ซื้อที่ดินต่อจากคนอื่น แล้วมีอาคารที่ใช้งบจากเทศบาลตั้งอยู่ในที่ดินของเรา(เจ้าของเดิมไม่ได้เซ็นยินยอม) เราสามารถลื้อถอนได้ไหมค่ะ
ขอคำปรึกษาค่ะ คือพอดีซื้อที่ดิน ในโฉลดเป็นที่ว่างเปล่าไม่มีสิ่งปลูกสร้าง แต่ที่จริงๆมีสิ่งปลูกสร้างค่ะ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพของหมู่บ้านสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 ลักษณะคืออาคารเดี่ยว ทำด้วยปูน ไม่มีผนัง เป็นที่โล่ง สร้างขึ้นด้วยงบของ อบต.(ในสมัยนั้นยังไม่ได้เป็นเทศบาล) ซึ่งเจ้าของที่คนเดิมอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีการเซ็นยินยอมให้จัดตั้งขึ้นมา น่าจะเป็นญาติของเจ้าของที่คนเดิมที่เป็นคนอนุญาตให้ใช้ (อันนี้คิดว่านะคะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ) เมื่อปีที่ผ่านมาเจ้าของที่คนเดิมประกาศขายที่ดินบริเวณนี้ ด้วยความที่ ที่ดินตรงนี้ติดกับที่ดินที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน และติดถนน สะดวกแก่การเข้าออก ซึ่งที่ดินที่อยู่เป็นที่ดินตาบอดไม่มีทางเข้าออก จึงตัดสินใจซื้อโดยมีการตกลงกันปากเปล่าว่าจะยังจ่ายเงินไม่ครบตามจำนวน จนกว่าจะมีการลื้อถอนศูนย์ฯนี้ แล้วจะจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ ทางเจ้าของที่คนเดิมก็ตกลงยินยอมกับข้อเสนอนี้ แล้วก็ทำสัญญาซื้อขายกันเรียบร้อย ตอนที่ตกลงกันมีผู้นำชุมชนมารู้เห็นด้วย และทางผู้นำชุมชนก็บอกกับเราว่าลื้อได้ นี้เวลาก็ล่วงเลยมาสักพักยังไม่มีอะไรคืบหน้า เลยเข้าไปคุยกับผู้นำชุมชนว่าจะเอาอย่างไร ดำเนินการถึงไหนแล้ว ( คือทางผู้นำชุมชนกับเจ้าของที่ดินคนเดิมเป็นญาติกัน )
ต่อมาทางผู้นำชุมชนมีสำเนาเอกสารมาให้ 1 ฉบับ บอกว่าได้มาจากทางเทศบาล คือ สำเนาทะเบียนพัสดุที่ดินและสิ่งก่อสร้าง (พ.ด.1) ซึ่งรายละเอียดในใบทะเบียนมีค่อนข้างน้อยค่ะ บางช่องก็ไม่ได้ระบุไว้เลย เช่น ว่าได้มาอย่างไร เลขที่หนังสืออนุมัติ/ลงวันที่ เอกสารสิทธิ์พัสดุ เนื้อที่ ลักษณะของอาคาร รูปถ่ายและหรือแผนที่ตั้ง
(ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อในเอกสารฉบับนี้เพราะคิดว่าข้อความที่สำคัญอย่างเช่น เนื้อที่ ทำไมถึงไม่ระบุ แล้วลองหาข้อมูลเกี่ยวกับเลขรหัสพัสดุ 3 ตัวหน้าในใบ พ.ด.1 รหัสนี้เป็นของอาคารสื่อสาร ซึ่งจริงๆตามชื่อโครงการก่อสร้างคืออาคารศูนย์ฝึกอาชีพ เลยทำให้ไม่มั่นใจในเอกสารฉบับนี้ อยากจะตรวจสอบอยู่เหมือนกันค่ะ ต้องทำอย่างไรบางค่ะถ้าเราจะตรวจสอบเอกสารฉบับนี้ )
ต่อมาได้นำสำเนาใบทะเบียน พ.ด.1 ไปที่เทศบาลไปสอบถามพนักงานของทางเทศบาล พนักงานของเทศบาลก็ได้นำใบจริงมาให้ดู (คือใบที่ไม่ใช่สำเนา) เป็นกระดาษสีเขียว ค่อนข้างแข็ง แล้วก็ได้สอบถามเกี่ยวกับข้อความที่ระบุไม่ครบ ว่าข้อความส่วนที่ให้ระบุพื้นที่ ฯลฯ แล้วไม่ได้ระบุแบบนี้สามารถขึ้นทะเบียนได้ด้วยหรอ พนักงานของเทศบาลตอบว่า “เอกสารนี้มันนานแล้ว หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ สมัยก่อนอ่ะพี่คงยังไม่อะไรมาก ” คำถามที่เราถามพนักงานไม่ได้ถามว่าทำไมไม่เขียน แต่ถามว่าสามารถไม่เขียนได้ด้วยหรอ อันนี้อยากทราบว่าการขึ้นทะเบียนแล้วกรอกข้อความไม่ครบแบบนี้สามารถขึ้นทะเบียนได้ไหมค่ะ วานผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ สมัยก่อน สมัยนี้มันต่างกันหรอค่ะ คำว่าสมัยก่อนก็ไม่ได้ย้อนไปเมื่อสมัยยังไม่เลิกทาสนะคะ ทำไมมันดูห่างเหินกับปัจจุบันมากเลย แล้วต่อจากนั้นเราก็ได้ยืนคำร้องขอลื้นถอน/โยกย้ายฯไว้ที่เทศบาล จากนั้นเทศบาลก็ส่งช่างมาดู ช่างบอกกับเราว่า "ไม่สามารถลื้อได้เนื่องจากเป็นของหลวง อยู่ในที่โจงแจ้ง ต้องรอให้ผุพังไปเองตามสภาพ" (อันนี้ก็สงสัยอีกเหมือนกันค่ะว่า ตอนนี้ลื้อไม่ได้ ถ้าผุผังแล้วทำไมถึงลื้อได้)
ต่อมาก็ได้นำสำเนา พ.ด.1 ไปสอบถามกับทางอำเภอ ทางอำเภอก็บอกมาเหมือนที่ทางเทศบาลบอกคือ “ไม่สามารถลื้อได้เป็นของหลวง” แล้วถามเราว่า “ตอนคุณซื้อคุณรู้ว่ามันมีสิ่งปลูกสร้างอยู่แล้วคุณจะซื้อทำไม” ทางเราก็ตอบกลับไปว่า “มันเป็นทางออก แล้วก็ติดกับที่บ้านที่อยู่ อีกอย่างผู้นำชุมชนก็บอกลื้อได้ และเจ้าของที่ก็รับปากจะเดินเรื่องให้ ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้” ทางอำเภอตอบกลับมาว่า “ก็เขาอยากขาย” (ก็โอเค เขาใจว่าซื้อมาเอง รู้ทั้งรู้ว่ามีศูนย์อยู่แต่ก็ยังจะซื้อ พลาด! ยอมรับ แต่ในฐานะที่พลาดไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ (เพราะถ้ารู้จะยังไม่ซื้อ) เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากจะปรึกษา อยากจะหาทางออกให้กับปัญหา แต่การพูดจา น้ำเสียง สีหน้า ทาท่าง ของเจ้าหน้าบ่งบอกว่าไม่ใส่ใจ และไม่สนใจที่จะช่วยเหลือเลยค่ะ คือเจอเหตุการณ์รู้สึกแย่มากค่ะกับการให้คำปรึษาของเจ้าหน้าที่)
ต่อมาเราก็ได้นำสำเนาใบ พ.ด.1 ไปที่กรมธนารักษ์ของจังหวัด ทางกรมธนารักษ์บอกว่า “ดูแล้วเป็นการใช้งบที่ผิด (อันนี้เราไม่รู้ลายละเอียดว่าใช้งบผิดหรือถูกหรืออะไรอย่างไรนะคะ ) แล้วทางกรมธนรักษ์ได้บอกต่ออีกว่า “สถานที่นี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นราชพัสดุ ทางกรมธนารักษ์ไม่มีสิทธิ์สั่งลื้อถอน ต้องคุยกับเทศบาลเพราะเป็นงบของเทศบาล “
(แล้วมีคนบุคคลข้างต้นท่านนึง มาบอกว่า"ถ้าปีหน้าลื้อให้ได้ ปีนี้ลื้อให้ไม่ได้" อยากให้ช่วยวิเคราะห์ประโยคนี้หน่อยค่ะ ว่ามันสื่อถึงอะไร ทำไมต้องปีหน้า)
คือเราอยากจะใช้พื้นที่ในที่ของเรา ไม่อยากให้ศูนย์ฯนี้อยู่ในพื้นที่ของเรา เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเราไหมค่ะ แล้วถ้ามีสิทธิ์เราควรจะดำเนินการจัดการได้อย่างไรต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ....
ซื้อที่ดินต่อจากคนอื่น แล้วมีอาคารของหลวงตั้งอยู่ ซึ่งเจ้าของเดิมไม่ได้เซ็นยินยอมให้สร้าง เราสามารถลื้อถอนได้ไหมค่ะ
ขอคำปรึกษาค่ะ คือพอดีซื้อที่ดิน ในโฉลดเป็นที่ว่างเปล่าไม่มีสิ่งปลูกสร้าง แต่ที่จริงๆมีสิ่งปลูกสร้างค่ะ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพของหมู่บ้านสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 ลักษณะคืออาคารเดี่ยว ทำด้วยปูน ไม่มีผนัง เป็นที่โล่ง สร้างขึ้นด้วยงบของ อบต.(ในสมัยนั้นยังไม่ได้เป็นเทศบาล) ซึ่งเจ้าของที่คนเดิมอยู่ต่างประเทศไม่ได้มีการเซ็นยินยอมให้จัดตั้งขึ้นมา น่าจะเป็นญาติของเจ้าของที่คนเดิมที่เป็นคนอนุญาตให้ใช้ (อันนี้คิดว่านะคะ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ) เมื่อปีที่ผ่านมาเจ้าของที่คนเดิมประกาศขายที่ดินบริเวณนี้ ด้วยความที่ ที่ดินตรงนี้ติดกับที่ดินที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน และติดถนน สะดวกแก่การเข้าออก ซึ่งที่ดินที่อยู่เป็นที่ดินตาบอดไม่มีทางเข้าออก จึงตัดสินใจซื้อโดยมีการตกลงกันปากเปล่าว่าจะยังจ่ายเงินไม่ครบตามจำนวน จนกว่าจะมีการลื้อถอนศูนย์ฯนี้ แล้วจะจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้ ทางเจ้าของที่คนเดิมก็ตกลงยินยอมกับข้อเสนอนี้ แล้วก็ทำสัญญาซื้อขายกันเรียบร้อย ตอนที่ตกลงกันมีผู้นำชุมชนมารู้เห็นด้วย และทางผู้นำชุมชนก็บอกกับเราว่าลื้อได้ นี้เวลาก็ล่วงเลยมาสักพักยังไม่มีอะไรคืบหน้า เลยเข้าไปคุยกับผู้นำชุมชนว่าจะเอาอย่างไร ดำเนินการถึงไหนแล้ว ( คือทางผู้นำชุมชนกับเจ้าของที่ดินคนเดิมเป็นญาติกัน )
ต่อมาทางผู้นำชุมชนมีสำเนาเอกสารมาให้ 1 ฉบับ บอกว่าได้มาจากทางเทศบาล คือ สำเนาทะเบียนพัสดุที่ดินและสิ่งก่อสร้าง (พ.ด.1) ซึ่งรายละเอียดในใบทะเบียนมีค่อนข้างน้อยค่ะ บางช่องก็ไม่ได้ระบุไว้เลย เช่น ว่าได้มาอย่างไร เลขที่หนังสืออนุมัติ/ลงวันที่ เอกสารสิทธิ์พัสดุ เนื้อที่ ลักษณะของอาคาร รูปถ่ายและหรือแผนที่ตั้ง
(ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อในเอกสารฉบับนี้เพราะคิดว่าข้อความที่สำคัญอย่างเช่น เนื้อที่ ทำไมถึงไม่ระบุ แล้วลองหาข้อมูลเกี่ยวกับเลขรหัสพัสดุ 3 ตัวหน้าในใบ พ.ด.1 รหัสนี้เป็นของอาคารสื่อสาร ซึ่งจริงๆตามชื่อโครงการก่อสร้างคืออาคารศูนย์ฝึกอาชีพ เลยทำให้ไม่มั่นใจในเอกสารฉบับนี้ อยากจะตรวจสอบอยู่เหมือนกันค่ะ ต้องทำอย่างไรบางค่ะถ้าเราจะตรวจสอบเอกสารฉบับนี้ )
ต่อมาได้นำสำเนาใบทะเบียน พ.ด.1 ไปที่เทศบาลไปสอบถามพนักงานของทางเทศบาล พนักงานของเทศบาลก็ได้นำใบจริงมาให้ดู (คือใบที่ไม่ใช่สำเนา) เป็นกระดาษสีเขียว ค่อนข้างแข็ง แล้วก็ได้สอบถามเกี่ยวกับข้อความที่ระบุไม่ครบ ว่าข้อความส่วนที่ให้ระบุพื้นที่ ฯลฯ แล้วไม่ได้ระบุแบบนี้สามารถขึ้นทะเบียนได้ด้วยหรอ พนักงานของเทศบาลตอบว่า “เอกสารนี้มันนานแล้ว หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ สมัยก่อนอ่ะพี่คงยังไม่อะไรมาก ” คำถามที่เราถามพนักงานไม่ได้ถามว่าทำไมไม่เขียน แต่ถามว่าสามารถไม่เขียนได้ด้วยหรอ อันนี้อยากทราบว่าการขึ้นทะเบียนแล้วกรอกข้อความไม่ครบแบบนี้สามารถขึ้นทะเบียนได้ไหมค่ะ วานผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ สมัยก่อน สมัยนี้มันต่างกันหรอค่ะ คำว่าสมัยก่อนก็ไม่ได้ย้อนไปเมื่อสมัยยังไม่เลิกทาสนะคะ ทำไมมันดูห่างเหินกับปัจจุบันมากเลย แล้วต่อจากนั้นเราก็ได้ยืนคำร้องขอลื้นถอน/โยกย้ายฯไว้ที่เทศบาล จากนั้นเทศบาลก็ส่งช่างมาดู ช่างบอกกับเราว่า "ไม่สามารถลื้อได้เนื่องจากเป็นของหลวง อยู่ในที่โจงแจ้ง ต้องรอให้ผุพังไปเองตามสภาพ" (อันนี้ก็สงสัยอีกเหมือนกันค่ะว่า ตอนนี้ลื้อไม่ได้ ถ้าผุผังแล้วทำไมถึงลื้อได้)
ต่อมาก็ได้นำสำเนา พ.ด.1 ไปสอบถามกับทางอำเภอ ทางอำเภอก็บอกมาเหมือนที่ทางเทศบาลบอกคือ “ไม่สามารถลื้อได้เป็นของหลวง” แล้วถามเราว่า “ตอนคุณซื้อคุณรู้ว่ามันมีสิ่งปลูกสร้างอยู่แล้วคุณจะซื้อทำไม” ทางเราก็ตอบกลับไปว่า “มันเป็นทางออก แล้วก็ติดกับที่บ้านที่อยู่ อีกอย่างผู้นำชุมชนก็บอกลื้อได้ และเจ้าของที่ก็รับปากจะเดินเรื่องให้ ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้” ทางอำเภอตอบกลับมาว่า “ก็เขาอยากขาย” (ก็โอเค เขาใจว่าซื้อมาเอง รู้ทั้งรู้ว่ามีศูนย์อยู่แต่ก็ยังจะซื้อ พลาด! ยอมรับ แต่ในฐานะที่พลาดไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ (เพราะถ้ารู้จะยังไม่ซื้อ) เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากจะปรึกษา อยากจะหาทางออกให้กับปัญหา แต่การพูดจา น้ำเสียง สีหน้า ทาท่าง ของเจ้าหน้าบ่งบอกว่าไม่ใส่ใจ และไม่สนใจที่จะช่วยเหลือเลยค่ะ คือเจอเหตุการณ์รู้สึกแย่มากค่ะกับการให้คำปรึษาของเจ้าหน้าที่)
ต่อมาเราก็ได้นำสำเนาใบ พ.ด.1 ไปที่กรมธนารักษ์ของจังหวัด ทางกรมธนารักษ์บอกว่า “ดูแล้วเป็นการใช้งบที่ผิด (อันนี้เราไม่รู้ลายละเอียดว่าใช้งบผิดหรือถูกหรืออะไรอย่างไรนะคะ ) แล้วทางกรมธนรักษ์ได้บอกต่ออีกว่า “สถานที่นี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นราชพัสดุ ทางกรมธนารักษ์ไม่มีสิทธิ์สั่งลื้อถอน ต้องคุยกับเทศบาลเพราะเป็นงบของเทศบาล “
(แล้วมีคนบุคคลข้างต้นท่านนึง มาบอกว่า"ถ้าปีหน้าลื้อให้ได้ ปีนี้ลื้อให้ไม่ได้" อยากให้ช่วยวิเคราะห์ประโยคนี้หน่อยค่ะ ว่ามันสื่อถึงอะไร ทำไมต้องปีหน้า)
คือเราอยากจะใช้พื้นที่ในที่ของเรา ไม่อยากให้ศูนย์ฯนี้อยู่ในพื้นที่ของเรา เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเราไหมค่ะ แล้วถ้ามีสิทธิ์เราควรจะดำเนินการจัดการได้อย่างไรต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ....