สวัสดีค่ะทุกๆคน ช่วงนี้เห็นมีแต่คนอยากไปเรียนฮอกวอร์ตเลยจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะว่าเรียนเป็นยังไงบ้าง
เมื่อปีที่แล้วเราสอบได้ทุนแลกเปลี่ยน Global UGRAD ของสถานทูตสหรัฐ(ดูแลและคัดเลือกโดยฟุลไบร์ท )ได้ เป็นทุนสำหรับมอต่างจังหวัดค่ะ สถานทูตต้องการจะกระจายโอกาสให้เด็กต่างจังหวัด))
ทุนเปิดช่วงพฤศจิกายนนะคะ ประกาศผลก็ประมาณกลางปีของอีกปีนึงรอนานหน่อยแต่คุ้มค่ะ
http://fulbrightthai.org/ ทุนประกาศทางนี้ค่ะ ตอนนี้เพิ่งคัดของปีนี้ไป รอถึงช่วงประมาณ พย จะประกาศเปิดรับสมัครของปีหน้า
อันนี้เป็นรายละเอียดของทุนจากเว็บหน่วยงานที่ให้ทุนค่ะ
http://www.worldlearning.org/what-we-do/projects/Global-Undergraduate-Exchange-Program-for-East-Asia-the-Pacific-and-the-Western-Hemisphere/
ทุนนี้เขาจะเลือกมหาลัยให้เราเองนะคะเขาจะดูว่าเราเรียนเอกอะไรและจะเลือกมอที่เก่งๆด้านที่เราเรียนให้เราค่ะ
เราได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย St.Catherine University,Saint Paul , Minnesota (ทุนเลือกให้ค่ะ) เป็นเวลา 1 เทอมค่ะ
ทุนนี้เป็นทุนแลกเปลี่ยนระดับปตรี เต็มจำนวนไม่ต้องเสียเงินเลยตั้งแต่ค่าสมัคร ค่าทำวีซ่า ค่าสอบ TOEFL คือไปแต่ตัวก็อยู่รอดได้ค่ะ
ทุนนี้คัด 5 รอบ เริ่มจากการเขียนเรียงความส่งตามหัวข้อที่เขากำหนดมาในแต่ละปีค่ะ
1.ตัวแทนมหาลัยละ 5 คน 2.สัมภาษณ์กับสถานทูตและฟุลไบร์ท 3.Toefl paper 4.Toefl IBT 5.คัดรอบสุดท้ายโดยกระทรวงศึกษาของสหรัฐที่วอชิงตันดีซีค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละรอบจะมีการตัดคนออกเรื่อยๆค่ะจนเหลือประมาณ4-5คนสุดท้ายในแต่ละปี
ทุนให้อะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่
ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ,ค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเดินทางหลายสนามบิน, ค่าเทอมค่ะ มอเราอยู่ที่45k/semester [นอกจากทุนภายนอกแล้วมอก็ให้ทุนเองด้วยนะคะสูงถึงครึ่งนึงของค่าเทมอเลยสำหรับคนที่อยากไปเรียนเอาวุฒิปริญญา] , ที่พักฟรีคืออยู่หอในกับเมท ,มีเบี้ยเลี้ยงให้ 300$/month, ค่าหนังสือ 250$/sem ถ้าเกินเบิกได้ค่ะ
เดือนแรกไปถึงมีค่าซื้อของทุกอย่างเตรียมเข้าหอให้ 500$ (สรุปเดือนแรกได้ประมาณเกือบพันเหรียญ เดือนต่อๆไปได้สามร้อยปกติค่ะ)
เวลาไปเที่ยวทุนจะมีเงินสนับสนุนการออกไปศึกษาวัฒนธรรมเมกันให้อีกต่างหาก 250$/semester (เราไปดูละครเวที เที่ยวพิพิธภัฑท์etc)
ในบัตรนศก็จะมีเงินให้ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อของมอและใช้กินข้าวในโรงอาหารสามมื้อ 1200$/semester อันนี้เหลือเฟือมากๆค่ะแต่เบิกออกมาเป็นเงินสดไม่ได้นะคะต้องใช้ให้หมดเหมือนเป็นการซื้อเครดิตของมอไม่คืนเงินให้ค่ะ
ใครสนใจหลังไมค์มาถามได้นะคะหรือเข้าไปดูที่ Fulbright Thailand ก็ได้ค่ะ
ตัวแทนประเทศไทย5คน แต่ละคนถูกส่งไปเรียนคนละที่แล้วแต่ทุนจะเลือกให้ตามความเหมาะสม
รูปบางส่วนของมหาลัย
ประเด็นคือว่ามหาลัยที่เราไปเรียนนั้นมีวิชานึงที่ชื่อว่า Six Degrees of Harry Potter ตอนแรกทุนจะให้เราเลือกวิชาไปก่อนค่ะ แล้วทางมหาลัยจะลงทะเบียนให้ เราเรียนเอกวรรณกรรมพอดีค่ะเลยเลือกลงตัวนี้ได้แต่พอเปิดดูกลายเป็นว่าเขามีประชุมกันก่อนค่ะสำหรับคนที่อยากลง ก็เลยรู้สึกว่าอดแน่เลย เสียใจด้วย เพราะส่วนตัวเราชอบแฮร์รี่มากทั้งดูหนังทั้งอ่านหนังสือ เรียนภาษาก็เรียนผ่านหนังเรื่องนี้ด้วยคือเปิดปิดซับดูหลายรอบมาก
ทีนี้ก่อนไปทางมหาลัยก็จะส่งรายละเอียดมาให้ค่ะว่าได้อยู่หอไหนยังไง แล้วเราดันได้เมล์ฉบับนี้ค่ะชอคมากและดีใจมากๆ คนที่เป็นแฟนแฮร์รี่จะเข้าใจว่าทุกคนต่างใฝ่ฝันจะได้รับจดหมายนี้
(เป็นจดหมายสแกนจากเจ้าหน้าที่ทุนเขาสแกนส่งมาให้ค่ะ ตอนนั้นยังอยู่ไทยเขาเลยจะติดต่อเราผ่านเจ้าหน้าที่ทุนที่เมกา)
พอได้อ่านแล้วแทบกรี๊ดค่ะคือได้เมลตอนประมาณสองสามวันก่อนบินค่ะ ทำให้ตื่นเต้นมากคือยังไม่รู้ค่ะว่าจะเป็นยังไงเพราะวิชาที่อยากลงตอนแรกก็ยังลงไม่ได้
พอไปถึงก็ย้ายเข้าหอในค่ะ ก็ถึงบางอ้อว่าหอที่เราไปอยู่นั้นเขาจะแบ่งเป็นชั้น แล้วแต่ละชั้นจะมีธีมของตัวเองค่ะ ซึ่งชั้นเราก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Harry Potter (กรี๊ดดด) ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดและมีหอคอยด้วย เราเรียกกันว่า Gryffindor Tower.
รูปภาพของทั้งชั้นคร่าวๆ
ตีนบันไดขึ้นหอคอย
ด้านบนหอคอย
จริงๆตรงบันไดขึ้นจากชั้น 3 มาชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นที่เราพักมีรูปภาพ สุภาพสตรีอ้วน ด้วยค่ะแต่ไม่ได้ถ่ายมา
บรรยากาศของชั้นที่พักและหอคอยกริฟฟินดอร์ค่ะ
นี่คือประตูห้องเราค่ะ ทุนบังคับให้มีรูมเมทเป็นเมกันเลยได้อยู่กับเมทสองคนค่ะ หน้าประตูบางคนก็จะมีตั๋ว ชานชลา 3/4 มาติดด้วยค่ะ เป็นอันดับแรกแต่เรามาช้าคือมาตอนเพื่อนๆเขาได้ห้องกันแล้วเลยไม่มีตั๋วแปะหน้าห้อง ตัวกระดาษตกแต่งที่ติดหน้าประตูก็จะบอกถึงตัวเราค่ะโดย RA* Resident Advisor เป็นคนทำให้ค่ะ มีตั้งแต่รูปเนคไทด์แสดงถึงสีบ้านที่อยู่ค่ะและเขียนชื่อเราลงไป ของเราเป็นสีฟ้าค่ะ (พอจะเดาได้มั้ยคะว่าเราอยู่บ้านอะไร?) และรูปรถไฟก็คือรถไฟด่วนฮอกต์วอร์ต, ID Card ถ้าซูมจะเห็นว่าให้ใส่รายละเอียดค่ะ ตั้งแต่สีตา ไส้ในไม้กายสิทธิ์ สัตว์เลี้ยง สีผม บลาๆ ซึ่งเราตื่นเต้นมากค่ะ คือไม่เคยคิดว่าจะได้มาเรียนและเข้าใกล้วรรณกรรมที่ตัวเองชอบขนาดนี้
เดี๋ยวมาโพสรูปกับเล่าเรื่องต่อค่ะว่าเรียนยังไง สรุปได้เรียนมั้ย
แชร์ประสบการณ์ ไปเรียนฮอกวอตส์มาค่ะ
เมื่อปีที่แล้วเราสอบได้ทุนแลกเปลี่ยน Global UGRAD ของสถานทูตสหรัฐ(ดูแลและคัดเลือกโดยฟุลไบร์ท )ได้ เป็นทุนสำหรับมอต่างจังหวัดค่ะ สถานทูตต้องการจะกระจายโอกาสให้เด็กต่างจังหวัด))
ทุนเปิดช่วงพฤศจิกายนนะคะ ประกาศผลก็ประมาณกลางปีของอีกปีนึงรอนานหน่อยแต่คุ้มค่ะ
http://fulbrightthai.org/ ทุนประกาศทางนี้ค่ะ ตอนนี้เพิ่งคัดของปีนี้ไป รอถึงช่วงประมาณ พย จะประกาศเปิดรับสมัครของปีหน้า
อันนี้เป็นรายละเอียดของทุนจากเว็บหน่วยงานที่ให้ทุนค่ะ
http://www.worldlearning.org/what-we-do/projects/Global-Undergraduate-Exchange-Program-for-East-Asia-the-Pacific-and-the-Western-Hemisphere/
ทุนนี้เขาจะเลือกมหาลัยให้เราเองนะคะเขาจะดูว่าเราเรียนเอกอะไรและจะเลือกมอที่เก่งๆด้านที่เราเรียนให้เราค่ะ
เราได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย St.Catherine University,Saint Paul , Minnesota (ทุนเลือกให้ค่ะ) เป็นเวลา 1 เทอมค่ะ
ทุนนี้เป็นทุนแลกเปลี่ยนระดับปตรี เต็มจำนวนไม่ต้องเสียเงินเลยตั้งแต่ค่าสมัคร ค่าทำวีซ่า ค่าสอบ TOEFL คือไปแต่ตัวก็อยู่รอดได้ค่ะ
ทุนนี้คัด 5 รอบ เริ่มจากการเขียนเรียงความส่งตามหัวข้อที่เขากำหนดมาในแต่ละปีค่ะ
1.ตัวแทนมหาลัยละ 5 คน 2.สัมภาษณ์กับสถานทูตและฟุลไบร์ท 3.Toefl paper 4.Toefl IBT 5.คัดรอบสุดท้ายโดยกระทรวงศึกษาของสหรัฐที่วอชิงตันดีซีค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละรอบจะมีการตัดคนออกเรื่อยๆค่ะจนเหลือประมาณ4-5คนสุดท้ายในแต่ละปี
ทุนให้อะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่
ตั๋วเครื่องบินไปกลับ ,ค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเดินทางหลายสนามบิน, ค่าเทอมค่ะ มอเราอยู่ที่45k/semester [นอกจากทุนภายนอกแล้วมอก็ให้ทุนเองด้วยนะคะสูงถึงครึ่งนึงของค่าเทมอเลยสำหรับคนที่อยากไปเรียนเอาวุฒิปริญญา] , ที่พักฟรีคืออยู่หอในกับเมท ,มีเบี้ยเลี้ยงให้ 300$/month, ค่าหนังสือ 250$/sem ถ้าเกินเบิกได้ค่ะ
เดือนแรกไปถึงมีค่าซื้อของทุกอย่างเตรียมเข้าหอให้ 500$ (สรุปเดือนแรกได้ประมาณเกือบพันเหรียญ เดือนต่อๆไปได้สามร้อยปกติค่ะ)
เวลาไปเที่ยวทุนจะมีเงินสนับสนุนการออกไปศึกษาวัฒนธรรมเมกันให้อีกต่างหาก 250$/semester (เราไปดูละครเวที เที่ยวพิพิธภัฑท์etc)
ในบัตรนศก็จะมีเงินให้ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อของมอและใช้กินข้าวในโรงอาหารสามมื้อ 1200$/semester อันนี้เหลือเฟือมากๆค่ะแต่เบิกออกมาเป็นเงินสดไม่ได้นะคะต้องใช้ให้หมดเหมือนเป็นการซื้อเครดิตของมอไม่คืนเงินให้ค่ะ
ใครสนใจหลังไมค์มาถามได้นะคะหรือเข้าไปดูที่ Fulbright Thailand ก็ได้ค่ะ
ตัวแทนประเทศไทย5คน แต่ละคนถูกส่งไปเรียนคนละที่แล้วแต่ทุนจะเลือกให้ตามความเหมาะสม
รูปบางส่วนของมหาลัย
ประเด็นคือว่ามหาลัยที่เราไปเรียนนั้นมีวิชานึงที่ชื่อว่า Six Degrees of Harry Potter ตอนแรกทุนจะให้เราเลือกวิชาไปก่อนค่ะ แล้วทางมหาลัยจะลงทะเบียนให้ เราเรียนเอกวรรณกรรมพอดีค่ะเลยเลือกลงตัวนี้ได้แต่พอเปิดดูกลายเป็นว่าเขามีประชุมกันก่อนค่ะสำหรับคนที่อยากลง ก็เลยรู้สึกว่าอดแน่เลย เสียใจด้วย เพราะส่วนตัวเราชอบแฮร์รี่มากทั้งดูหนังทั้งอ่านหนังสือ เรียนภาษาก็เรียนผ่านหนังเรื่องนี้ด้วยคือเปิดปิดซับดูหลายรอบมาก
ทีนี้ก่อนไปทางมหาลัยก็จะส่งรายละเอียดมาให้ค่ะว่าได้อยู่หอไหนยังไง แล้วเราดันได้เมล์ฉบับนี้ค่ะชอคมากและดีใจมากๆ คนที่เป็นแฟนแฮร์รี่จะเข้าใจว่าทุกคนต่างใฝ่ฝันจะได้รับจดหมายนี้
(เป็นจดหมายสแกนจากเจ้าหน้าที่ทุนเขาสแกนส่งมาให้ค่ะ ตอนนั้นยังอยู่ไทยเขาเลยจะติดต่อเราผ่านเจ้าหน้าที่ทุนที่เมกา)
พอได้อ่านแล้วแทบกรี๊ดค่ะคือได้เมลตอนประมาณสองสามวันก่อนบินค่ะ ทำให้ตื่นเต้นมากคือยังไม่รู้ค่ะว่าจะเป็นยังไงเพราะวิชาที่อยากลงตอนแรกก็ยังลงไม่ได้
พอไปถึงก็ย้ายเข้าหอในค่ะ ก็ถึงบางอ้อว่าหอที่เราไปอยู่นั้นเขาจะแบ่งเป็นชั้น แล้วแต่ละชั้นจะมีธีมของตัวเองค่ะ ซึ่งชั้นเราก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Harry Potter (กรี๊ดดด) ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดและมีหอคอยด้วย เราเรียกกันว่า Gryffindor Tower.
รูปภาพของทั้งชั้นคร่าวๆ
ตีนบันไดขึ้นหอคอย
ด้านบนหอคอย
จริงๆตรงบันไดขึ้นจากชั้น 3 มาชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นที่เราพักมีรูปภาพ สุภาพสตรีอ้วน ด้วยค่ะแต่ไม่ได้ถ่ายมา
บรรยากาศของชั้นที่พักและหอคอยกริฟฟินดอร์ค่ะ
นี่คือประตูห้องเราค่ะ ทุนบังคับให้มีรูมเมทเป็นเมกันเลยได้อยู่กับเมทสองคนค่ะ หน้าประตูบางคนก็จะมีตั๋ว ชานชลา 3/4 มาติดด้วยค่ะ เป็นอันดับแรกแต่เรามาช้าคือมาตอนเพื่อนๆเขาได้ห้องกันแล้วเลยไม่มีตั๋วแปะหน้าห้อง ตัวกระดาษตกแต่งที่ติดหน้าประตูก็จะบอกถึงตัวเราค่ะโดย RA* Resident Advisor เป็นคนทำให้ค่ะ มีตั้งแต่รูปเนคไทด์แสดงถึงสีบ้านที่อยู่ค่ะและเขียนชื่อเราลงไป ของเราเป็นสีฟ้าค่ะ (พอจะเดาได้มั้ยคะว่าเราอยู่บ้านอะไร?) และรูปรถไฟก็คือรถไฟด่วนฮอกต์วอร์ต, ID Card ถ้าซูมจะเห็นว่าให้ใส่รายละเอียดค่ะ ตั้งแต่สีตา ไส้ในไม้กายสิทธิ์ สัตว์เลี้ยง สีผม บลาๆ ซึ่งเราตื่นเต้นมากค่ะ คือไม่เคยคิดว่าจะได้มาเรียนและเข้าใกล้วรรณกรรมที่ตัวเองชอบขนาดนี้
เดี๋ยวมาโพสรูปกับเล่าเรื่องต่อค่ะว่าเรียนยังไง สรุปได้เรียนมั้ย