เป็นไงหละ อีก้อย เพราะมะรึงตัวเดียว ทำให้กระทบำปทั่ว แค่นี้ยังคิดไม่ออกอีกหรอ ว่าใครควรจะขอโทษกันแน่
"โค้ชเช" เครียดหนัก เก็บตัวอยู่ในห้องพัก หลังกระแสข่าวถาโถม "ผศ.พิมล ศรีวิกรม์" ระบุโค้ชเชกล่าวขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เกิดข่าวอื้อฉาว เจ้าตัวแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องกลับไทยวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักกีฬาส่วนหนึ่งเตรียมเลิกเล่นทีมชาติตามไปด้วย หากไม่มีโค้ชเชคุมทีม
ความคืบหน้ากรณี "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทยรุ่นประชาชนอายุ 23 ปี เจ้าของเหรียญทองแดงศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่อุซเบกิสถาน ออกมาแฉในโลกสังคมออนไลน์ว่า ตัวเองถูก "โค้ชเช" หรือ นายเช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุ ด้วยการทำร้ายร่างกาย หลังเจ้าตัวไม่มีความพร้อม ส่งผลให้ตกรอบแรก ในศึกเทควันโด "โคเรียโอเพ่น 2014" ณ ประเทศเกาหลีใต้ จนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วในวงการเทควันโดไทย ณ วินาทีนี้
ล่าสุด รายงานข่าวจากแคมป์เทควันโดทีมชาติไทย นักกีฬาส่วนหนึ่งรู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังเกิดเหตุ โค้ชเช ยองซอก เสียกำลังใจอย่างมาก ไม่ได้ลงมาคุมทีมซ้อมเหมือนปกติและเก็บตัวอยู่ภายในห้องพัก โดยนักกีฬาจำนวนหนึ่งติดต่อกับทางบ้านเพื่อปรึกษาปัญหาดังกล่าว เพราะมีแนวโน้มสูงว่าโค้ชชาวเกาหลีใต้จะไม่ได้เดินทางกลับเมืองไทยอีกแล้ว โดยนักกีฬาส่วนหนึ่งเตรียมเลิกเล่นทีมชาติตามไปด้วยหากทีมชาติไทยไม่มีโค้ชเช ยองซอก คุมทีม
ขณะที่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากสหรัฐอเมริกาว่า ตนได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้ “เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารม์ อดีตประธานเตรียมนักกีฬาไทย เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว โดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดร.สมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าการกกท. นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ เลขาธิการสมาคมฯ และนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯ
“เมื่อทราบเรื่อง ผมได้โทร.คุยกับ เช แล้ว ก็ได้ให้กำลังใจไป เช บอกว่าเสียใจ ไม่ได้เสียใจเรื่องการลงโทษ แต่เสียใจที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อนักกีฬาไทย อยากให้ทุกคนมีวินัย ประสบความสำเร็จ ทว่าผลที่ได้รับกลับตรงกันข้าม เช ก็ขอโทษผม ที่ทำให้เกิดเรื่อง ทำให้ไม่สบายใจ แต่ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไร ชาวไทยให้กำลังใจโค้ชเชอยู่เสมอ และเมื่อผมถามไปว่าจะกลับมาเมืองไทยหรือไม่ ในเวลานี้ เช ยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่” นายพิมล กล่าว
ด้านนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดฯ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ต้องรอการตัดสินใจของโค้ชเช ยองซอก ก่อน แต่ในกรณีที่เจ้าตัว ไม่กลับมาเมืองไทยจริงๆ ก็จำเป็นต้องแจ้งให้คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย ได้รับทราบถึงผลกระทบที่สมาคมเทควันโด ได้รับ ว่า คงไม่สามารถหาโค้ชฝีมือดีเช่นนี้มาทดแทนได้โดยเร็ว ดังนั้นเป้าหมายที่สมาคมวางไว้ที่เหรียญทอง ทั้งในยูธโอลิมปิกเกมส์ เดือนส.ค. ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ เดือนก.ย. ที่เกาหลีใต้ ก็คงต้องลดลงไป
นอกจากนี้มีรายงานข่าวจากสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับความสนใจจากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ซึ่งได้โทรศัพท์มายังสมาคมเทควันโดเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เมื่อคนของเค้ามาเป็นข่าวแบบนี้ สถานทูตก็ต้องออกมาดูแล เรื่องนี้ไม่น่าจะบานปลายถึงขนาดนี้ เพราะเท่าที่ทราบโค้ชเชก็ลงโทษนักกีฬาเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่อาจจะเป็นเพราะเด็กคนนี้เพิ่งเข้ามาเก็บตัวไม่กี่เดือน ไม่ได้มาจากการสร้างตั้งแต่ระดับเยาวชน อาจจะไม่เคยโดนลงโทษแบบนี้ก็ได้”
จอมเตะไทยลั่นลาออก หากโค้ชเชไม่คุมทีม
"โค้ชเช" เครียดหนัก เก็บตัวอยู่ในห้องพัก หลังกระแสข่าวถาโถม "ผศ.พิมล ศรีวิกรม์" ระบุโค้ชเชกล่าวขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เกิดข่าวอื้อฉาว เจ้าตัวแบ่งรับแบ่งสู้เรื่องกลับไทยวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักกีฬาส่วนหนึ่งเตรียมเลิกเล่นทีมชาติตามไปด้วย หากไม่มีโค้ชเชคุมทีม
ความคืบหน้ากรณี "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทยรุ่นประชาชนอายุ 23 ปี เจ้าของเหรียญทองแดงศึกชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่อุซเบกิสถาน ออกมาแฉในโลกสังคมออนไลน์ว่า ตัวเองถูก "โค้ชเช" หรือ นายเช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุ ด้วยการทำร้ายร่างกาย หลังเจ้าตัวไม่มีความพร้อม ส่งผลให้ตกรอบแรก ในศึกเทควันโด "โคเรียโอเพ่น 2014" ณ ประเทศเกาหลีใต้ จนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วในวงการเทควันโดไทย ณ วินาทีนี้
ล่าสุด รายงานข่าวจากแคมป์เทควันโดทีมชาติไทย นักกีฬาส่วนหนึ่งรู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังเกิดเหตุ โค้ชเช ยองซอก เสียกำลังใจอย่างมาก ไม่ได้ลงมาคุมทีมซ้อมเหมือนปกติและเก็บตัวอยู่ภายในห้องพัก โดยนักกีฬาจำนวนหนึ่งติดต่อกับทางบ้านเพื่อปรึกษาปัญหาดังกล่าว เพราะมีแนวโน้มสูงว่าโค้ชชาวเกาหลีใต้จะไม่ได้เดินทางกลับเมืองไทยอีกแล้ว โดยนักกีฬาส่วนหนึ่งเตรียมเลิกเล่นทีมชาติตามไปด้วยหากทีมชาติไทยไม่มีโค้ชเช ยองซอก คุมทีม
ขณะที่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯ เปิดเผยผ่านโทรศัพท์ทางไกลจากสหรัฐอเมริกาว่า ตนได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้ “เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารม์ อดีตประธานเตรียมนักกีฬาไทย เป็นประธานสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว โดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดร.สมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าการกกท. นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ เลขาธิการสมาคมฯ และนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯ
“เมื่อทราบเรื่อง ผมได้โทร.คุยกับ เช แล้ว ก็ได้ให้กำลังใจไป เช บอกว่าเสียใจ ไม่ได้เสียใจเรื่องการลงโทษ แต่เสียใจที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อนักกีฬาไทย อยากให้ทุกคนมีวินัย ประสบความสำเร็จ ทว่าผลที่ได้รับกลับตรงกันข้าม เช ก็ขอโทษผม ที่ทำให้เกิดเรื่อง ทำให้ไม่สบายใจ แต่ผมก็บอกว่า ไม่เป็นไร ชาวไทยให้กำลังใจโค้ชเชอยู่เสมอ และเมื่อผมถามไปว่าจะกลับมาเมืองไทยหรือไม่ ในเวลานี้ เช ยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่” นายพิมล กล่าว
ด้านนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดฯ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ต้องรอการตัดสินใจของโค้ชเช ยองซอก ก่อน แต่ในกรณีที่เจ้าตัว ไม่กลับมาเมืองไทยจริงๆ ก็จำเป็นต้องแจ้งให้คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย ได้รับทราบถึงผลกระทบที่สมาคมเทควันโด ได้รับ ว่า คงไม่สามารถหาโค้ชฝีมือดีเช่นนี้มาทดแทนได้โดยเร็ว ดังนั้นเป้าหมายที่สมาคมวางไว้ที่เหรียญทอง ทั้งในยูธโอลิมปิกเกมส์ เดือนส.ค. ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ เดือนก.ย. ที่เกาหลีใต้ ก็คงต้องลดลงไป
นอกจากนี้มีรายงานข่าวจากสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับความสนใจจากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ซึ่งได้โทรศัพท์มายังสมาคมเทควันโดเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“เมื่อคนของเค้ามาเป็นข่าวแบบนี้ สถานทูตก็ต้องออกมาดูแล เรื่องนี้ไม่น่าจะบานปลายถึงขนาดนี้ เพราะเท่าที่ทราบโค้ชเชก็ลงโทษนักกีฬาเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แต่อาจจะเป็นเพราะเด็กคนนี้เพิ่งเข้ามาเก็บตัวไม่กี่เดือน ไม่ได้มาจากการสร้างตั้งแต่ระดับเยาวชน อาจจะไม่เคยโดนลงโทษแบบนี้ก็ได้”