มันเป็นเรื่องครอบครัวคนอื่นที่เราดันซวยไปรู้เรื่องเขาเข้าโดยไม่ตั้งใจ แต่มันเกิดขึ้นและตามมาด้วยเรื่องราวเลวร้ายสารพัด เลยอดคิดไม่ได้ว่าถ้าวันนั้นเราพูดออกไป เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรือเปล่า และพอมันเกิดขึ้นอีกครั้ง เลยอดคิดไม่ได้ว่าคราวนี้จะเอายังไงดี ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่กระทู้ที่ตั้งขึ้นเพื่อด่าหรือประนามใครนะคะ จะเมียอันดับที่เท่าไหร่ก็ตาม
เรื่องเเรกกับครอบครัวของป้า...
ป้าเป็นพี่สาวฝั่งแม่ แต่งงานมีลูกจนมีหลานแล้ว อยุ่กินกันมาก็มากกว่า 20 ปี ลุงสามีก็ดูเป็นคนใจดี เราก็เลยค่อนข้าจะสนิทด้วย ประมาณ 3 ปีก่อนเกิดเรื่อง ตอนนั้นเราก็อยู่ม.ปลาย โดยปกติทั่วไป คนอายุรุ่นราวคราวลุงจะไม่ค่อยรู้เรื่องโทรศัพท์เท่าไหร่ พอมีปัญหาก็มักจะถามหลานๆ และบังเอิญ เราก็เป็นหลานที่ป้าๆลุงๆจะเอาโทรศัพท์มาให้เช็คบ่อย พอสามีของป้าเอาโทรศัพท์มาให้เช็คในวันหนึ่ง เราก็เจอจังเบอเร่อ ทั้งข้อความการสนทนา รูปภาพ และอื่นๆ (โทรศัพท์นี่มันเครื่องจับผิดจริงๆ หลักฐานเพียบ!!!) เหมือนเขาจะคุยกันมาไม่นานมากเท่าไหร่ ตอนแรกก็ตกใจ ลุงมีเมียน้อย!! ด้วยความที่เราก็ไม่อยากให้ครอบครัวป้ามีปัญหา และไม่รู้ว่าพูดไปเรื่องจะแย่ขนาดไหนเลยเลือกที่จะหุบปาก แล้วหลังจากนั้นเรื่องก็เริ่มจะวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ตัวละครชักจะเยอะ เรารู้หมดทั้งชื่อ การนัดเจอ ซ้ำไม่ใช่คนเดียวด้วย คิดว่าป้าก็คงเริ่มรู้เรื่องแล้วบ้าง เพราะลุงเริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน เงินเดือนไม่ถึงมือ และแล้ววันหนึ่งเมียน้อยเบอร์ 1 ก็โทรมาหาป้า แต่บอกว่า "พี่ไม่ต้องพูดอะไรนะ ฟังอย่างเดียว" แล้วก็ประชุมสายกับเมียน้อยเบอร์ 2 แล้วก็เถียงกันให้เมียหลวงฟัง ช่วงพักหลังๆป้าซูบลงไปเยอะ คงทั้งเครียดและต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาดูแลหลานอีกสองคนเมื่อเงินเดือนของสามีไม่เคยมีถึงมือเลย จนกระทั่งเมื่อประมาณ1 ปีที่แล้วนั่นแหละ (ป้าอดทนมากอ่ะ เป็นเราเลิกนานละ) เป็นเรื่องขึ้นมาเพราะดูเหมือนลุงจะหลงเมียเบอร์ล่าสุดนี่มาก ป้ากับลุงทะเลาะกันบ่อย และบางครั้งป้าก็ถูกทำร้ายร่างกาย แบบตอนนั้นเห็นแล้วยังตกใจ คิดถึงละครที่เวลาต่อยกันเบ้าตาเขียวๆ นี่เขียวจริงๆเหมือนกันเลย ตอนนั้นเราก็กำลังจะเข้ามหาลัยแล้วแหละ อยู่ในช่วงเก็บของย้ายเข้าหอเลย เราเลยค่อนข้างจะอยู่ติดบ้าน วันนั้นเช้าวันจันทร์ ป้าก็เดินมาบ้านเรา มีลุงข้างบ้าน พ่อเรา แม่เราด้วย ก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย แล้วป้าก็เล่าให้ฟังว่าตอนเย็นวันศุกร์ลุงกลับมาบ้านและบอกว่าถ้าอยากหย่า วันจันทร์ให้เอาเงินมาแลกใบหย่า (หลักหมื่น) ป้าก็บ่นให้เราฟังว่าไม่มีเงินหรอกคงไม่ไป ไม่ทันคุยจบเรื่องก็มีคนบอกว่าลุงผูกคอตายในที่ทำงาน ทุกคนก็ตกใจ รีบไปที่ทำงานของลุง สาเหตุเห็นว่าเพราะเมียน้อยเขากลับไปคืนดีกับสามีเก่า ทางลุงก็ทั้งรักทั้งหลงเขา กู้หนี้ยืมสิน สารพัดจะหาเงินไปให้เขา สร้างบ้านเอย อะไรเอย เยอะเเยะ
เหมือนเรื่องจะจบแค่มีคนตายแต่มันไม่ใช่ พอคนกู้หนี้ตาย ใบค้างชำระ ใบแจ้งหนี้ ก็ปลิวว่อนมาหล่นหน้าป้าซึ่งเป็นคู่สมรสและบางอย่างก็มีชื่อเป็นผู้ค้ำประกันโดยที่ตัวเองไม่เคยรู้ตัว เงินไม่เคยได้ใช้ ใบหนี้ยังจะมาอีก และซ้ำร้ายแม่ผัวก็มาด่าฝ่ายเราว่าไปใส่ร้ายว่าลูกเขามีชู้ (อันที่จริงแกก็รู้เห็นนั่นแหละ เพราะลุงพาไปค้างบ้านแม่ตัวเองบ่อยมาก แต่คงเพราะกองหนี้ที่อยากจะปัดให้ห่างตัวเลยพยายามโวยวายแบบนั้น) ค่างานศพ แม่ผัวไม่เจียดมาสักแดง แถมยังกระแนะกระแหนว่าเอาเงินค่าทำศพลูกเขาไปอุบไว้เองอีก แหมมมมม! ค่าดอกเบี้ยยังไม่พอเลยยายเอ้ยยย วันเผา เมียน้อยก็มา แล้วก็เอาเงินมาช่วยค่างานศพหนึ่งหมื่นบาท โดยยื่นให้แม่ผัว อย่าหวังว่าจะถึงป้าสักสลึงเลย แล้วป้าเราก็ยังต้องก้มหน้าใช้หนี้มาจนถึงทุกวันนี้แหละ
เรื่องที่ 2.....
นั่นคือเรื่องแรกที่เราเจอ...และแล้วหวยก็ออกที่เราอีกเมื่อลุงอีกคนหนึ่ง ญาติฝั่งแม่อีกนั่นแหละ แต่คนนี้ดุเงียบเรียบร้อยมาก มากจนไม่มีใครสงสัยในการกระทำเลย จนเพราะโทรศัพท์อีกนั่นแหละ วันนั้นเราไปช่วยงานพ่อ แล้วลุงคนนี้ก็ไป แต่บังเอิญเรานั่งตรงหลังเนินดินเตึ้ยๆใต้ต้นไม้ใหญ่ ก็ได้ยินเสียงคนคุยโทรศัพท์จ๊ะจ๋า นัดแนะกันอย่างนั้นอย่างนี้เราก็สงสัยว่าเป็นใคร สักพักพ่อด็เรียกชื่อลุง แล้วก็ดป็นลุงที่เดินออกมาจากฝั่งตรงข้าม เราอึ้งแต่ทำเป็นไม่สนใจก่อนดหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นก็คิดมาตลอดว่าจะพูดดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ยังไม่บอกใครเลย กลัวเหมือนกันว่ามันจะเลวร้ายเหมือนเรื่องแรกที่เจอ แต่ถ้าจะบอกก็กลัวจะเป็นหมา เรื่องผัวๆเมียๆ นี่น้ำท่วมปากจริงๆ
ถ้าเป็นคุณล่ะ จะบอก? หรือไม่บอกดี?
เรื่องผัวๆเมียๆ พูดหรือไม่พูดดี
เรื่องเเรกกับครอบครัวของป้า...
ป้าเป็นพี่สาวฝั่งแม่ แต่งงานมีลูกจนมีหลานแล้ว อยุ่กินกันมาก็มากกว่า 20 ปี ลุงสามีก็ดูเป็นคนใจดี เราก็เลยค่อนข้าจะสนิทด้วย ประมาณ 3 ปีก่อนเกิดเรื่อง ตอนนั้นเราก็อยู่ม.ปลาย โดยปกติทั่วไป คนอายุรุ่นราวคราวลุงจะไม่ค่อยรู้เรื่องโทรศัพท์เท่าไหร่ พอมีปัญหาก็มักจะถามหลานๆ และบังเอิญ เราก็เป็นหลานที่ป้าๆลุงๆจะเอาโทรศัพท์มาให้เช็คบ่อย พอสามีของป้าเอาโทรศัพท์มาให้เช็คในวันหนึ่ง เราก็เจอจังเบอเร่อ ทั้งข้อความการสนทนา รูปภาพ และอื่นๆ (โทรศัพท์นี่มันเครื่องจับผิดจริงๆ หลักฐานเพียบ!!!) เหมือนเขาจะคุยกันมาไม่นานมากเท่าไหร่ ตอนแรกก็ตกใจ ลุงมีเมียน้อย!! ด้วยความที่เราก็ไม่อยากให้ครอบครัวป้ามีปัญหา และไม่รู้ว่าพูดไปเรื่องจะแย่ขนาดไหนเลยเลือกที่จะหุบปาก แล้วหลังจากนั้นเรื่องก็เริ่มจะวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ตัวละครชักจะเยอะ เรารู้หมดทั้งชื่อ การนัดเจอ ซ้ำไม่ใช่คนเดียวด้วย คิดว่าป้าก็คงเริ่มรู้เรื่องแล้วบ้าง เพราะลุงเริ่มไม่ค่อยกลับบ้าน เงินเดือนไม่ถึงมือ และแล้ววันหนึ่งเมียน้อยเบอร์ 1 ก็โทรมาหาป้า แต่บอกว่า "พี่ไม่ต้องพูดอะไรนะ ฟังอย่างเดียว" แล้วก็ประชุมสายกับเมียน้อยเบอร์ 2 แล้วก็เถียงกันให้เมียหลวงฟัง ช่วงพักหลังๆป้าซูบลงไปเยอะ คงทั้งเครียดและต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาดูแลหลานอีกสองคนเมื่อเงินเดือนของสามีไม่เคยมีถึงมือเลย จนกระทั่งเมื่อประมาณ1 ปีที่แล้วนั่นแหละ (ป้าอดทนมากอ่ะ เป็นเราเลิกนานละ) เป็นเรื่องขึ้นมาเพราะดูเหมือนลุงจะหลงเมียเบอร์ล่าสุดนี่มาก ป้ากับลุงทะเลาะกันบ่อย และบางครั้งป้าก็ถูกทำร้ายร่างกาย แบบตอนนั้นเห็นแล้วยังตกใจ คิดถึงละครที่เวลาต่อยกันเบ้าตาเขียวๆ นี่เขียวจริงๆเหมือนกันเลย ตอนนั้นเราก็กำลังจะเข้ามหาลัยแล้วแหละ อยู่ในช่วงเก็บของย้ายเข้าหอเลย เราเลยค่อนข้างจะอยู่ติดบ้าน วันนั้นเช้าวันจันทร์ ป้าก็เดินมาบ้านเรา มีลุงข้างบ้าน พ่อเรา แม่เราด้วย ก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย แล้วป้าก็เล่าให้ฟังว่าตอนเย็นวันศุกร์ลุงกลับมาบ้านและบอกว่าถ้าอยากหย่า วันจันทร์ให้เอาเงินมาแลกใบหย่า (หลักหมื่น) ป้าก็บ่นให้เราฟังว่าไม่มีเงินหรอกคงไม่ไป ไม่ทันคุยจบเรื่องก็มีคนบอกว่าลุงผูกคอตายในที่ทำงาน ทุกคนก็ตกใจ รีบไปที่ทำงานของลุง สาเหตุเห็นว่าเพราะเมียน้อยเขากลับไปคืนดีกับสามีเก่า ทางลุงก็ทั้งรักทั้งหลงเขา กู้หนี้ยืมสิน สารพัดจะหาเงินไปให้เขา สร้างบ้านเอย อะไรเอย เยอะเเยะ
เหมือนเรื่องจะจบแค่มีคนตายแต่มันไม่ใช่ พอคนกู้หนี้ตาย ใบค้างชำระ ใบแจ้งหนี้ ก็ปลิวว่อนมาหล่นหน้าป้าซึ่งเป็นคู่สมรสและบางอย่างก็มีชื่อเป็นผู้ค้ำประกันโดยที่ตัวเองไม่เคยรู้ตัว เงินไม่เคยได้ใช้ ใบหนี้ยังจะมาอีก และซ้ำร้ายแม่ผัวก็มาด่าฝ่ายเราว่าไปใส่ร้ายว่าลูกเขามีชู้ (อันที่จริงแกก็รู้เห็นนั่นแหละ เพราะลุงพาไปค้างบ้านแม่ตัวเองบ่อยมาก แต่คงเพราะกองหนี้ที่อยากจะปัดให้ห่างตัวเลยพยายามโวยวายแบบนั้น) ค่างานศพ แม่ผัวไม่เจียดมาสักแดง แถมยังกระแนะกระแหนว่าเอาเงินค่าทำศพลูกเขาไปอุบไว้เองอีก แหมมมมม! ค่าดอกเบี้ยยังไม่พอเลยยายเอ้ยยย วันเผา เมียน้อยก็มา แล้วก็เอาเงินมาช่วยค่างานศพหนึ่งหมื่นบาท โดยยื่นให้แม่ผัว อย่าหวังว่าจะถึงป้าสักสลึงเลย แล้วป้าเราก็ยังต้องก้มหน้าใช้หนี้มาจนถึงทุกวันนี้แหละ
เรื่องที่ 2.....
นั่นคือเรื่องแรกที่เราเจอ...และแล้วหวยก็ออกที่เราอีกเมื่อลุงอีกคนหนึ่ง ญาติฝั่งแม่อีกนั่นแหละ แต่คนนี้ดุเงียบเรียบร้อยมาก มากจนไม่มีใครสงสัยในการกระทำเลย จนเพราะโทรศัพท์อีกนั่นแหละ วันนั้นเราไปช่วยงานพ่อ แล้วลุงคนนี้ก็ไป แต่บังเอิญเรานั่งตรงหลังเนินดินเตึ้ยๆใต้ต้นไม้ใหญ่ ก็ได้ยินเสียงคนคุยโทรศัพท์จ๊ะจ๋า นัดแนะกันอย่างนั้นอย่างนี้เราก็สงสัยว่าเป็นใคร สักพักพ่อด็เรียกชื่อลุง แล้วก็ดป็นลุงที่เดินออกมาจากฝั่งตรงข้าม เราอึ้งแต่ทำเป็นไม่สนใจก่อนดหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นก็คิดมาตลอดว่าจะพูดดีมั้ย แต่สุดท้ายก็ยังไม่บอกใครเลย กลัวเหมือนกันว่ามันจะเลวร้ายเหมือนเรื่องแรกที่เจอ แต่ถ้าจะบอกก็กลัวจะเป็นหมา เรื่องผัวๆเมียๆ นี่น้ำท่วมปากจริงๆ
ถ้าเป็นคุณล่ะ จะบอก? หรือไม่บอกดี?