คือวันก่อนไปผ่าฟัน เราไม่ได้นอนเลยค่ะ พักผ่อนน้อยมาก ตื่นเต้น+กลัวด้วย วันนั้นก็ไปผ่าฟันคุดมาค่ะ
หมอนัด1 ก.ค. ที่ผ่านมาเอง (เราเป็นคิวแรกเลย) - -"  
ก่อนหน้านั้นเราเอกซเรย์ฟันไว้แล้ว ก็มาเอกซเรย์อีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าจะเอาข้างไหนออกก่อนดี เราเลยตัดสินใจเอาฟันคุดด้านซ้ายออกก่อน
พอมาถึงหน้าห้องฟัน สิ่งแรกที่ทำคือ เรานั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องฟัน 55555 เราร้องจริงๆนะ จนหมอเค้าจะไม่ผ่าให้แล้วอ่ะ
คือมันเครียดมากไง ตอนบ่ายผ่าฟันคุด ตอนเย็นกลับไปลุ้นผลสอบแอดมิชชั่นเงี้ย คือมันก็กังวลจนกดดันอ่ะ
หมอก็เข้ามาปลอบๆค่ะจนหยุดร้อง หมอใจดีมากๆเลย >////< หล่อด้วยยย
ก่อนจะผ่าฟันต้องตรวจสุขภาพ ซักประวัติการแพ้ยาก่อนค่ะ ผู้ช่วยทันตแพทย์ก็จะวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงให้เรา
จากนั้นก็เข้าไปในห้องทำฟัน เราก็ยังกลัวๆนะ เข้าไปก็ตื่นเต้น แอร์เย็นมากค่ะ แล้วก็ขึ้นไปนอนบนเตียงทำฟัน5555
หมอน่ารักค่ะ เปิดเพลงให้ฟังด้วย พี่สาวเราแม่เราก็เข้ามาด้วย (อภิสิทธิ์มากค่ะคนไข้รายนี้) หมอ พยาบาลมาเต็มห้อง คริคริ
พอฉีดยาชาหมอบอกว่า เจ็บนิดเดียวนะครับเหมือนมดกัด  อื้มมม มม... ค่ะ เหมือนมดกัด -*- แต่หมอไม่ได้บอกหนูนี่ค่ะว่า มดกัด...ทั้งรัง!!!
ฉีดยาชาเสร็จหมอก็ให้บ้วนปากค่ะ แล้วก็ถามว่า ชารึยัง ตอนฉีดยาชาเราโดนฉีดไปสองเข็มเน้นๆที่เหงือก T^T เจ็บปวดดด
5555 ตอนฉีดยาชาเรานั่งนอนนึกถึงแต่ข้าวมันไก่กับอิชิตัน หิวข้าวมากค่ะไม่ได้ทานอะไรแต่เช้าเลย
มาถึงตอนที่หมอจะกรีดเหงือกเค้าก็บอกว่าเจ็บนิดนึงนะครับ เราเมื่อยปากมากๆ เพราะต้องอ้าปากค้างอยู่ครึ่งชม.
สักพักเราก็นอนจนจะหลับละ ทั้งเพลงเพราะ ทั้งแอร์เย็น ^^
เจ็บแต่ต้องอดทนค่ะ พอผ่าเสร็จแล้วหมอก็เอาไหมเย็บให้ค่ะ แล้วก็ให้บ้วนปากอีกทีนึง เราก็เลยถามหมอว่าเนี่ยคอแห้งกินได้ไหม
หมอก็บอกเป็นน้ำกรองครับ กินได้ เราขอน้ำหมอดื่มไป4แก้ว 55555 หมอใจดีค่ะไม่ดุ >//<
จากนั้นเราหมอก็เอาฟันใส่ถุงให้เรา ประมาณว่าเอากลับบ้านมาเป็นที่ระลึก 5555  
หมอก็จ่ายยาให้ค่ะ เป็นยาibuprofen กับยาAmoxycillin แล้วก็นัดตัดไหมอีกอาทิตย์นึง
พอเราไปตัดไหม หมอชมว่า แผลดีมากๆเลยครับ 55555 ปลื้มค่ะ ^^ (ตัดไหมใช้เวลาแค่2นาที)
ระหว่าง1อาทิตย์ที่รอนัดไปตัดไหม เราน้ำหนักลดไป3 โล แหน่ะ จาก55 เหลือ 52 (เพราะการผ่าฟันแท้ๆ กินไรไม่ได้เลย)
เรากินได้แต่ซิลีแล็คอ่ะ น้ำหนักลงจริงๆ ><'  อันนี้คือภาพตอนที่ไปผ่าฟันมานะ 555555 อิอิ ><'