ตอนที่ผมเริ่มศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง แม้จะไม่ได้เริ่มต้นจากท่านพุทธทาส แต่ก็ถือว่าท่านเป็นพระอันดับต้นๆ ที่ผมเลือกฟัง และชอบที่จะฟังด้วย เหตุผลที่ชอบอาจจะเป็นเพราะท่านไม่มีการพูดถึงเรื่องนรก สวรรค์ เทวดา ผี หรือภพภูมิใดๆ มีแต่เนื้อหาของธรรมะ จึงทำให้ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะแนะนำให้คนฟังธรรมะจากท่านพุทธทาส (เพราะน่าจะเหมาะกับคนหัวสมัยใหม่)
ถ้าถามผมว่า ระหว่างนั้น ผมได้อ่านหรือได้ฟังท่านพุทธทาสพูดถึงนรก สวรรค์ หรือภพภูมิหรือไม่? จำได้ว่าเคยได้อ่านครับ แต่อาจจะเป็นเพราะมีความศรัทธาจากการได้ฟังธรรมะของท่าน ทำให้ตีความหมายในแง่ดี และทุกครั้งที่มีคนต่อว่าหรือตำหนิท่านพุทธทาส ผมจึงมักจะปกป้องท่าน
จนกระทั่งในกี่วันมานี้ ไปเจอบทความหนึ่งของหลวงพ่อปราโมชย์ ปราโมชโช เขียนไว้สมัยที่ยังเป็นฆราวาส ผมยกมาบางประโยคดังนี้
"…ผู้เขียนเป็นศิษย์หน้าโง่ของท่านอาจารย์พุทธทาสอย่างเต็มภูมิ ตอนนั้นเชื่อสนิทว่า เมื่อตายแล้วก็สูญ พระไตรปิฎกตัดทิ้งเสียบ้างก็ได้ พระพุทธรูปก็ไม่ต้องไหว้ เพราะเป็นก้อนอิฐและทองเหลือง…"
ต้องขอย้ำก่อนนะครับว่า หลวงพ่อปราโมทย์ไม่ได้บอกว่าท่านพุทธทาสสอนว่าตายแล้วสูญ แต่ท่านบอกว่าเป็นความเข้าใจไปเองจากการศึกษาอย่างไม่รอบคอบ ตามข้อความนี้ครับ
"…ในช่วงที่ผู้เขียนเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น เป็นช่วงที่แนวความคิดของท่านอาจารย์พุทธทาส อินทปัญโญ มีอิทธิพลต่อนักศึกษาอย่างสูง หลักการสำคัญของแนวทางนี้ก็คือ ท่านเน้นที่การดับทุกข์ในปัจจุบัน ทำให้ลูกศิษย์ซึ่งฟังคำสอนอย่างไม่รอบคอบเข้าใจว่า ท่านอาจารย์ปฏิเสธเรื่องชาติก่อนและชาติหน้า คิดว่าท่านอาจารย์เชื่อว่าตายแล้วสูญ คิดว่าท่านอาจารย์เห็นว่า โอปปาติกสัตว์ เช่นเทวดาและพรหม ไม่มีจริง และทุกอย่างที่แปลกๆ จะถูกอธิบายด้วยเรื่องภาษาคน ภาษาธรรม เช่นอธิบายว่าสวรรค์คือจิตที่เป็นสุข นรกคือจิตที่เป็นทุกข์ อธิบายว่าพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานในวันเดียวกัน หมายถึงว่าการตรัสรู้ คือการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า และกิเลสก็นิพพานจากพระทัยของท่านในขณะเดียวกัน เป็นต้น มีการตีความธรรมะออกไปอย่างกว้างขวางและสมเหตุสมผล รวมทั้งสอนกันเรื่องความไม่ยึดมั่นถือมั่นในธรรมทั้งปวง…"
(อ่านบทความทั้งหมดที่นี่
http://www.baanjomyut.com/pratripidok/extension-1/the_first_is_true/index.html )
ซึ่งตามความเห็นของผม หากการศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาส ทำให้เกิดการตีความไปแบบนี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งครับ (ขนาดหลวงพ่อปราโมชย์สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม อ่านแล้วยังเข้าใจว่าตายแล้วสูญ คนอื่นๆ คงเข้าใจไม่แตกต่างกัน)
ตอนนี้ สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำแน่ๆ ก็คือ การไม่แนะนำให้ใครก็ตามอ่านหรือฟังคำสอนของท่านพุทธทาส จากเดิมที่ผมมักจะแนะนำทุกครั้ง ยกเว้นว่าคนๆ นั้น เข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งดีเพียงพอ
และจากการที่ได้อ่านบทความนี้เอง บุคคลที่ผมนึกถึง ต้องขออนุญาตเอ่ยนามคือ คุณมองมุมใหม่ และ ท่านเตชะปัญโญ ภิกขุ ทั้ง 2 ท่านแสดงตัวว่าเป็นศิษย์ของท่านพุทธทาส และเชื่ออย่างสนิทใจว่าคนเราเกิดมาตายแล้วสูญ ชาตินี้ชาติหน้าไม่มี แบบเดียวกับที่พระอาจารย์ปราโมชย์เคยเข้าใจแบบเดียวกัน
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผมคิดเอาเองว่าทั้ง 2 ท่านบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยจุดประสงค์อื่น ไม่เชื่อว่าเกิดจากการได้ศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาส แต่ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดครับ ทั้ง 2 ท่านน่าจะมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ผมเลยขอถือโอกาสนี้ ขอโทษคุณมองมุมใหม่ และขออโหสิกรรมจากท่านเตชปัญโญ ภิกขุ ครับ
อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อปราโมชย์ ไม่ได้บอกว่าท่านพุทธทาสสอนว่าตายแล้วสูญ เป็นการตีความหรือความไม่รอบคอบของผู้ศึกษาธรรมะของท่านเอง ดังนั้น ผมจึงอยากให้ผู้ที่อ่านหรือศึกษางานเขียนของท่านพุทธทาส และเชื่อว่าตายแล้วสูญ ลองทำความเข้าใจใหม่ครับ หรืออาจจะลองศึกษาจากพระอริยสงฆ์รูปอื่นด้วย หลักของศาสนาพุทธ คือ ให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏ จากการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้น ถ้าไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีกฎแห่งกรรม ก็ไม่ใช่ศาสนาพุทธครับ
ผมขอสรุปสุดท้ายว่า ท่านพุทธทาสน่าจะเป็นพระที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีคนเคารพนับถือจำนวนมากเพียงรูปเดียวที่สอนและมีคนเข้าใจว่าตายแล้วสูญ ดังนั้น เราจึงควรช่วยกันหาข้อสรุปให้คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงกันก่อนว่าท่านสอนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดครับ
ถ้าคำสอนของท่านพุทธทาสทำให้คนเข้าใจว่า "ตายแล้วสูญ" ถือว่าพุทธศาสนาน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ถ้าถามผมว่า ระหว่างนั้น ผมได้อ่านหรือได้ฟังท่านพุทธทาสพูดถึงนรก สวรรค์ หรือภพภูมิหรือไม่? จำได้ว่าเคยได้อ่านครับ แต่อาจจะเป็นเพราะมีความศรัทธาจากการได้ฟังธรรมะของท่าน ทำให้ตีความหมายในแง่ดี และทุกครั้งที่มีคนต่อว่าหรือตำหนิท่านพุทธทาส ผมจึงมักจะปกป้องท่าน
จนกระทั่งในกี่วันมานี้ ไปเจอบทความหนึ่งของหลวงพ่อปราโมชย์ ปราโมชโช เขียนไว้สมัยที่ยังเป็นฆราวาส ผมยกมาบางประโยคดังนี้
"…ผู้เขียนเป็นศิษย์หน้าโง่ของท่านอาจารย์พุทธทาสอย่างเต็มภูมิ ตอนนั้นเชื่อสนิทว่า เมื่อตายแล้วก็สูญ พระไตรปิฎกตัดทิ้งเสียบ้างก็ได้ พระพุทธรูปก็ไม่ต้องไหว้ เพราะเป็นก้อนอิฐและทองเหลือง…"
ต้องขอย้ำก่อนนะครับว่า หลวงพ่อปราโมทย์ไม่ได้บอกว่าท่านพุทธทาสสอนว่าตายแล้วสูญ แต่ท่านบอกว่าเป็นความเข้าใจไปเองจากการศึกษาอย่างไม่รอบคอบ ตามข้อความนี้ครับ
"…ในช่วงที่ผู้เขียนเรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น เป็นช่วงที่แนวความคิดของท่านอาจารย์พุทธทาส อินทปัญโญ มีอิทธิพลต่อนักศึกษาอย่างสูง หลักการสำคัญของแนวทางนี้ก็คือ ท่านเน้นที่การดับทุกข์ในปัจจุบัน ทำให้ลูกศิษย์ซึ่งฟังคำสอนอย่างไม่รอบคอบเข้าใจว่า ท่านอาจารย์ปฏิเสธเรื่องชาติก่อนและชาติหน้า คิดว่าท่านอาจารย์เชื่อว่าตายแล้วสูญ คิดว่าท่านอาจารย์เห็นว่า โอปปาติกสัตว์ เช่นเทวดาและพรหม ไม่มีจริง และทุกอย่างที่แปลกๆ จะถูกอธิบายด้วยเรื่องภาษาคน ภาษาธรรม เช่นอธิบายว่าสวรรค์คือจิตที่เป็นสุข นรกคือจิตที่เป็นทุกข์ อธิบายว่าพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานในวันเดียวกัน หมายถึงว่าการตรัสรู้ คือการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า และกิเลสก็นิพพานจากพระทัยของท่านในขณะเดียวกัน เป็นต้น มีการตีความธรรมะออกไปอย่างกว้างขวางและสมเหตุสมผล รวมทั้งสอนกันเรื่องความไม่ยึดมั่นถือมั่นในธรรมทั้งปวง…"
(อ่านบทความทั้งหมดที่นี่ http://www.baanjomyut.com/pratripidok/extension-1/the_first_is_true/index.html )
ซึ่งตามความเห็นของผม หากการศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาส ทำให้เกิดการตีความไปแบบนี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่งครับ (ขนาดหลวงพ่อปราโมชย์สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม อ่านแล้วยังเข้าใจว่าตายแล้วสูญ คนอื่นๆ คงเข้าใจไม่แตกต่างกัน)
ตอนนี้ สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำแน่ๆ ก็คือ การไม่แนะนำให้ใครก็ตามอ่านหรือฟังคำสอนของท่านพุทธทาส จากเดิมที่ผมมักจะแนะนำทุกครั้ง ยกเว้นว่าคนๆ นั้น เข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งดีเพียงพอ
และจากการที่ได้อ่านบทความนี้เอง บุคคลที่ผมนึกถึง ต้องขออนุญาตเอ่ยนามคือ คุณมองมุมใหม่ และ ท่านเตชะปัญโญ ภิกขุ ทั้ง 2 ท่านแสดงตัวว่าเป็นศิษย์ของท่านพุทธทาส และเชื่ออย่างสนิทใจว่าคนเราเกิดมาตายแล้วสูญ ชาตินี้ชาติหน้าไม่มี แบบเดียวกับที่พระอาจารย์ปราโมชย์เคยเข้าใจแบบเดียวกัน
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผมคิดเอาเองว่าทั้ง 2 ท่านบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยจุดประสงค์อื่น ไม่เชื่อว่าเกิดจากการได้ศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาส แต่ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดครับ ทั้ง 2 ท่านน่าจะมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ผมเลยขอถือโอกาสนี้ ขอโทษคุณมองมุมใหม่ และขออโหสิกรรมจากท่านเตชปัญโญ ภิกขุ ครับ
อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อปราโมชย์ ไม่ได้บอกว่าท่านพุทธทาสสอนว่าตายแล้วสูญ เป็นการตีความหรือความไม่รอบคอบของผู้ศึกษาธรรมะของท่านเอง ดังนั้น ผมจึงอยากให้ผู้ที่อ่านหรือศึกษางานเขียนของท่านพุทธทาส และเชื่อว่าตายแล้วสูญ ลองทำความเข้าใจใหม่ครับ หรืออาจจะลองศึกษาจากพระอริยสงฆ์รูปอื่นด้วย หลักของศาสนาพุทธ คือ ให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏ จากการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้น ถ้าไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีกฎแห่งกรรม ก็ไม่ใช่ศาสนาพุทธครับ
ผมขอสรุปสุดท้ายว่า ท่านพุทธทาสน่าจะเป็นพระที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีคนเคารพนับถือจำนวนมากเพียงรูปเดียวที่สอนและมีคนเข้าใจว่าตายแล้วสูญ ดังนั้น เราจึงควรช่วยกันหาข้อสรุปให้คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงกันก่อนว่าท่านสอนอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดครับ