อยู่โรงพยาบาลจุฬาฯ แม่ตอบแค่นี้เป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้เข้าข้างแม่นะ แต่เรารู้จักแม่เราดี ใครถามอะไรก็พูดไป ไม่ได้คิดอะไร ไม่เคยดูถูกใคร ไม่เคยอิจฉาใครด้วย แต่นางได้ยินแม่กับป้าเราคุยกัน แล้วนางก็หาว่าแม่เราดูถูกนาง ทั้งๆ ที่แม่เราไม่ได้ถามถึงการศึกษาของนางเลย นางจึงเจ็บแค้น แล้วพาลนินทาบ้านเราลับหลังทุกอย่าง ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มาบ้านเราที่ระยอง ทั้งที่ไม่มีใครเชิญนะ ขอมาเอง คาดว่าจริงๆ แล้วคงตั้งใจไปอวดนั่นอวดนี่ แต่พอไปถึงไม่มีอะไรสู้ได้เลย ก็คงเฟล โรคประสาทกำเริบ คงมีปมอะไร เลยหาเรื่องเก็บมาด่าบ้านเราทุกเม็ด
นางบอกว่ามาถึงบ้านเรา แม่เราไม่เรียกเข้าบ้าน บอกบ้านเราไม่มีที่นั่ง........(ทั้งที่บ้านเราใหญ่กว่าบ้านนาง)
นางมาถึงบ้านเราบอกว่า สามีหิวข้าว แม่เราไม่มีข้าวให้กิน แล้วก็ไม่บอกว่าร้านอาหารอยู่ไหน..........(คือเราไม่รู้ว่า อดอยากมาจากไหน มาบ้านเรา เพื่อมาขอกินข้าวเหรอ ตามมารยาทควรกินมาก่อนด้วยซ้ำ แต่พ่อเราก็โทรสั่งข้าวกล่องมาให้กินนะ เพราะพ่อแม่เรากินข้าวกันแล้ว ถ้าให้ทำใหม่คงใช้เวลานาน แล้วอีกอย่างแม่เราไม่ชอบไปกินข้าวนอกบ้าน เพราะพ่อและลูกๆ กลับมาบ้านก็อยากกินข้าวฝีมือแม่ เค้าก็ไม่ค่อยรู้หรอกว่าร้านอาหารไหนอร่อยบ้าง)
ตอนนางกลับ ครอบครัวนางไปแวะทะเลกัน ด้วยความคิดถึงของป้าที่ไม่ได้เจอพ่อนาน ก็คงอยากเจออีก เลยโทรหาพ่อ บอกให้พ่อตามไปทะเล ตอนแรกพ่อก็ไม่อยากไป แต่เห็นนานๆ ป้ามาที เลยตามไป พอไปถึงเค้าก็กินอาหารกันจะหมดแล้ว ชวนพ่อ แม่ น้องชาย เรากิน ก็กินไปตามมารยาท นิดๆ หน่อยๆ เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว พอกลับไป มานินทาว่า บ้านเราไม่ช่วยจ่ายตังค่าข้าวที่ทะเล .....(เอ่อ...ที่โทรตามมาทะเล คือ จะให้มาจ่ายค่าข้าวให้เหรอ ไม่มีตังหรือว่าไง แล้วก็ไม่บอกพ่อแม่เราไปตรงๆ จะได้จ่ายให้)
แถมยังไปนินทากับญาติคนอื่นๆ ของเรา พวกนั้นก็ ร่วมนินทาด้วยอีก บอกว่า หลายปีก่อน ตอนที่น้ำท่วมหนักที่รังสิต หลานชายพ่ออีกคนพาภรรยามาขออาศัยบ้านเราอยู่ เพราะมีสุนัข และไก่ ต้องอยู่บ้านที่มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ มาอยู่เป็นเดือน พอกลับไป นินทาอีกว่า ตอนอยู่บ้านเรา ซื้อกับข้าวมากินกัน พ่อกับแม่ก็ไปกินกะเขา (พ่อแม่เราไม่ได้คิดอะไร ชวนกินก็กิน บ้านก็บ้านเรา แต่ไม่ได้กินตลอดนะ เพราะส่วนใหญ่เป็นกับแกล้มเหล้า ซึ่งพ่อเราไม่กินเหล้า ส่วนใหญ่แม่จะซื้อกับข้าวมากินกับพ่อต่างหากอยู่แล้ว) แล้วตอนนั้น มาอาศัยบ้านเราอยู่สองคนแล้วนะ ยังไปชวนเพื่อนมาอยู่อีก พ่อแม่เราเห็นเดือดร้อนก็ช่วยไว้ ก็มานินทาว่า ซื้อกับข้าวมากินกับเพื่อน พอกินเหลือ แม่เราเก็บหมด (แต่ความจริง แม่เราไม่ได้เก็บนะ เพื่อนเขาแหละเป็นคนเก็บไป) บ้านเราก็ไม่ใช่โฮมสเตย์นะ ไม่คิดค่าเช่าก็บุญเท่าไหร่แล้ว
เราเจอแบบนี้เซ็งเลย ไม่รู้จะไปเคลียร์กับใครก่อน