วิเคราะห์หลังเกม เยอรมนี 0 - 0 อาร์เจนติน่า(ต่อเวลาพิเศษ 1 - 0)

สิ้นสุดกันเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับชัยชนะของเยอรมัน ขอแสดงความดีใจกับแฟนเยอรมันด้วย และแฟนอาร์เจนก็อย่าได้เสียใจไป สำหรับผมถือว่าอาร์เจนทำได้ดีมากๆแล้ว  เอาล่ะ มาดูรายละเอียดของเกมกันดีกว่า

การวางแท็คติกในเกมนี้เป็นไปตามคาด เยอรมันใช้แผนการเล่น 4-2-3-1 วางโคลเซ่เป็นหน้าเป้า ที่เซอร์ไพรส์หน่อยคือเคดิร่าเจ็บต้องส่งครามเมอร์ลงมาแทน คู่เซนเตอร์ใช้ฮุมเมลคู่กับบัวเต็งเพื่อให้มีความเร็วพอที่จะดักจับพวกเกมรุกความเร็วสูงของอาร์เจนได้   ด้านอาร์เจน เท่าที่ดูน่าจะเป็นแผน 4-3-2-1 เน้นเกมรับเป็นพิเศษโดยเฉพาะอัดมิดฟิลด์ตัวกลางที่โดดเด่นเกมรับมาถึง 3 คน ได้แก่มาสเค, บีย่า และ เปเรซ แผงเกมรุกมีฮิกวาอินเป็นหน้าเป้า โดยมีเมสซี่กับลาเวซซี่ เป็นตัวขับเคลื่อนในแนวรุก และสวนกลับเร็ว

เริ่มเกม เยอรมันเล่นด้วยระบบเดิม คือพยายามชิ่งกันไปมา(ไม่รู้จะเรียก Total Football หรือ Tiki taka ดี) หาช่องเข้าทำ จุดอ่อนของระบบการเล่นแบบนี้คือ เวลารุก แผงกองกลาง(หรืออาจจะรวมหลังด้วย)จะต้องดันขึ้นไปพร้อมๆกัน เพื่อหาตำแหน่ง และช่องว่างจ่ายชิ่งกันไปมา ซึ่งถ้าถูกตัดบอลได้ เวลาเจอพวกตัวรุกของฝั่งตรงข้ามเร็วๆมักลงมาไม่ค่อยทัน  ซึ่งเกมช่วงแรกเข้ากับแผนของอาร์เจนที่รอสวนกลับมากกว่า พอเมสซี่หรือลาเวซซี่ได้บอลก็ใช้ความเร็ววิ่งฉีกเกมรับของเยอรมัน ทำกันไม่กี่จังหวะ มีโอกาสจบหลายครั้งแต่ทำประตูไม่ได้ แต่อยางน้อยก็ทำให้เกมของเยอรมันเป๋และขาดความมั่นใจในการต่อบอลพอสมควร แถมครามเมอร์ที่ส่งมาทดแทนเคดิร่ายังมาบาดเจ็บเล่นไม่ไหวอีก ต้องเปลี่ยนเอาชูเล่ลงมาเร็วกว่ากำหนด(คาดว่ายังไงต้องถูกส่งลงอยู่แล้ว)

ภาพการแข่งขันของสเปนกับฮอลแลนด์เริ่มปรากฏขึ้นมาในหัว ถ้าอาร์เจนขึ้นนำเมื่อไร ผมคิดว่าจะเข้าทางอาร์เจนมากขึ้น แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะมีโอกาสแล้วเจาะประตูไม่ได้เอง ทั้งๆที่ถ้าจังหวะของอาร์เจนคมสักหน่อยอาจจะขึ้นนำ 2 - 3 ประตูไปแล้ว

จบครึ่งแรกผมให้อาร์เจนเหนือกว่าในด้านแท็คติก และโค้ชอาร์เจนก็คงเห็นเช่นนั้นเหมือนกัน จึงเกิดความโลภ(เดาเอานะครับ) ส่งกุนมาแทนลาเวซซี่ ทั้งๆที่ครึ่งแรก ลาเวซซี่คือตัวรุกที่อันตรายที่สุด หากลาเวซซี่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร(ถ้าบาดเจ็บต้องขออภัย)การเปลี่ยนตัวนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ผิดพลาดพอสมควร ผมเดาว่าซาเบย่าคงมองว่ากุนกับลาเวซซี่มีศักยภาพในการลากเลื้อย และความเร็วไม่ต่างกัน แต่กุนมีดีกว่าตรงความคมในการทำประตู ซึ่งฟอร์มเมื่อก่อน หรืออาจจะเป็นในตอนซ้อม กุนอาจจะทำได้ดีในสายตาซาเบย่า แต่ในเกมที่กดดันครั้งนี้ ลาเวซซี่ทำได้ดีที่สุดของเขาในทัวนาเม้นต์(จะเห็นว่าบางเกมลาเวซซี่ก็เล่นไม่ออก และมักถูกเปลี่ยนตัวออกเสมอ) มันเป็นโมเมนตั้มส่วนตัวของนักเตะที่กำลังมั่นใจ แต่ซาเบย่ากลับไม่เชื่อมั่นในตัวลาเวซซี่  

ความอันตรายในการสวนกลับของอาร์เจนลดลงมากกว่าครึ่ง เพราะหากจะกล่าวว่าเกมครึ่งแรกเป็นเกมที่ดีที่สุดของลาเวซซี่ ครึ่งหลังก็เป็นเกมที่แย่ที่สุดของกุนเช่นกัน กุนไม่สามารถเลี้ยงฝ่าเกมรับของเยอรมันได้ ภาระถูกผลักไปให้เมสซี่ที่สภาพร่างกายอ่อนล้าลงทุกที ใครที่เคยเล่นฟุตบอลจะเข้าใจเมสซี่ดี ว่าทำไมเขาถึงไม่วิ่งเหมือนครึ่งแรก นั่นเป็นเพราะร่างกายไม่ไหวแล้วจริงๆ เมสซี่จึงเลือกจะเก็บแรงไว้วิ่งในโอกาสที่จะหลุดจริงๆเท่านั้น(ซึ่งหลังๆเยอรมันครองเกมไว้ได้หมด) มีโอกาสอันน้อยนิด ฮิกวาอินก็ทำไม่ได้ กาโก้ถูกส่งมาแทนเปเรซ  ปาลาซิโอถูกส่งมาแทนฮิกวาอิน คาดว่าแฟนอาร์เจนหลายท่านเริ่มรู้ชะตากรรม

ในขณะที่อาร์เจนหงายไพ่มาหมดแล้ว ฝั่งเยอรมันยังเหลือโควต้าเปลี่ยนตัวอีกสองคน พอใกล้จะจบเกม เลิฟก็เลือกเปลี่ยนเกิทเซ่ แทนโคลเซ่ที่สภาพร่างกายไปไกลกว่านี้ไม่ไหวแล้ว และยังมีอีก 1 โควต้าไว้ใช้ในช่วงต่อเวลา

ช่วงต่อเวลาพิเศษ รูปเกมเป็นของเยอรมันแบบเบ็ดเสร็จ ยิ่งยืดเยื้อบอลระบบมักจะชนะบอลที่พึ่งพานักเตะเพียงไม่กี่คน เพราะเมื่อไหร่ที่เมซซี่อ่อนล้า หมดแรง นั่นคือจบ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในที่สุดเยอรมันก็ได้ประตูขึ้นนำจากเกิทเซ่ซึ่งกำลังขายังดีอยู่ และเลิฟยิ่งตอกย้ำการตัดสินใจที่ถูกโดยการใช้โควต้าสุดท้ายเปลี่ยนมาเตแซกเกอร์ลงมาปิดเกม

เป็นชัยชนะของเยอรมัน

หากบอลระบบอย่างสเปนกำลังเสื่อมถอย บอลระบบอย่างเยอรมันก็กำลังมาแทนที่เช่นกัน แต่ใช่ว่าบอลระบบแบบนี้จะดีที่สุด ก็เห็นกันอยู่ ถ้าอาร์เจนคมกว่านี้ ผลอาจไม่ออกมาอย่างที่เห็นก็ได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่