ไม่รู้ว่าใครเคยเจอปัญหาแบบผมบ้างหรือเปล่า มันเป็นเหมือนเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าควรเลือกแบบไหน แต่ใจผมก็ยังสับสนอยู่...
เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนนี้ผมกำลังทำงานอยู่ที่บริษัท A แต่เนื่องด้วยเหตุผลเกี่ยวกับวัฒนธรรมขององค์กรแบบง่ายๆ คือออฟฟิตจะสกปรกมาก โต๊ะไม่พอนั่งกัน (ต้องนั่งแบบเก้าอี้ดนตรีคือไปไม่ทันอดนั่งทำงาน) ห้องประชุมสกปรก ระบบงานวุ่นวาย ซึ่งช่วงแรกที่ผมเข้าไปทำงานรู้สึกแย่มากๆและอยากจะลาออกตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ไปทำเลย
แต่เมื่อผมทำงานไปได้สัก6เดือน มีวันหนึ่งบริษัท B โทรมาหา คือต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าผมเคยทำงานที่บริษัท B มาก่อนหน้านี้แล้ว และลาออกไปเพื่อไปทำงานต่างประเทศ และด้วยที่ผมค่อนข้างสนิทกับห้วหน้าที่นี่และเค้ารู้ว่าผมกลับมาเมืองไทยแล้วเค้าก็โทรมาหาผมว่ามีตำแหน่งงานเหมาะกับผมและอยากให้กลับมาช่วยงาน หัวหน้าคนนี้เค้าช่วยประสานงานกับทาง HR ต่อรองเรื่องเงินเดือน ตำแหน่ง การรับรองเรืองการว่าจ้างงานใหม่ (สำหรับพนักงานที่เคยออกไปแล้วและอยากกลับเข้ามาทำงานใหม่)
พอเค้าโทรมาหาผมประจวบกับที่ผมอยากจะออกงานจากบริษัท A ร่ำๆ ก็เลยรับปากเค้าว่าจะกลับไปทำงานด้วย แต่...เพราะกระบวนการในการรับผมกลับไปทำงานค่อนข้างวุ่นวาย ทำให้เรื่องการว่าจ้างใช้เวลานานเกือบๆ2เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเริ่มปรับตัวได้แล้วกับบริษัท A งานที่เคยวุ่นวายก็จัดการได้ง่ายขึ้น โต๊ะทำงานก็มีเพิ่มขึ้น (แต่ยังสกปรกเหมือนเดิม) ผมเริ่มรู้สึกๆดีกับบริษัท A แล้ว จนวันหนึ่ง HR บริษัท B ติดต่อมาหาให้ไปเซ็นต์สัญญาเริ่มงาน ผมก็ได้ไปเซ็นต์ (ตอนนั้นยังคงคิดว่ายังไงๆบริษัท B ก็ยังน่าจะดีกว่า) หลังจากนั้นผมก็ไปแจ้งทางหัวหน้าของบริษัท A ว่าจะลาออก เค้าก็ให้ผมกลับไปคิดดูใหม่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะออก อีกวันต่อมาเค้าก็ให้ทาง HR มาโน้มน้าวให้ผมอยู่ต่อผมก็ยังไม่เปลี่ยนใจ สุดท้ายหัวหน้าก็มาบอกกับผมอีกทีว่าถ้าอยู่ต่อจะปรับเงินเดือนให้และปรับตำแหน่งให้ด้วย ผมก็ยังคงยืนยันว่าจะออก หัวหน้าก็คงหมดหวังแล้ว ก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะอนุมัติเรื่องลาออกให้
แต่ช่วงเวลาที่ผมต้องอยู่บริษัท A อีก1 เดือนนี่สิ มันกลับกลายเป็นว่าผมไม่อยากออกแล้ว ก็คงเพราะผมเริ่มทำงานเก่งขึ้น ที่ทำงานชื่นชมกันเยอะ บ้างก็บอกว่าอย่าลาออกได้ไหมคุณทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นนะ ฯลฯ พอเหมาะพอเจาะกับวันหนึ่งผมไปบริษัท B เพื่อจะไปรับทราบหน้าที่ใหม่ที่จะให้ผมทำ ผมกลับมีความรู้สึกว่า ผมไม่อยากทำงานนี้เลย ถ้าทำงานตำแหน่งนี้เราต้องอึดอัดและกดดันสุดๆแน่นอน เป็นต้น...
ยิ่งนับวันที่จะถึงวันสุดท้ายของผมที่บริษัท A ผมยิ่งรู้สึกผูกพันกับที่ทำงานนี้และวันๆเดี๋ยวนี้ก็อยากไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านดึกๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เลิกงานปุ๊ปดิ่งกลับบ้านเลย
ตอนนี้ใจผมทั้งร้อย อยากจะทำงานที่ A ต่อ แต่ทุกเหตุผลทุกอย่างทางโลกนี้มันชี้ชัดอยู่แล้วว่าผมจะต้องกลับไปทำงานที่ B แน่นอนไม่ว่าจะเป็นว่าผมเซ็นต์สัญญากับ B ไปแล้ว, ด้วยบุญคุณที่หัวหน้าที่ B คอยเจรจาเรื่องการจ้างงานให้ผม, ผมจะเหมือนคนชั่วในสายตาเพื่อนร่วมงานที่ B เพราะผิดคำพูด
คำถามคือ
1. จะมีวิธีไหนไหมครับที่ผมจะให้เหตุผลปฏิเสธบริษัท B ได้ และทำให้ผมไม่ดูเลวร้ายมากในสายตาของหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ B
2. ถ้าผมจะไม่ไปทำงานตามวันที่นัดหมายไว้ที่ B ผมจะโดน B ฟ้องได้ไหมจากกฏหมายแรงงาน
3. ผมควรจะเลือกทำงานต่อที่ A หรือ กลับไปทำงานที่ B
ขอบคุณที่อ่านและเสนอแนะครับ เนื้อเรื่องยาวไปหน่อย ขอโทษด้วย
กำลังจะทำงานที่ใหม่แต่ยังเสียดายงานที่เก่า
เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนนี้ผมกำลังทำงานอยู่ที่บริษัท A แต่เนื่องด้วยเหตุผลเกี่ยวกับวัฒนธรรมขององค์กรแบบง่ายๆ คือออฟฟิตจะสกปรกมาก โต๊ะไม่พอนั่งกัน (ต้องนั่งแบบเก้าอี้ดนตรีคือไปไม่ทันอดนั่งทำงาน) ห้องประชุมสกปรก ระบบงานวุ่นวาย ซึ่งช่วงแรกที่ผมเข้าไปทำงานรู้สึกแย่มากๆและอยากจะลาออกตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ไปทำเลย
แต่เมื่อผมทำงานไปได้สัก6เดือน มีวันหนึ่งบริษัท B โทรมาหา คือต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าผมเคยทำงานที่บริษัท B มาก่อนหน้านี้แล้ว และลาออกไปเพื่อไปทำงานต่างประเทศ และด้วยที่ผมค่อนข้างสนิทกับห้วหน้าที่นี่และเค้ารู้ว่าผมกลับมาเมืองไทยแล้วเค้าก็โทรมาหาผมว่ามีตำแหน่งงานเหมาะกับผมและอยากให้กลับมาช่วยงาน หัวหน้าคนนี้เค้าช่วยประสานงานกับทาง HR ต่อรองเรื่องเงินเดือน ตำแหน่ง การรับรองเรืองการว่าจ้างงานใหม่ (สำหรับพนักงานที่เคยออกไปแล้วและอยากกลับเข้ามาทำงานใหม่)
พอเค้าโทรมาหาผมประจวบกับที่ผมอยากจะออกงานจากบริษัท A ร่ำๆ ก็เลยรับปากเค้าว่าจะกลับไปทำงานด้วย แต่...เพราะกระบวนการในการรับผมกลับไปทำงานค่อนข้างวุ่นวาย ทำให้เรื่องการว่าจ้างใช้เวลานานเกือบๆ2เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเริ่มปรับตัวได้แล้วกับบริษัท A งานที่เคยวุ่นวายก็จัดการได้ง่ายขึ้น โต๊ะทำงานก็มีเพิ่มขึ้น (แต่ยังสกปรกเหมือนเดิม) ผมเริ่มรู้สึกๆดีกับบริษัท A แล้ว จนวันหนึ่ง HR บริษัท B ติดต่อมาหาให้ไปเซ็นต์สัญญาเริ่มงาน ผมก็ได้ไปเซ็นต์ (ตอนนั้นยังคงคิดว่ายังไงๆบริษัท B ก็ยังน่าจะดีกว่า) หลังจากนั้นผมก็ไปแจ้งทางหัวหน้าของบริษัท A ว่าจะลาออก เค้าก็ให้ผมกลับไปคิดดูใหม่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะออก อีกวันต่อมาเค้าก็ให้ทาง HR มาโน้มน้าวให้ผมอยู่ต่อผมก็ยังไม่เปลี่ยนใจ สุดท้ายหัวหน้าก็มาบอกกับผมอีกทีว่าถ้าอยู่ต่อจะปรับเงินเดือนให้และปรับตำแหน่งให้ด้วย ผมก็ยังคงยืนยันว่าจะออก หัวหน้าก็คงหมดหวังแล้ว ก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะอนุมัติเรื่องลาออกให้
แต่ช่วงเวลาที่ผมต้องอยู่บริษัท A อีก1 เดือนนี่สิ มันกลับกลายเป็นว่าผมไม่อยากออกแล้ว ก็คงเพราะผมเริ่มทำงานเก่งขึ้น ที่ทำงานชื่นชมกันเยอะ บ้างก็บอกว่าอย่าลาออกได้ไหมคุณทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นนะ ฯลฯ พอเหมาะพอเจาะกับวันหนึ่งผมไปบริษัท B เพื่อจะไปรับทราบหน้าที่ใหม่ที่จะให้ผมทำ ผมกลับมีความรู้สึกว่า ผมไม่อยากทำงานนี้เลย ถ้าทำงานตำแหน่งนี้เราต้องอึดอัดและกดดันสุดๆแน่นอน เป็นต้น...
ยิ่งนับวันที่จะถึงวันสุดท้ายของผมที่บริษัท A ผมยิ่งรู้สึกผูกพันกับที่ทำงานนี้และวันๆเดี๋ยวนี้ก็อยากไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านดึกๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เลิกงานปุ๊ปดิ่งกลับบ้านเลย
ตอนนี้ใจผมทั้งร้อย อยากจะทำงานที่ A ต่อ แต่ทุกเหตุผลทุกอย่างทางโลกนี้มันชี้ชัดอยู่แล้วว่าผมจะต้องกลับไปทำงานที่ B แน่นอนไม่ว่าจะเป็นว่าผมเซ็นต์สัญญากับ B ไปแล้ว, ด้วยบุญคุณที่หัวหน้าที่ B คอยเจรจาเรื่องการจ้างงานให้ผม, ผมจะเหมือนคนชั่วในสายตาเพื่อนร่วมงานที่ B เพราะผิดคำพูด
คำถามคือ
1. จะมีวิธีไหนไหมครับที่ผมจะให้เหตุผลปฏิเสธบริษัท B ได้ และทำให้ผมไม่ดูเลวร้ายมากในสายตาของหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ B
2. ถ้าผมจะไม่ไปทำงานตามวันที่นัดหมายไว้ที่ B ผมจะโดน B ฟ้องได้ไหมจากกฏหมายแรงงาน
3. ผมควรจะเลือกทำงานต่อที่ A หรือ กลับไปทำงานที่ B
ขอบคุณที่อ่านและเสนอแนะครับ เนื้อเรื่องยาวไปหน่อย ขอโทษด้วย