ตอนนี้อายุครรภ์ 7 เดือน 1 สัปดาห์แล้วค่ะ เริ่มมีอาการเครียด วิตกกังวล และซึมเศร้า เนื่องจากรู้สึกผิดที่ตัวเองไม่ดูแลตัวเองและลูกในครรภ์ได้ดีเท่าที่ควร
โดยเริ่มนึกย้อนไปช่วงที่ทำงานหนักจนตกเลือดต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง,
เผลอใช้เตาไมโครเวฟที่แผงกั้นคลื่นชำรุด 4-5 ครั้ง,
ชอบดื่มชา ช็อคโกแลต และน้ำอัดลมแทบทุกวัน,
ชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซูชิ มายองเนส(ไข่ดิบ) ของดอง และอาหารกระป๋องเป็นประจำ,
และเคยต้องอยู่ในห้องที่อบอวลด้วยกลิ่นสี ทินเนอร์ และน้ำยาทำความสะอาด โดยต้องทนสูดดมกลิ่นเหล่านั้นเป็นเวลานานจนแสบจมูก
บอกตรงๆเลยค่ะว่า ณ ขณะนี้สภาพจิตใจค่อนข้างแย่มากๆ รู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่ดูแลตัวเองและลูกให้ดี รู้สึกกลัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ .. อยู่ในโหมดซึมเศร้า เอาแต่ขุดคุ้ยเรื่องความผิดพลาดที่ผ่านมาคิดทับถมและโทษตัวเอง .. คิดแล้วก็นั่งร้องไห้คนเดียว รู้สึกแย่มากจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะได้รับผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลว่าทุกอย่างปกติดีแต่ก็อดห่วงไม่ได้เลยค่ะ เพราะความผิดปกติหลายๆอย่างก็ไม่สามารถตรวจเจอได้จากการอัลตร้าซาวด์ .. กลัวค่ะ กลัวว่าลูกจะไม่สมบูรณ์ ไม่แข็งแรง ถ้าเป็นแบบนั้นดิฉันคงรู้สึกผิดและโทษตัวเองจนวันตาย
ตอนนี้ได้แต่มานั่งถามตัวเองว่าคิดย้อนไปแล้วจะแก้ไขอะไรได้ ทำไมไม่คิดให้ดีก่อนจะทำอะไรลงไป แต่ตอนนั้นก็มีข้อแก้ตัวตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจำเป็นในการทำงาน สถานการณ์บีบบังคับ การเผลอตัว การแพ้ท้อง ความอยากที่รุนแรงจนห้ามใจไม่ไหว ฯลฯ
รู้ตัวค่ะ .. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกเราก็ต้องยอมรับสภาพและดูแลกันต่อไป .. เมื่อก่อนที่จะตั้งครรภ์ก็เคยคิดว่าถ้าตรวจพบความผิดปกติของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ก็จะไม่เอาเขาไว้ หรือถ้าเกิดมาแล้วเขาไม่สมบูรณ์แล้วตายไปก็คงจะไม่เสียใจ เพราะดีกว่าต้องอยู่แบบทรมาน .. แต่ตอนนี้ไม่มีความคิดเหล่านั้นอยู่ในหัวอีกต่อไปแล้วค่ะ ตอนนี้ผูกพันและรักลูกมากเกินกว่าจะพรรณนาออกมาเป็นคำพูดได้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าเราจะรักเขาได้มากมายขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นเอ่อล้นจนจุกอก นั่งร้องไห้และตอกย้ำความเห็นแก่ตัวของตัวเอง "ฉันเป็นแม่ที่แย่และไม่เอาไหนเลยจริงๆ"
ในขณะที่พิมพ์กระทู้นี้ก็ร้องไห้ตลอดเวลา มือปาดน้ำตาจนเปียกไปหมด .. ขอโทษที่เขียนซะยืดยาวนะคะ เพียงแค่อยากระบายและอยากรู้ว่ามีใครเป็นเหมือนกันบ้างเท่านั้นเอง .. ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ .. ไม่รู้ว่ามีใครเป็นเหมือนกันไหม??
โดยเริ่มนึกย้อนไปช่วงที่ทำงานหนักจนตกเลือดต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง,
เผลอใช้เตาไมโครเวฟที่แผงกั้นคลื่นชำรุด 4-5 ครั้ง,
ชอบดื่มชา ช็อคโกแลต และน้ำอัดลมแทบทุกวัน,
ชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซูชิ มายองเนส(ไข่ดิบ) ของดอง และอาหารกระป๋องเป็นประจำ,
และเคยต้องอยู่ในห้องที่อบอวลด้วยกลิ่นสี ทินเนอร์ และน้ำยาทำความสะอาด โดยต้องทนสูดดมกลิ่นเหล่านั้นเป็นเวลานานจนแสบจมูก
บอกตรงๆเลยค่ะว่า ณ ขณะนี้สภาพจิตใจค่อนข้างแย่มากๆ รู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่ดูแลตัวเองและลูกให้ดี รู้สึกกลัวว่าสิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ .. อยู่ในโหมดซึมเศร้า เอาแต่ขุดคุ้ยเรื่องความผิดพลาดที่ผ่านมาคิดทับถมและโทษตัวเอง .. คิดแล้วก็นั่งร้องไห้คนเดียว รู้สึกแย่มากจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะได้รับผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลว่าทุกอย่างปกติดีแต่ก็อดห่วงไม่ได้เลยค่ะ เพราะความผิดปกติหลายๆอย่างก็ไม่สามารถตรวจเจอได้จากการอัลตร้าซาวด์ .. กลัวค่ะ กลัวว่าลูกจะไม่สมบูรณ์ ไม่แข็งแรง ถ้าเป็นแบบนั้นดิฉันคงรู้สึกผิดและโทษตัวเองจนวันตาย
ตอนนี้ได้แต่มานั่งถามตัวเองว่าคิดย้อนไปแล้วจะแก้ไขอะไรได้ ทำไมไม่คิดให้ดีก่อนจะทำอะไรลงไป แต่ตอนนั้นก็มีข้อแก้ตัวตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจำเป็นในการทำงาน สถานการณ์บีบบังคับ การเผลอตัว การแพ้ท้อง ความอยากที่รุนแรงจนห้ามใจไม่ไหว ฯลฯ
รู้ตัวค่ะ .. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกเราก็ต้องยอมรับสภาพและดูแลกันต่อไป .. เมื่อก่อนที่จะตั้งครรภ์ก็เคยคิดว่าถ้าตรวจพบความผิดปกติของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ก็จะไม่เอาเขาไว้ หรือถ้าเกิดมาแล้วเขาไม่สมบูรณ์แล้วตายไปก็คงจะไม่เสียใจ เพราะดีกว่าต้องอยู่แบบทรมาน .. แต่ตอนนี้ไม่มีความคิดเหล่านั้นอยู่ในหัวอีกต่อไปแล้วค่ะ ตอนนี้ผูกพันและรักลูกมากเกินกว่าจะพรรณนาออกมาเป็นคำพูดได้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าเราจะรักเขาได้มากมายขนาดนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นเอ่อล้นจนจุกอก นั่งร้องไห้และตอกย้ำความเห็นแก่ตัวของตัวเอง "ฉันเป็นแม่ที่แย่และไม่เอาไหนเลยจริงๆ"
ในขณะที่พิมพ์กระทู้นี้ก็ร้องไห้ตลอดเวลา มือปาดน้ำตาจนเปียกไปหมด .. ขอโทษที่เขียนซะยืดยาวนะคะ เพียงแค่อยากระบายและอยากรู้ว่ามีใครเป็นเหมือนกันบ้างเท่านั้นเอง .. ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ