@... นิทานธรรมะ กับ เหตุบ้านการเมือง ...@ ในวันเข้าพรรษา ~ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘/๒๕๕๗ ... วันนี้ <~@

๑๐๑

ไปปวารณารับใช้-ส่งข้าววัดล่วงหน้า-ตลอดพรรษานี้ ~ ได้นิทานธรรมะกลับมา...



[เรื่องที่ ๑๕ ] @... อย่าประทุษร้าย~ทำลายผู้มีคุณ ...@

                     เนื้อสมันตัวหนึ่ง ถูกนายพรานไล่ติดตามเพื่อทำร้ายจวนตัวเข้าเห็นว่าจะหนีไปไม่รอด จึงแอบเข้าไปซุ่มอาศัยบังร่างอยู่ ณ พุ่มไม้แห่งหนึ่ง
พ้นสายตาของนายพราน และนายพรานได้ตามเลยไปเสียทางอื่น เนื้อสมันจึงเกิดชะล่าใจ และเล็มกินใบไม้ที่เป็นพุ่มกำบังนั้นเป็นอาหาร
                     จนพุ่มไม้หายทึบ มองเห็นตัวได้ถนัด  พอดีนายพรานเดินกลับมาทางเก่าจึงมองเห็น ในที่สุดเนื้อสมันหมดทางที่จะหนีต่อไปได้ จึงถูกนายพรานยิงด้วยธนูล้มลงตาย

ก่อนที่เนื้อสมันจะตายนึกถึงโทษที่ตนทำลายพุ่มไม้ซึ่งมีคุณ อาศัยกำบังร่างให้ตนได้ จึงสอนตนเองว่า...
"ทำลายสิ่งมีคุณ ย่อมได้รับโทษอย่างนี้แหละหนอ"



@ คติจากนิทานเรื่องนี้   เตือนใจให้คิดถึงอุปการะของท่านผู้มีคุณแก่ตน  แล้วไม่ทำลาย หรือประทุษร้ายต่อท่าน  
                             ถ้าจะกล่าวโดยกว้างขวาง   บุคคลที่มีคุณแก่ตนนั้น มีทั้งผู้ใหญ่ทั้งผู้น้อย    
                             หรือถ้าเป็นนายเขา  ก็ต้องมีบ่าว  มีคนรับใช้
ทางโลกสอนให้ ผู้น้อย ระลึกถึงคุณของ ผู้ใหญ่ เป็นปริมาณ  
แต่ทางธรรมกลับสอนเพิ่มให้ ผู้ใหญ่ พยายามคิดถึงคุณของ ผู้น้อย ด้วย
                ด้วยว่า  ผู้น้อย-บ่าว-คนรับใช้  ก็เป็นผู้เชิดชู  ช่วยเหลือ  และรับใช้ผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด


                ฉะนั้น ถ้าจะกล่าวถึงบุคคลผู้ซึ่งมีคุณแก่ตน  ย่อมมีทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย  หาใช่จะมีเฉพาะ ผู้ใหญ่ เท่านั้น.

การทำลายผู้น้อยด้วยความริษยาก็ดี  หรือด้วยอำนาจแห่งอคติก็ดี  จึงเท่ากับเป็นการทำลายตัวเองเช่นกัน    
คล้ายกับได้ตัดมือตัดเท้าของตนเองเสียเอง !!!

เช่นเดียวกับเนื้อสมันที่ลำพองใจว่าปลอดภัยแล้ว  ก็จึงกินใบไม้ซึ่งเป็นพุ่มกำบังร่างของตนเอง
สุดท้ายจึงต้องตาย  เพราะใบไม้พุ่มกำบังโปร่งลงไปเสียแล้ว  ทำให้นายพรานเห็นร่างเนื้อสมันได้ถนัด-เช่นนั้น.



“ นี่แหละคือโทษแห่งการทำลายสิ่งที่มีคุณ !!! ”
สกมฺมุนา  หญฺญติ  ปาปธมฺโม  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่