เมื่อสัก 20 ปีที่แล้ว
ตอน ป.1-2 ผมเรียนที่ โรงเรียนหนึ่งในย่านบางกะปิ
ซึ่งผมเองตอนนั้นเป็นเด็กขี้แง และขี้เกียจมาก การบ้านไม่ทำไม่ส่งไม่สนใจ และจะมีคุณครูคนหนึ่งที่เป็นคุณครูสอนประจำห้องผม ที่คอยสอนผม รวมถึงตีผมประจำ (หยิกด้วยนะครับ ที่พุงบ้างที่แขนบ้าง ที่หูบ้าง) คุณครูคนนั้นจะเอาใจใส่ผมเป็นพิเศษ ให้ผมนั่งหน้าห้องตลอด นั่งประชิดติดคุณครูเขาเลยทีเดียว
ถ้าผมไม่ตั้งใจเรียนหรือวอกแว่กแม้สักเพียงนิด ผมก็จะโดนทันที ไม่เรียวเอย หยิกเอย ผมเองขี้แงอยู่แล้วก็ยิ่งร้องไห้
แต่คุณครูคนนั้นก็พยายามบ่มตัวผมให้เป็นคนเลิกขี้แง และมีความกล้าแสดงออก ส่งผมไปอ่านบทความหน้าเสาธงตอนเช้าๆ เป็นตัวแทนทำกิจกรรมกับนักเรียนห้องอื่นบ้าง (บางทีอ่านไม่ดี อ่านผิดๆถูก เว้นวรรคไม่ถูก กลับมาก็โดนซ่อม ทั้งตี ทั้งให้กลับไปอ่านมาใหม่ที่บ้าน แล้วมาซ่อมกับครูหลังเลิกเรียนของอีกวัน) ทั้งๆที่ เพื่อนในห้องที่เรียนเก่งกว่าผม กล้าแสดงออกมากกว่าผมก็มีอีกหลายคน แต่คุณครูท่านนั้นกลับสนับสนุนแต่ผม เนื่องด้วยที่ว่าผมด้อยที่สุดในห้องแล้ว ในเรื่องการเรียน และระเบียบวินัย
ผมเองในตอนนั้น เกลียดครูคนนี้มาก ผมคิดว่าทำไมต้องทำร้ายแต่ผม.....เกลียดการไป รร.เลยในทันที
แต่เชื่อใหมปัจจุบันผมกลับจำได้แต่คุณครูท่านนั้น และคิดถึงท่านตลอดมา จนเวลาล่วงเลยมากว่า 20 ปี.... ในวันไหว้ครูที่ผ่านมา ผมจึงถือโอกาศไปเยี่ยมท่านที่โรงเรียน พร้อมทั้งพวงมาลัย...
เมื่อผมเจอท่าน ท่านจำผมไม่ได้(ก็แน่ล่ะ) แต่พอผมบอกชื่อไป ท่านจำผมได้พร้อมทั้งมีน้ำตาไหลออกมา
และผมก็กราบท่านต่อหน้านักเรียนในโถงประชุม พร้อมทั้งบอกว่า "ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณครูตีผมมาในตอนที่ผมยังเป็นนักเรียนของท่าน"
และขอขอบคุณท่านที่สั่งสอนให้ผม มีความอดทน อดกลั้น รวมถึงความกล้าแสดงออกในทางที่ถูกที่ควร
"ผมรักคุณครูครับ" คุณครูที่ทำให้ผมมีวันนี้...
ปล 1. อาจจะไม่เกี่ยวกับกีฬาเทควันโด้นะครับ แต่เห็นว่ามันมีความคล้ายคลึงกันอยู่ในบางเรื่อง และอยากให้มุมมองอีกมุมนึง ถึงการทำร้ายร่างกายเพื่อความสะใจ ระบายอารมณ์ หรือ "การสั่งสอน" จากคนที่เป็นครู
ปล 2. บางท่านอาจแย้ง ชกหน้า กับ ตีหรือหยิก มันเทียบกันไม่ได้ ซึ่งในตอนนั้น ผมอายุแค่ 7-8 ขวบ ตัวกระเปี๊ยกเดียว กับคุณครูผู้หญิงซึ่งท่านตัวใหญ่กว่า และผมเองโดนหนักมาก จำได้เลย แขนลายตูดลายประจำ ซึ่งก็น่าจะพอเทียบเท่ากับน้องก้อย ซึ่งโตกว่าแต่โดนผู้ชายซึ่งเป็นโค้ชทำร้าย ตามคำบอกเล่าของน้องเขา
แค่อยากพูดถึงเรื่องการทำร้ายร่างกาย หรือการสั่งสอน
ตอน ป.1-2 ผมเรียนที่ โรงเรียนหนึ่งในย่านบางกะปิ
ซึ่งผมเองตอนนั้นเป็นเด็กขี้แง และขี้เกียจมาก การบ้านไม่ทำไม่ส่งไม่สนใจ และจะมีคุณครูคนหนึ่งที่เป็นคุณครูสอนประจำห้องผม ที่คอยสอนผม รวมถึงตีผมประจำ (หยิกด้วยนะครับ ที่พุงบ้างที่แขนบ้าง ที่หูบ้าง) คุณครูคนนั้นจะเอาใจใส่ผมเป็นพิเศษ ให้ผมนั่งหน้าห้องตลอด นั่งประชิดติดคุณครูเขาเลยทีเดียว
ถ้าผมไม่ตั้งใจเรียนหรือวอกแว่กแม้สักเพียงนิด ผมก็จะโดนทันที ไม่เรียวเอย หยิกเอย ผมเองขี้แงอยู่แล้วก็ยิ่งร้องไห้
แต่คุณครูคนนั้นก็พยายามบ่มตัวผมให้เป็นคนเลิกขี้แง และมีความกล้าแสดงออก ส่งผมไปอ่านบทความหน้าเสาธงตอนเช้าๆ เป็นตัวแทนทำกิจกรรมกับนักเรียนห้องอื่นบ้าง (บางทีอ่านไม่ดี อ่านผิดๆถูก เว้นวรรคไม่ถูก กลับมาก็โดนซ่อม ทั้งตี ทั้งให้กลับไปอ่านมาใหม่ที่บ้าน แล้วมาซ่อมกับครูหลังเลิกเรียนของอีกวัน) ทั้งๆที่ เพื่อนในห้องที่เรียนเก่งกว่าผม กล้าแสดงออกมากกว่าผมก็มีอีกหลายคน แต่คุณครูท่านนั้นกลับสนับสนุนแต่ผม เนื่องด้วยที่ว่าผมด้อยที่สุดในห้องแล้ว ในเรื่องการเรียน และระเบียบวินัย
ผมเองในตอนนั้น เกลียดครูคนนี้มาก ผมคิดว่าทำไมต้องทำร้ายแต่ผม.....เกลียดการไป รร.เลยในทันที
แต่เชื่อใหมปัจจุบันผมกลับจำได้แต่คุณครูท่านนั้น และคิดถึงท่านตลอดมา จนเวลาล่วงเลยมากว่า 20 ปี.... ในวันไหว้ครูที่ผ่านมา ผมจึงถือโอกาศไปเยี่ยมท่านที่โรงเรียน พร้อมทั้งพวงมาลัย...
เมื่อผมเจอท่าน ท่านจำผมไม่ได้(ก็แน่ล่ะ) แต่พอผมบอกชื่อไป ท่านจำผมได้พร้อมทั้งมีน้ำตาไหลออกมา
และผมก็กราบท่านต่อหน้านักเรียนในโถงประชุม พร้อมทั้งบอกว่า "ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณครูตีผมมาในตอนที่ผมยังเป็นนักเรียนของท่าน"
และขอขอบคุณท่านที่สั่งสอนให้ผม มีความอดทน อดกลั้น รวมถึงความกล้าแสดงออกในทางที่ถูกที่ควร
"ผมรักคุณครูครับ" คุณครูที่ทำให้ผมมีวันนี้...
ปล 1. อาจจะไม่เกี่ยวกับกีฬาเทควันโด้นะครับ แต่เห็นว่ามันมีความคล้ายคลึงกันอยู่ในบางเรื่อง และอยากให้มุมมองอีกมุมนึง ถึงการทำร้ายร่างกายเพื่อความสะใจ ระบายอารมณ์ หรือ "การสั่งสอน" จากคนที่เป็นครู
ปล 2. บางท่านอาจแย้ง ชกหน้า กับ ตีหรือหยิก มันเทียบกันไม่ได้ ซึ่งในตอนนั้น ผมอายุแค่ 7-8 ขวบ ตัวกระเปี๊ยกเดียว กับคุณครูผู้หญิงซึ่งท่านตัวใหญ่กว่า และผมเองโดนหนักมาก จำได้เลย แขนลายตูดลายประจำ ซึ่งก็น่าจะพอเทียบเท่ากับน้องก้อย ซึ่งโตกว่าแต่โดนผู้ชายซึ่งเป็นโค้ชทำร้าย ตามคำบอกเล่าของน้องเขา