กระทู้นี้เป็นภาค2ต่อจากกระทู้นี้ค่ะ　http://ppantip.com/topic/32283912　มาต่อให้ตามสัญญาแล้วน้า

แต่ออกตัวเลยว่ากระทู้นี้นี่ว่าด้วยความสนิทสนมและมุ๊งมิ๊งออร่าวายกระจายของเบอร์ 1 ทีมชาติเยอรมัน และ เบอร์ 2 ทีมชาติญี่ปุ่น อดีตกัปตันทีมและหนุ่มน้อยแบ็คขวาหน้าละอ่อนของชาลเก้04นะคะ หนุ่มๆคนไหนหลงเข้ามาโดยคิดว่าเป็นกระทู้บอลธรรมดาๆ ขอให้รีบทำความเข้าใจใหม่โดยด่วน เราอนุญาตให้ท่านปิดกระทู้หนีออกไปได้โดยสวัสดิภาพค่ะ





...เราเตือนแล้วนะคะ...


...ถ้ารับได้ก็โอเค...


----------------------------------------------------


แนะนำตัว

จริงๆคงไม่ต้องแนะนำไรมากแล้วเนอะ เอาเป็นว่าคร่าวๆ



มานูเอล นอยเออร์
เบอร์ 1 ทีมชาติเยอรมัน และสโมสรบาเยิร์นมิวนิค
สูง 193 cm เกิด 27 มีนา 1986


อุจิดะ อัตสึโตะ
เบอร์ 2 ทีมชาติญี่ปุ่น และเบอร์22สโมสรชาลเก้04
สูง 176cm เกิด 27 มีนา 1988


ใช่แล้วค่ะ ทั้งคู่เกิดวันเดียวกันเป๊ะ และทั้งคู่ก็น่าจะรู้ค่ะว่าเกิดวันเดียวกัน เพราะเราเคยเห็นทวิตเตอร์ของนักข่าวญี่ปุ่นทวีตโคทคำพูดของอุจจี้มา(น่าจะตอนสัมภาษณ์)ว่า "วันนี้เป็นวันเกิดผม ก็คือเป็นวันเกิดของนอยเออร์ด้วย" แล้วเลยโดนนักข่าวขอให้อวยพรวันเกิดให้นอยเออร์ด้วย แต่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่ามาพูดตรงนี้มันเขิน(แล้วเธอต้องพูดที่ไหนมันถึงจะไม่เขินยะ!) บอกว่าจะขอเชียร์นอยเออร์จากในเงามืดแทน
เรื่องวันเกิดนี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดคลิ้กที่ทำให้ทั้ง2คนสนิทกันมาก ทั้งๆที่มีเวลาได้เล่นในสโมสรเดียวกันนั้นแค่ปีเดียวค่ะ




Episode 1 : เด็กใหม่ชาลเก้


ก่อนหน้าจะย้ายมาเล่นให้กับชาลเก้ในบุนเดสลีก้า อุจจี้เป็นนักเตะความหวังของทีมคาชิมะแอนท์เลอร์สซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเจลีคค่ะ ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นกับทีมก็เลยทำให้มีแมวมองจากสโมสรต่างชาติมาทาบทามและทีมในเจลีคส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างสนับสนุนให้นักเตะได้ไปมีประสบการณ์ร่วมทีมกับสโมสรต่างชาติอยู่แล้วนะเราว่า

สุดท้ายอุจจี้ก็เซ็นต์สัญญากับชาลเก้ได้สำเร็จในปี2010ค่ะ แต่แน่นอนว่าการจะย้ายจากทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมากๆทีมนึงในลีคบ้านเกิด ไปยังสโมสรต่างชาติที่แม้แต่ภาษาก็ยังพูดไม่ได้ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอนค่ะ ยิ่งเป็นเด็กคิดมาก ชอบโทษตัวเองแบบอุจจี้เนี่ย แค่คิดเราก็ว่ายากอ่ะ แต่ถามว่าเจ้าตัวผ่านช่วงเวลาที่ยากนั้นมาได้ไง ก็บอกได้เลยว่าเป็นเพราะตอนนั้นมีเพื่อนสนิทสุดๆอย่างมานูเอล นอยเออร์คอยให้ความช่วยเหลือ
อุจจี้เคยให้สัมภาษณ์ถึงนอยเออร์ว่า

"จะว่าเป็นคนที่มีบุคลิกที่แม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ยังต้องชื่นชมก็ได้ คือเป็นคนที่พึ่งพาได้จริงๆ อย่างเช่นว่าหลังจากจบมีตติ้งหลังแข่งก็จะเป็นที่คอยมาอธิบายให้ฟังว่าเมื่อกี้โค้ชพูดอย่างงี้นะ หรือก่อนแข่งก็จะเป็นคนคอยบอกว่า เดี๋ยวเจ้านั่นต้องพุ่งเข้ามาแน่ๆ ระวังด้วยนะ อะไรประมาณนี้ คือไม่ได้ดูแลแค่ในเรื่องของฟุตบอลเท่านั้น แต่คอยช่วยเหลือผมหลายๆอย่างกระทั่งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ด้วย"

http://number.bunshun.jp/articles/-/231528?page=3 <- เว็บที่มาบทสัมภาษณ์ค่ะ


อันนี้เป็นตอนที่อุจจี้ให้สัมภาษณ์รายการทีวีเกี่ยวกับนอยเออร์ค่ะ เสียดายเราหาคลิปไม่เจอ เจอแต่ที่แฟนๆแคปไว้อ่ะ

อุจจี้เล่าว่า ตอนที่ย้ายมาใหม่ๆ ภาษาก็ยังไม่ได้ ฟังก็ยังฟังไม่คล่อง แล้วที่ชาลเก้ หลังจากแข่งเสร็จโค้ชก็จะจัดมีตติ้งถามความเห็นทุกคน ต้องตอบกันทีละคนค่ะ แน่นอนว่าอุจจี้ก็โดนถามด้วย แต่ตอนนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้เข้าใจเนื้อหาซักเท่าไหร่ก็เลยได้แต่นิ่งเงียบ



โค้ชก็โกรธค่ะ...ถามว่าทำไมถึงได้เอาแต่เงียบ...อุจจี้ก็ได้แต่ลนลานในใจ ถ้าตอบผิดก็กลัวโดนโค้ชด่าอีก และในขณะที่กำลังลนลานอยู่นั่นเอง...แน่นอนว่ามันต้องถึงคิวพระเอก



นอยเออร์เป็นคนออกโรงซัพพอร์ตอุจจี้ค่ะ บอกโค้ชว่า "ตอนนี้อุจิดะยังไม่ค่อยเข้าใจภาษาเยอรมันเท่าไหร่ อย่าโกรธเลยครับ"
แล้วหลังจากนั้นอุจจี้ก็เดินไปขอบคุณนอยเออร์ค่ะ แต่เจ้าตัวบอกว่า "ฉันก็แค่พูดเรื่องที่ควรพูดเท่านั้นเอง ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรอีกล่ะก็ มาหาฉันได้ตลอดนะ"



ก็อะไรประมาณนี้ค่ะ...จุดเริ่มต้นความสนิทสนมของทั้งคู่

สำหรับ อุจจี้ เราว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่เจ้าตัวประทับใจมากค่ะ ถึงได้เอามาเล่าออกรายการแบบนี้ ปกติน้องจะชอบเล่าเรื่องแบบไม่ใส่รายละเอียดซักเท่าไหร่ แบบคร่าวมากๆ เหมือนขี้เกียจเล่า แต่เรื่องนี้ดูจะจำได้ทุกรายละเอียด

ส่วนนอยเออร์...นิสัยเธอแบ่บว่า พระเอกการ์ตูนผู้หญิงมากค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เดี๋ยวepisodeถัดไปๆก็จะมาต่อในกระทู้นี้นะคะ