"บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประมขุใหญ่เทควันโดไทย ยืนยันโค้ชเช ยอง ซอก ยังไม่กลับมา พร้อมนักกีฬาชุดโคเรียโอเพ่น 2014 แต่รับปากจะบินไปตามตัว โค้ชเช ถึงเกาหลีใต้ ให้มาคุมทีมชาติไทยเหมือนเดิม จากกรณีปัญหาถูก “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาว กล่าวหา ลงโทษเกินกว่าเหตุ พร้อมเผยหลายชาติได้ที จ้องฉกโค้ชของไทยรายนี้แล้ว สอบถามมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาติตะวันออกกลาง เสนอค่าจ้างมากกว่าไทยเท่าตัว ให้กว่าครึ่งล้านบาทต่อเดือน ฝากบอก รุ่งระวี ให้ไตร่ตรองสิ่งที่ทำให้ดี เป็นนักกีฬาทีมชาติ ต้องเสียสละเพื่อชาติมากกว่านี้หรือไม่ จะให้โค้ช ที่สั่งสอนมา ขอโทษผ่านสื่อ สมควรมากน้อยแค่ไหน
ความคืบหน้า กรณี “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาวทีมชาติไทย วัย 23 ปี ระบุว่า ถูก “โค้ชเช” เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอนไทยชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุ หลังจากเจ้าตัวมาแข่งขันช้า และใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวไม่พร้อม ระหว่างทำศึกเทควันโด "โคเรีย โอเพ่น 2014" ที่เมืองกองจู ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเหตุให้แพ้ตกรอบแรก ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า โค้ชเช ยอง ซอก เสียกำลังใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับนักกีฬาไทยมาตลอดถึง 12 ปี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันตรงกันข้าม แถมมีแนวโน้มว่า จะไม่กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกต่อไป ขณะที่ รุ่งระวี พร้อมพ่อแม่ ยืนยันให้ โค้ชชาวเกาหลีใต้หัวใจไทยรายนี้ ขอโทษสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านสื่อมวลชน
ล่าสุด “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากสหรัฐอเมริกา ว่า หลังจากการพูดคุยกับ โค้ชเช ในเบื้องต้น เจ้าตัวยังแบ่งรับแบ่งสู้เหมือนเดิมที่จะกลับมาเมืองไทย พร้อมกับนักกีฬาชุดสู้ศึกโคเรีย โอเพ่น ในช่วงดึกของคืนวันที่ 17 ก.ค.นี้ และจากการสอบถามโค้ชไทยของเรา ได้รับการยืนยันว่า โค้ชเช ยังจะไม่เดินทางกลับมาตามกำหนดเดิม ซึ่งในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตนก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดึง โค้ชเช กลับมาคุมทีมชาติไทยให้ได้เหมือนเดิม แต่ก็คงต้องให้เวลากับเจ้าตัวระยะหนึ่งในการอยู่กับตัวเอง และเมื่อเวลาเหมาะสมจะเดินทางไป เกาหลีใต้ พร้อมกับ บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯ ที่เป็นคนเอาโค้ชเชมาอยู่เมืองไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 ตอนกีฬาเอเชี้ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้ เพื่อต้องการตามตัวโค้ชรายนี้ให้กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม เพราะเรายังมีภาระกิจสำคัญในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่หนานจิง ประเทศจีน และ เอชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้
"ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดึง โค้ชเช กลับมาให้ได้ เพราะเรายังมีศึกใหญ่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นยูธโอลิมปิกเกมส์ เดือนส.ค. ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ เดือนก.ย. ที่เกาหลีใต้ และจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้หลายชาติสอบถามกันมาอย่างต่อเนื่องใช้ช่วงเวลานี้ เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความต้องการอยากได้ โค้ชเช ไปคุมทีมชาติให้ โดยเฉพาะชาติในตะวันออกลางมีกำลังจ่าย ถึงกับเสนอค่าจ้างมากกว่าไทยเป็นเท่าตัว ตกเดือนละประมาณครึ่งล้านบาท เพราะทางโค้ชเชอยู่ด้วยสัญญาใจไม่มีอะไรผูกมัดทั้งสิ้น เพราะเราเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว" ผศ.พิมล เผยให้รับทราบ
นายกสมาคมเทควันโดฯ กล่าวต่อว่า อยากฝากไปถึง "น้องก้อย" รุ่งระวี ให้ไตร่ตรองให้ดีกับสิ่งที่ได้ทำไปว่า เกิดอะไรขึ้น ต้องการความสะใจ หรืออย่างไร เป็นนักกีฬาทีมชาติ ต้องเสียสละเพื่อชาติมากกว่านี้หรือไม่ จะให้โค้ชที่อบรมสั่งสอนให้วิชาความรู้กับตัวเองมา กล่าวขอโทษนักกีฬาผ่านสื่อ มันสมควรมากน้อยแค่ไหน ถ้า โค้ชเช ไม่กลับมา ต้องยอมรับความจริงว่า ยูธโอลิมปิกเกมส์ และ เอเชี่ยนเกมส์ โอกาสของไทย น้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย รุ่งระวี อาจจะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยคนแรกก็ได้ ที่คนไทยไม่เชียร์ อยากให้คิดให้ดีกับสิ่งที่ได้ทำลงไป พร้อมกันนี้อยากให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี เพราะมันส่งผลกระทบกับนักเทควันโดคนอื่นๆ หลายคนรู้สึกเสียขวัญและอยากเลิกเล่นทีมชาติไทยหากไม่มีโค้ชเชมาทำหน้าที่ตรงจุดนี้
ที่มาhttp://www.sportpost.net/sp/component/content/article/48-others-sport/23026-tekwando.html
ต่างชาติจีบ "โค้ชเช" ให้เงินเดือนครึ่งล้าน
ความคืบหน้า กรณี “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาวทีมชาติไทย วัย 23 ปี ระบุว่า ถูก “โค้ชเช” เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอนไทยชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุ หลังจากเจ้าตัวมาแข่งขันช้า และใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวไม่พร้อม ระหว่างทำศึกเทควันโด "โคเรีย โอเพ่น 2014" ที่เมืองกองจู ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเหตุให้แพ้ตกรอบแรก ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า โค้ชเช ยอง ซอก เสียกำลังใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับนักกีฬาไทยมาตลอดถึง 12 ปี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามันตรงกันข้าม แถมมีแนวโน้มว่า จะไม่กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกต่อไป ขณะที่ รุ่งระวี พร้อมพ่อแม่ ยืนยันให้ โค้ชชาวเกาหลีใต้หัวใจไทยรายนี้ ขอโทษสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านสื่อมวลชน
ล่าสุด “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากสหรัฐอเมริกา ว่า หลังจากการพูดคุยกับ โค้ชเช ในเบื้องต้น เจ้าตัวยังแบ่งรับแบ่งสู้เหมือนเดิมที่จะกลับมาเมืองไทย พร้อมกับนักกีฬาชุดสู้ศึกโคเรีย โอเพ่น ในช่วงดึกของคืนวันที่ 17 ก.ค.นี้ และจากการสอบถามโค้ชไทยของเรา ได้รับการยืนยันว่า โค้ชเช ยังจะไม่เดินทางกลับมาตามกำหนดเดิม ซึ่งในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตนก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดึง โค้ชเช กลับมาคุมทีมชาติไทยให้ได้เหมือนเดิม แต่ก็คงต้องให้เวลากับเจ้าตัวระยะหนึ่งในการอยู่กับตัวเอง และเมื่อเวลาเหมาะสมจะเดินทางไป เกาหลีใต้ พร้อมกับ บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯ ที่เป็นคนเอาโค้ชเชมาอยู่เมืองไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 ตอนกีฬาเอเชี้ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน เกาหลีใต้ เพื่อต้องการตามตัวโค้ชรายนี้ให้กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม เพราะเรายังมีภาระกิจสำคัญในศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่หนานจิง ประเทศจีน และ เอชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้
"ผมจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดึง โค้ชเช กลับมาให้ได้ เพราะเรายังมีศึกใหญ่รออยู่ ไม่ว่าจะเป็นยูธโอลิมปิกเกมส์ เดือนส.ค. ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ เดือนก.ย. ที่เกาหลีใต้ และจากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้หลายชาติสอบถามกันมาอย่างต่อเนื่องใช้ช่วงเวลานี้ เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความต้องการอยากได้ โค้ชเช ไปคุมทีมชาติให้ โดยเฉพาะชาติในตะวันออกลางมีกำลังจ่าย ถึงกับเสนอค่าจ้างมากกว่าไทยเป็นเท่าตัว ตกเดือนละประมาณครึ่งล้านบาท เพราะทางโค้ชเชอยู่ด้วยสัญญาใจไม่มีอะไรผูกมัดทั้งสิ้น เพราะเราเหมือนครอบครัวเดียวกันไปแล้ว" ผศ.พิมล เผยให้รับทราบ
นายกสมาคมเทควันโดฯ กล่าวต่อว่า อยากฝากไปถึง "น้องก้อย" รุ่งระวี ให้ไตร่ตรองให้ดีกับสิ่งที่ได้ทำไปว่า เกิดอะไรขึ้น ต้องการความสะใจ หรืออย่างไร เป็นนักกีฬาทีมชาติ ต้องเสียสละเพื่อชาติมากกว่านี้หรือไม่ จะให้โค้ชที่อบรมสั่งสอนให้วิชาความรู้กับตัวเองมา กล่าวขอโทษนักกีฬาผ่านสื่อ มันสมควรมากน้อยแค่ไหน ถ้า โค้ชเช ไม่กลับมา ต้องยอมรับความจริงว่า ยูธโอลิมปิกเกมส์ และ เอเชี่ยนเกมส์ โอกาสของไทย น้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย รุ่งระวี อาจจะเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยคนแรกก็ได้ ที่คนไทยไม่เชียร์ อยากให้คิดให้ดีกับสิ่งที่ได้ทำลงไป พร้อมกันนี้อยากให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี เพราะมันส่งผลกระทบกับนักเทควันโดคนอื่นๆ หลายคนรู้สึกเสียขวัญและอยากเลิกเล่นทีมชาติไทยหากไม่มีโค้ชเชมาทำหน้าที่ตรงจุดนี้
ที่มาhttp://www.sportpost.net/sp/component/content/article/48-others-sport/23026-tekwando.html