เห็นหลายๆคนบ่นว่า เรื่องนี้ เอื่อย เนือยๆ...แต่สำหรับคนชอบดูหนังอาร์ตๆ ติสๆ แนวนี้ สไตล์การเล่าเรื่องที่ดูเนือยๆเอื่อยๆ มันกลับทำให้เราเก็บสะสมอารมณ์หนัง/ละครมาเรื่อยๆ รวบรวมเหตุและผลมาเรื่อยๆ จนมาพีคสุด แบบสะดุดขั้วหัวใจ สะอึกจุกแน่นอก...อารมณ์และสไตล์การเล่าเรื่องแบบนี้ มันทำให้ป้านึกถึงอารมณ์ร่วมตอนที่ได้ดูหนังอาร์ตๆหลายๆเรื่อง ผู้กำกับชั้นแถวหน้าในเอเชีย ชอบใช้ศิลปะแนวนี้ในการดำเนินเรื่อง เช่น เถียนมี่มี่ , in the mood of love , nobody know , love letter , be with you , il mare , คุณยายของผมดีที่สุดในโลก เป็นต้น....ดังนั้น สไตล์การดำเนินเรื่องแบบนี้อาจจะดูเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับวงการหนัง/ละครของบ้านเรา จึงไม่แปลกที่หลายๆคนจะด่วนตัดสินใจว่าผลงานในแนวนี้ ไม่ดี ไม่เร้าใจ ไม่ปลุกเร้าอารมณ์...เข้าใจว่าวัฒนธรรมในการดูหนัง ดูละครของคนไทย อาจจะยังฉาบฉวย เร่งรีบ ตื้นเขินอยู่ และคงให้ให้เวลาคนไทยเรียนรู้ ซึมซับ และเสพงานศิลป์แนวนี้ให้ลึกซึ้งและถ่องแท้ขึ้น
ดังจะเห็นได้จากละคร หัวใจเถื่อน สำหรับวันนี้ หลังจากที่เข้าสู่โหมด "เถื่อน" ทุกอย่างชัดเจนขึ้น เข้มข้นขึ้น เหตุผลและที่มาที่ไปของการดำเนินเรื่องชัดเจนขึ้น อละอารมณ์ร่วมของคนดูเริ่มพีคขึ้นเรื่อยๆ และคิดว่าคงจะพีคได้อีกในตอนต่อๆไป...ไม่รู้ซินะ ปกติป้าบุญรอดชอบดูหนังญึ่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี แนวอาร์ตๆเรียบๆเงียบๆไม่ต้องหวือหวา ปลุกเร้าอารมณ์ บีบเค้นบังคับอารมณ์คนดูมากจนเกินไป แต่หนังและละครแบบนี้แหละที่ทำให้คนดูเก็บสะสมความประทับใจทบกันไป้รื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งความแระทับใจจะประทุระเบิดออกมาโดยอัตโนมัติ พอดูจบแล้วมันก็จะติดฝังหัวแบบแกะไม่ออก ลืมไม่ลงเลยละ....เหมือนที่เคยดูละครเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย มาก่อนหน้านี้ ที่ตินนั้นก็เคยมีคนบ่นว่าละครเรื่องนั้นก็ดำเนินแบบเรื่อยๆเอื่อยๆเช่นกัน....แต่ขอบอกว่า สำหรับคนที่ดูและประทับใจละครเรื่องนั้น มันยังติดตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ ยากที่จะลืม
ปล. เคยมีเพื่อนป้าบุญรอดที่เขาเป็นคอหนัง/ซีรี่ย์ญี่ปุ่น เขาบอกกับป้าเลยว่า
หนังญี่ปุ่น ดูรอบแรกเหมือนไม่มีอะไร แต่ประทับใจอิ๊บอ๋าย
หนังญี่ปุ่น ดูรอบสองเห็นรายละเอียด และ สิ่งที่เขาสื่อได้มากขึ้น
และป้าก็เสริมเพื่อนไปว่า...และถ้าเราดูรอบที่ 3 ขึ้นไป เราจะอ่านใจผู้กำกับได้ทะลุเลยนะนั่น
ยินดีต้อนรับ "หัวใจเถื่อน" เข้าสู่โหมด "เถื่อน"
ดังจะเห็นได้จากละคร หัวใจเถื่อน สำหรับวันนี้ หลังจากที่เข้าสู่โหมด "เถื่อน" ทุกอย่างชัดเจนขึ้น เข้มข้นขึ้น เหตุผลและที่มาที่ไปของการดำเนินเรื่องชัดเจนขึ้น อละอารมณ์ร่วมของคนดูเริ่มพีคขึ้นเรื่อยๆ และคิดว่าคงจะพีคได้อีกในตอนต่อๆไป...ไม่รู้ซินะ ปกติป้าบุญรอดชอบดูหนังญึ่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี แนวอาร์ตๆเรียบๆเงียบๆไม่ต้องหวือหวา ปลุกเร้าอารมณ์ บีบเค้นบังคับอารมณ์คนดูมากจนเกินไป แต่หนังและละครแบบนี้แหละที่ทำให้คนดูเก็บสะสมความประทับใจทบกันไป้รื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งความแระทับใจจะประทุระเบิดออกมาโดยอัตโนมัติ พอดูจบแล้วมันก็จะติดฝังหัวแบบแกะไม่ออก ลืมไม่ลงเลยละ....เหมือนที่เคยดูละครเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย มาก่อนหน้านี้ ที่ตินนั้นก็เคยมีคนบ่นว่าละครเรื่องนั้นก็ดำเนินแบบเรื่อยๆเอื่อยๆเช่นกัน....แต่ขอบอกว่า สำหรับคนที่ดูและประทับใจละครเรื่องนั้น มันยังติดตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ ยากที่จะลืม
ปล. เคยมีเพื่อนป้าบุญรอดที่เขาเป็นคอหนัง/ซีรี่ย์ญี่ปุ่น เขาบอกกับป้าเลยว่า
หนังญี่ปุ่น ดูรอบแรกเหมือนไม่มีอะไร แต่ประทับใจอิ๊บอ๋าย
หนังญี่ปุ่น ดูรอบสองเห็นรายละเอียด และ สิ่งที่เขาสื่อได้มากขึ้น
และป้าก็เสริมเพื่อนไปว่า...และถ้าเราดูรอบที่ 3 ขึ้นไป เราจะอ่านใจผู้กำกับได้ทะลุเลยนะนั่น