คุยกับ "ปนัดดา" Sexy Single Mom "ต่อให้บุ๋มเดินแก้ผ้าผ่านหน้า คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาข่มขืน"

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สัมภาษณ์โดย : ฟ้ารุ่ง ศรีขาว
ภาพ : ชัชวาลย์ นิจงาม , ณัตติพร ช่วยหนู, วรวุฒิ บัวรุ่ง
ภาพ/ลำดับภาพ/กราฟฟิค : นัฐพงษ์ โห้เฉื่อย, กิตยางกูร ผดุงกาญจน์


“มติชนออนไลน์” สัมภาษณ์ “ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” หรือ “บุ๋ม” อดีตนางสาวไทยปี 2543 อดีตนักวิชาการ และเป็นเจ้าของผลงานถ่ายแบบแนวเซ็กซี่จำนวนมาก ปัจจุบันเธอเป็น Single Mom ดูแลลูกสาววัยน่ารัก ขณะเดียวกันยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงหลากหลายบทบาท

ล่าสุดเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.เกี่ยวกับโทษประหารชีวิตในคดีข่มขืนภายหลังเกิดกรณีข่มขืนเด็กหญิงอายุ13 ปี บนรถไฟและมีการฆาตกรรม

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงตัวตน การแต่งกาย และข้อสงสัยถึงการ “โหนกระแส” จากบางฝ่าย “ปนัดดา” ยังคงเดินหน้าและคิดในแง่บวกว่า อย่างน้อยการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงในสังคม ติดตามทัศนะของเธอในบทสัมภาษณ์นี้


-จะเดินหน้าเคลื่อนไหวให้ลงโทษประหารชีวิตในคดีข่มขืนต่อหรือไม่ยื่นคสช. วันไหน ขณะนี้ได้จำนวนรายชื่อเท่าไหร่

สำหรับตอนนี้ ก็เดินหน้าจนถึงที่สุด แต่ในการเดินหน้าต้องเข้าใจก่อนว่า จริงอยู่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า การข่มขืนเท่ากับประหารที่เขากำลังเรียกร้องกัน แต่อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอยู่แล้ว แล้วโทษส่วนใหญ่สำหรับการข่มขืนและฆ่า โทษอยู่ที่ประหาร เพียงแต่ว่าที่ผ่านๆ มา ศาลจะพิจารณาตามเนื้อความแล้วก็ส่วนใหญ่ติดคุกไม่กี่ปี ในรายที่รับสารภาพติดคุกไม่นานก็ออกมาอีกแล้ว แล้วก่อคดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องถามแล้วว่า ถ้ากฎหมายมีอยู่แล้ว การบังคับคดีมีความเข้มข้นพอหรือเปล่า ศักดิ์สิทธิ์พอไหม ดังนั้น นี่คือสิ่งที่บุ๋ม กำลังเรียกร้องมากกว่าว่า คือทำให้กฎหมายสามารถคุ้มครองเด็กๆ ในอนาคตได้


สำหรับการเดินหน้าตอนนี้ก็รวบรวมรายชื่อได้เยอะมาก แล้วกำลังจัดพิมพ์ซึ่งยาวเป็นบัญชีหางว่าวแล้ว จะส่งให้ท่านประธานคสช. ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานนัดวันว่าจะเป็นวันไหน


-คิดว่า คสช. จะเป็นที่พึ่งได้หรือเปล่า

คิดว่า คสช. จะเป็นที่พึ่งได้จริงหรือไม่ บุ๋มว่าได้ เพราะการปกครองขณะนี้เป็นยุคพิเศษ ภายใต้ คสช. กฎต่างๆ ไม่ต้องผ่าน ครม. ไม่ต้องผ่านในสภา ทุกอย่างที่ออกมา มันเป็นกฎหมายได้หมดเลย ดังนั้น บุ๋มเชื่อว่า อย่างกฎหมายข่มขืนที่มีบังคับใช้มานานแล้ว เมื่อปี 2550 มีการเพิ่มเติมเรื่องสิทธิมนุษยชน การเปลี่ยนแปลงคุ้มครองเด็ก คุ้มครองผู้หญิงได้มากขึ้นกว่าเดิม นั่นหมายความว่าจริงๆ แล้ว ก็มีการเปลี่ยนแปลงในปีที่มีการปกครองแบบพิเศษ

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่ต้องกลับมาถามกันให้ได้ว่า ณ ยุคนี้ จะช่วยได้หรือไม่ ซึ่งบุ๋มก็หวังว่าจะช่วยได้เหมือนยุคนั้น  


-เกรงไหมว่า เมื่อยื่นเรื่องต่อ หัวหน้า คสช.แล้ว จะถูกมองว่า เข้าข้างทางการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ถ้าทำประเด็นสังคมแล้วถูกมองว่าเข้าข้างทางการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบุ๋มคงโดนมานานแล้วคะแม้กระทั่งตอนนี้ก็มีคนออกมาบอกว่าคุณบุ๋มไม่ต้องไปยุ่งหรอกคสช.เขาจัดการได้เองแหละ“ขี้ข้าทักษิณ!!”... คือ เหรอ? มองกันอย่างนั้นเหรอ หรือบุ๋มเคยไปม็อบให้คุณเห็นเหรอ ม็อบฝ่ายใดบุ๋มก็ไม่เคยไป เพราะบุ๋มมองว่าบุ๋มเป็นคนของประชาชน บุ๋มจะพยายามเป็นกลางให้ได้มากที่สุด แต่ถามว่า ถ้าประชาชนฝ่ายไหนที่เดือดเนื้อ ร้อนใจ มีเรื่องเดือดร้อน บุ๋มก็ช่วยเหลือ

ชาวนามานั่งประท้วง บุ๋มยังส่งผ้าอนามัยไปให้ใช้ ม็อบไหนมา บุ๋มก็ส่งของไปให้ใช้ เพราะบุ๋มถือว่า เขาคือคนจน เขามีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิ์ของเขา ไม่แบ่งแยกฝ่ายคะ บุ๋มถือว่าบุ๋ม เป็นคนของประชาชนแค่นั้นเอง          


-จะไปร่วมโครงการคืนความสุข กับ คสช.ไหม

บุ๋มมีคิวไปร่วมโครงการกับ คสช. “คืนความสุข” ในวันที่ 25 ก.ค. เป็นพิธีกร ที่สนามราชมังคลาฯ คู่กับ ผู้พันเบิร์ดคะ คือถ้าช่วยได้ส่วนไหน บุ๋มช่วยเต็มที่อยู่แล้วคะ


-ทุกวันนี้มีความสุขหรือไม่

ทุกวันนี้ บุ๋มมีความสุขไหม ก็มีนะ ในฐานะที่เป็นดารา Single Mom คนหนึ่ง บุ๋มถือว่ามีความสุขมากในระดับหนึ่งเลยแหละ การที่บุ๋มยังมีงาน อยู่ในวงการได้ขนาดนี้ ก็เป็นอะไรที่เกินความฝันนะคะ แล้วก็มีเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัว ก็ถือว่ามีความสุขในระดับหนึ่ง

แต่พอมาเห็นข่าวอาชญากรรมแล้วก็สลดใจ ซึ่งก็ไม่อยากจะเห็นว่าถ้านั่นเป็นลูกหลานของตัวเองแล้วจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่จะทำให้บุ๋ม ไม่มีความสุข


-คิดอย่างไร เวลามีคนบอกว่า โหนกระแสข่าวดัง

คนที่บอกว่าบุ๋มโหนกระแสข่าวดัง เขาคงไม่ได้ติดตามข่าวของบุ๋มมาสักเท่าไหร่ เขาก็เลยเข้าใจผิดไปได้ ซึ่งบุ๋มก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงข้างใน เป็นแฟนคลับ ติดตามบุ๋มเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกคนจะรู้ว่า บุ๋มรณรงค์เรื่องนี้มานานมาก

เมื่อเราเห็นข่าวเด็กอายุ 13 ถูกข่มขืนบนรถไฟถูกฆ่า แล้วเรารู้สึกว่ามันรอไม่ได้แล้วไง มันน่าจะพอได้แล้ว ไม่อยากเห็นเหยื่อเพิ่มกว่านี้อีกแล้วก็เลยต้องออกมาในตอนนี้ และเชื่อว่าถ้ายื่นเรื่องตอนนี้ ก็น่าจะได้ผลอะไรกลับมา เรื่องผลกฎหมาย หรือการบังคับคดีได้บ้าง ซึ่งอันนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า การที่บุ๋มออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องกฎหมาย ถ้าคุณสังเกตจริงๆ แล้ว คุณจะรู้ว่าไม่ใช่ศึกษาแค่วันสองวันถึงออกมาพูดได้ขนาดนี้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร


-ความโชคดีที่ถูกโจมตีในรอบนี้ คุณบุ๋มมองในแง่ดี อย่างไร

ความโชคดีในการถูกโจมตีครั้งนี้ บุ๋มมองในแง่ดีว่า มันเป็นการเปิดประเด็น คนไทยเราที่ผ่านมา อย่างตอนเกิดกรณีน้องอายุ 13 ที่ถูกข่มขืนบนรถไฟ มีคนขึ้นอินสตาร์แกรมทั้งมองว่าข่มขืน ต้องมีโทษประหาร หรือบางคนบอกว่าประหารไม่ได้ ไร้มนุษยธรรม โน่นนี่นั่น มีแต่บ่นมีแต่คนด่ากันไง

แต่ข้อดีของการที่บุ๋มออกมาเปิดประเด็นในครั้งนี้คือทุกคนเริ่มอ้าปากออกมาแล้วเอามาคุยกันรายการทีวีสื่อต่างๆเอามาคุยกันประชาชนแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้นเห็นด้วยไม่เห็นด้วย หรืออยากได้อะไรจากสังคม แม้กระทั่งเยาวชนก็ออกมาแสดงความคิดเห็น นี่คือสิ่งที่บุ๋มอยากจะเห็นมานานมากแล้วคะ เราต้องหันหน้าคุยกัน คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอะไร เราต้องหาทางออกร่วมกันป่ะ ใช่ไหมคะ มันไม่ใช่เอาแต่ด่าๆๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะกลายเป็นเพียงอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง


-ชุดที่ใส่ไปร่วมแสดงความเสียใจนงานศพถูกวิจารณ์เยอะโดยมีคำถามเรื่องกาละเทศะคุณบุ๋มคิดอย่างไร

บุ๋มว่าเขาคาดหวังกับบุ๋มมากเกินไปหรือบางคนก็หาประเด็นในการด่ามากจนเกินไปคุณอย่าลืมนะคะบุ๋มเป็นแค่ดาราเมื่อจบคดีนี้จบการยื่นเรื่องแล้วบุ๋มก็กลับมาเป็นดาราของบุ๋มเหมือนเดิมหรือเปล่าเป็นแม่ตัวร้าย เป็นยัยป้าเซ็กซี่คนหนึ่งในวงการ บุ๋มก็ต้องกลับมาทำมาหากินเหมือนเดิมของบุ๋มหรือเปล่า บุ๋มไม่ใช่นายกฯ บุ๋มไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม บุ๋มไม่ใช่คุณปวีณา หงษ์สกุล คุณจะมาคาดหวังอะไรกับบุ๋มนักหนา

อีกอย่างบุ๋มก็อธิบายไปแล้วว่า คิวงาน ถ้าใครดูอินสตราแกรมของบุ๋ม จะรู้เลย ว่าบุ๋มวิ่งงานอะไรอยู่ บุ๋มไปปากช่อง แล้วจะต้องมาอัดรายการอีกรายการหนึ่ง ซึ่งตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าจะเสร็จทันไปงานศพน้องอายุ 13 ที่ถูกข่มขืนบนรถไฟ ก็เลยเอาชุดที่จะต้องใส่ไปอีกรายการซึ่งเป็นสีดำ เอามาใส่เท่านั้นเอง โดยที่ตัวเองไม่ได้คิดว่าจะใส่ไปงานศพตั้งแต่แรก แล้วชุดนั้น เดิมต้องใส่ไปอีกรายการในวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้นั่งคิดว่าจะไปงานศพได้หรือเปล่า แต่เมื่อ อัดคิวสอนศิลปะให้เด็กพิการ 2 กลุ่มได้ในช่วงเช้าที่ปากช่อง พอสอน 2 กลุ่มได้ ก็เหยียบรถมาเลยไม่ได้กินข้าว มือบุ๋มยังมีสีเต็มไปหมดเลย เพราะในภาพข่าวบุ๋มเห็นพวงหรีดที่มีชื่อบุ๋มอยู่ คุณแม่น้องแก้มให้เกียรติบุ๋มมาก วางอยู่ตรงกลางงาน 3 วัน 3 คืนติดกัน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่รู้สึกว่าเราต้องไป

แล้วที่ไป ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องไปทอดผ้าบังสุกุลหรืออะไร เพราะคาดว่าไปเพื่อบอกแม่ของน้องอายุ 13 ผู้ตายว่า “แม่ หนูเข้าใจหัวอกแม่นะ”  เท่านั้นเอง ก็ไม่คิดว่าจะต้องให้ใครมาสนใจบุ๋มมากขนาดนี้นะ

แล้วก็บอกว่ากระโปรงสั้นไปบุ๋มก็เอามายืนให้ดูเลยกับญาติของน้อง4คนซึ่งกระโปรงยาวเท่ากันบุ๋มถึงบอกไงว่าคนมันจะโจมตีคนมันจะด่าแล้วอีกอย่างหนึ่งคุณลืมไปหรือเปล่า บุ๋ม เป็นดารา ไม่ได้เป็นนายกฯ คุณจะอะไรกับบุ๋มนักหนา      


-คิดว่าการแต่งตัวเซ็กซี่และสื่อภาพวาบหวิว เป็นต้นเหตุของการกระทำผิดล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่

ถ้าจะปฏิเสธ 100% คงจะไม่ใช่ แต่ถ้าจะบอกว่าต้นเหตุของความเซ็กซี่ แล้วทำให้ผู้ชายต้องไปล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก บุ๋มว่ามันไม่ถูกต้อง

คนจะทำผิด อย่าหาข้ออ้าง คนจะทำผิดอย่าโทษสิ่งอื่นๆ มันอยู่ที่จิตสำนึก มันอยู่ที่การยับยั้งชั่งใจ ต่อให้บุ๋มเดินแก้ผ้าผ่านหน้าคุณคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาข่มขืนบุ๋ม ต่อให้บุ๋ม ทำอะไรก็ตาม คุณก็ไม่มีสิทธิ์ มาข่มขืนเด็ก

ทำไมที่ญี่ปุ่น นางเอก AV เยอะแยะมากมาย แม้กระทั่งออกเทปอัลบั้ม มี sex shop มีอยู่ทุกหัวมุมเมือง แต่ทำไม อาชญากรรมเรื่องการข่มขืนแทบจะเท่ากับศูนย์ มันอยู่ที่จิตสำนึกคะ มันไม่ได้อยู่ที่ผู้หญิงไปยั่วยุ

คือจิตสำนึกตรงนี้ มันจะแยกระหว่างคนกับสัตว์ อะไรที่ควรทำ และอะไรที่ไม่ควรทำ ดังนั้นอย่าเอาความหื่นของตัวเอง มาอ้างบอกว่าขาดสติ ขาดการยับยั้งชั่งใจ

ไม่มีผู้ร้ายคนไหนเคยให้สัมภาษณ์ หรือสอบปากคำบอกว่า ผมดูรูปคุณบุ๋ม ปนัดดาแล้วผมไปข่มขืนเด็ก ก็ยังไม่มีไม่ใช่เหรอ อย่ามาโทษกันมั่วๆ ดีกว่า

สิ่งที่บุ๋มใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่ชุดเซ็กซี่ยั่วยุ ขอโทษ บุ๋มไม่ใส่คนเดียว ผู้ชายหายหื่นไหม คิดแค่นี้ก็พอแล้ว อย่ามาลงที่บุ๋มอย่างเดียวเลย หาเรื่องด่าบุ๋มมากกว่า ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ช่วยอะไร

แต่สิ่งที่บุ๋มทำ ณ วันนี้ มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุคะ มันเป็นการทำให้แค่ รู้สึกว่า คนที่จะเป็นผู้ร้ายต่อไปในอนาคต อย่างน้อยฉุกคิดสักนิดหนึ่งว่า เฮ๊ย!! โทษมันแรงหว่ะ ไม่ควรทำ แค่นั้นเอง แต่จริงๆ แล้วในการแก้ไขปัญหาเรื่องพวกนี้ มันต้องแก้ไขหลายๆ ด้านด้วยกัน ทั้งระยะยาว เรื่องจริยธรรม ต้องปลูกฝังเด็กๆ ตั้งแต่สถาบันครอบครัว ต้องบอกเด็กๆ ให้ได้ว่า ผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิงมากกว่านี้นะ ผู้หญิงเอง ก็ต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวมากกว่านี้นะ หาทางออกเรื่องทางเพศทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงกันให้ได้

รวมทั้ง เรื่องสถาบันการศึกษา เรื่องความรู้ เรื่องยาเสพติด แล้วทุกคนถามทำไมบุ๋มไม่ทำเรื่องอื่น ขอโทษนะคะ ยาเสพติด เศรษฐกิจ สังคม จริยธรรม บุ๋มถามหน่อยเถอะที่ผ่านมา นายกฯ กี่คน ยังแก้ไม่ได้ แล้วบุ๋มเป็นใคร บุ๋มก็ทำในส่วนที่แค่ 2 มือของบุ๋มทำได้ แล้วคุณจะอะไรกับบุ๋มนักหนา ก็แค่นั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่