๑๐๑
ไปปวารณารับใช้-ส่งข้าววัดล่วงหน้า-ตลอดพรรษานี้ ~ ได้นิทานธรรมะกลับมา...
[เรื่องที่ ๑๕ ]
@... อย่าประทุษร้าย~ทำลายผู้มีคุณ ...@
เนื้อสมันตัวหนึ่ง ถูกนายพรานไล่ติดตามเพื่อทำร้ายจวนตัวเข้าเห็นว่าจะหนีไปไม่รอด จึงแอบเข้าไปซุ่มอาศัยบังร่างอยู่ ณ พุ่มไม้แห่งหนึ่ง
พ้นสายตาของนายพราน และนายพรานได้ตามเลยไปเสียทางอื่น เนื้อสมันจึงเกิดชะล่าใจ และเล็มกินใบไม้ที่เป็นพุ่มกำบังนั้นเป็นอาหาร
จนพุ่มไม้หายทึบ มองเห็นตัวได้ถนัด พอดีนายพรานเดินกลับมาทางเก่าจึงมองเห็น ในที่สุดเนื้อสมันหมดทางที่จะหนีต่อไปได้ จึงถูกนายพรานยิงด้วยธนูล้มลงตาย
ก่อนที่เนื้อสมันจะตายนึกถึงโทษที่ตนทำลายพุ่มไม้ซึ่งมีคุณ อาศัยกำบังร่างให้ตนได้ จึงสอนตนเองว่า...
"ทำลายสิ่งมีคุณ ย่อมได้รับโทษอย่างนี้แหละหนอ"
@ คติจากนิทานเรื่องนี้ เตือนใจให้คิดถึงอุปการะของท่านผู้มีคุณแก่ตน แล้วไม่ทำลาย หรือประทุษร้ายต่อท่าน
ถ้าจะกล่าวโดยกว้างขวาง บุคคลที่มีคุณแก่ตนนั้น มีทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้น้อย
หรือถ้าเป็นนายเขา ก็ต้องมีบ่าว มีคนรับใช้
ทางโลกสอนให้ ผู้น้อย ระลึกถึงคุณของ ผู้ใหญ่ เป็นปริมาณ
แต่ทางธรรมกลับสอนเพิ่มให้ ผู้ใหญ่ พยายามคิดถึงคุณของ ผู้น้อย ด้วย
ด้วยว่า ผู้น้อย-บ่าว-คนรับใช้ ก็เป็นผู้เชิดชู ช่วยเหลือ และรับใช้ผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด
ฉะนั้น ถ้าจะกล่าวถึงบุคคลผู้ซึ่งมีคุณแก่ตน ย่อมมีทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย หาใช่จะมีเฉพาะ ผู้ใหญ่ เท่านั้น.
เช่นเดียวกับเนื้อสมันที่ลำพองใจว่าปลอดภัยแล้ว ก็จึงกินใบไม้ซึ่งเป็นพุ่มกำบังร่างของตนเอง
สุดท้ายจึงต้องตาย เพราะใบไม้พุ่มกำบังโปร่งลงไปเสียแล้ว ทำให้นายพรานเห็นร่างเนื้อสมันได้ถนัด-เช่นนั้น.
@... นิทานธรรมะ กับ เหตุบ้านการเมือง ...@ ในวันเข้าพรรษา ~ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘/๒๕๕๗ ... วันนี้ <~@
[เรื่องที่ ๑๕ ] @... อย่าประทุษร้าย~ทำลายผู้มีคุณ ...@
เนื้อสมันตัวหนึ่ง ถูกนายพรานไล่ติดตามเพื่อทำร้ายจวนตัวเข้าเห็นว่าจะหนีไปไม่รอด จึงแอบเข้าไปซุ่มอาศัยบังร่างอยู่ ณ พุ่มไม้แห่งหนึ่ง
พ้นสายตาของนายพราน และนายพรานได้ตามเลยไปเสียทางอื่น เนื้อสมันจึงเกิดชะล่าใจ และเล็มกินใบไม้ที่เป็นพุ่มกำบังนั้นเป็นอาหาร
จนพุ่มไม้หายทึบ มองเห็นตัวได้ถนัด พอดีนายพรานเดินกลับมาทางเก่าจึงมองเห็น ในที่สุดเนื้อสมันหมดทางที่จะหนีต่อไปได้ จึงถูกนายพรานยิงด้วยธนูล้มลงตาย
"ทำลายสิ่งมีคุณ ย่อมได้รับโทษอย่างนี้แหละหนอ"
@ คติจากนิทานเรื่องนี้ เตือนใจให้คิดถึงอุปการะของท่านผู้มีคุณแก่ตน แล้วไม่ทำลาย หรือประทุษร้ายต่อท่าน
ถ้าจะกล่าวโดยกว้างขวาง บุคคลที่มีคุณแก่ตนนั้น มีทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้น้อย
หรือถ้าเป็นนายเขา ก็ต้องมีบ่าว มีคนรับใช้
ทางโลกสอนให้ ผู้น้อย ระลึกถึงคุณของ ผู้ใหญ่ เป็นปริมาณ
แต่ทางธรรมกลับสอนเพิ่มให้ ผู้ใหญ่ พยายามคิดถึงคุณของ ผู้น้อย ด้วย
ด้วยว่า ผู้น้อย-บ่าว-คนรับใช้ ก็เป็นผู้เชิดชู ช่วยเหลือ และรับใช้ผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด
ฉะนั้น ถ้าจะกล่าวถึงบุคคลผู้ซึ่งมีคุณแก่ตน ย่อมมีทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย หาใช่จะมีเฉพาะ ผู้ใหญ่ เท่านั้น.
คล้ายกับได้ตัดมือตัดเท้าของตนเองเสียเอง !!!
เช่นเดียวกับเนื้อสมันที่ลำพองใจว่าปลอดภัยแล้ว ก็จึงกินใบไม้ซึ่งเป็นพุ่มกำบังร่างของตนเอง
สุดท้ายจึงต้องตาย เพราะใบไม้พุ่มกำบังโปร่งลงไปเสียแล้ว ทำให้นายพรานเห็นร่างเนื้อสมันได้ถนัด-เช่นนั้น.
“ นี่แหละคือโทษแห่งการทำลายสิ่งที่มีคุณ !!! ”
สกมฺมุนา หญฺญติ ปาปธมฺโม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้