ป้าและลุงของแฮร์รี่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนที่พวกเขาทำงานในบริษัทเดียวกัน เพ็ตทูเนีย เอฟเวนส์ต้องพบกับความทุกข์ระทมที่พ่อและแม่ของเธอเอาใจใส่น้องสาวของเธอ(ซึ่งเป็นแม่มด)มากกว่าตนเอง เธอตัดสินใจออกจากบ้านที่โค้กเวิร์ธและมุ่งหน้าสู่ลอนดอนและเริ่มหน้าที่การงานในบริษัท ที่ซึ่งเธอได้พบกับชายที่หัวโบราณ,ดื้อดึง,วัตถุนิยมและไม่เชื่อในเรื่องไร้สาระอย่างเรื่องเวทมนตร์ “เวอร์นอน เดอร์สลีย์”
ผู้บริหารร่างใหญ่และคอสั้นจนแทบไม่มีคอคนนี้ เป็นเสมือนชายในอุดมคติของเพ็ตทูเนีย ไม่เพียงแต่ความโรแมนติกที่เขามอบให้กับเธอ เขายังทำให้เธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เวอร์นอนมีทั้งรถยนต์ส่วนตัวและความต้องการที่จะมีชีวิตแบบเรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบ เขาชวนเพ็ตทูเนียไปออกเดทหลายครั้ง แม้การเดทมันจะน่าเบื่อเพราะเขาเอาแต่เล่าเรื่องส่วนตัวและความใฝ่ฝันของตนเอง เพ็ตทูเนียกลับไม่ใส่ใจและเฝ้ารอถึงวันที่เวอร์นอนจะนำแหวนมาสวมลงบนนิ้วของเธอ
เมื่อวันนั้นมาถึง เวอร์นอนวางแผนขอเพ็ตทูเนียแต่งงานในห้องรับแขกของแม่เขา ซึ่งแน่นอนว่าเธอตอบตกลงในทันที ความกลัวของเพ็ตทูเนียตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือคู่หมั้นของเธอจะทราบถึงเรื่องราวของครอบครัวเธอซึ่งหมายรวมถึงน้องสาวของเธอ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์ สิ่งที่เพ็ตทูเนียคิดคือ เวอร์นอนชายผู้สวมสูทสีดำและรองเท้าสีน้ำตาลเหมือนกับคนปกติทั่วไป จะคิดอย่างไรที่น้องสาวของคู่หมั้นตนเองนั้นใส่แต่เสื้อคลุมตัวยาวและร่ายเวทมนตร์ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับคนประเภทเดียวกันกับพวกเธอ นี่คือสิ่งที่กวนใจของเพ็ตทูเนียอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุดเธอก็สารภาพความจริงกับเวอร์นอนในวันหนึ่ง ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถคันสีดำของเวอร์นอนซึ่งเห็นร้านขายขนมอยู่ตรงหน้า เวอร์นอนเพิ่งกลับเข้ามาในรถหลังจากที่เขาเพิ่งไปซื้อขนมหน้าโรงหนัง เป็นไปอย่างที่เพ็ตทูเนียคิด เวอร์นอนตกใจอย่างมากแต่เขาก็บอกด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นว่าเขาไม่สนใจสักนิดว่าคู่หมั้นของเขาจะมีน้องสาวที่แปลกประหลาด เพ็ตทูเนียโผกอดเขาด้วยความรู้สึกตื้นตันและขอบคุณอย่างรวดเร็วจนทำให้ไส้กรอกในมือของเขาตก
การพบรักของเวอร์นอนและเพ็ตทูเนีย เดอร์สลีย์
ป้าและลุงของแฮร์รี่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนที่พวกเขาทำงานในบริษัทเดียวกัน เพ็ตทูเนีย เอฟเวนส์ต้องพบกับความทุกข์ระทมที่พ่อและแม่ของเธอเอาใจใส่น้องสาวของเธอ(ซึ่งเป็นแม่มด)มากกว่าตนเอง เธอตัดสินใจออกจากบ้านที่โค้กเวิร์ธและมุ่งหน้าสู่ลอนดอนและเริ่มหน้าที่การงานในบริษัท ที่ซึ่งเธอได้พบกับชายที่หัวโบราณ,ดื้อดึง,วัตถุนิยมและไม่เชื่อในเรื่องไร้สาระอย่างเรื่องเวทมนตร์ “เวอร์นอน เดอร์สลีย์”
ผู้บริหารร่างใหญ่และคอสั้นจนแทบไม่มีคอคนนี้ เป็นเสมือนชายในอุดมคติของเพ็ตทูเนีย ไม่เพียงแต่ความโรแมนติกที่เขามอบให้กับเธอ เขายังทำให้เธอกลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เวอร์นอนมีทั้งรถยนต์ส่วนตัวและความต้องการที่จะมีชีวิตแบบเรียบง่ายแต่สมบูรณ์แบบ เขาชวนเพ็ตทูเนียไปออกเดทหลายครั้ง แม้การเดทมันจะน่าเบื่อเพราะเขาเอาแต่เล่าเรื่องส่วนตัวและความใฝ่ฝันของตนเอง เพ็ตทูเนียกลับไม่ใส่ใจและเฝ้ารอถึงวันที่เวอร์นอนจะนำแหวนมาสวมลงบนนิ้วของเธอ
เมื่อวันนั้นมาถึง เวอร์นอนวางแผนขอเพ็ตทูเนียแต่งงานในห้องรับแขกของแม่เขา ซึ่งแน่นอนว่าเธอตอบตกลงในทันที ความกลัวของเพ็ตทูเนียตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือคู่หมั้นของเธอจะทราบถึงเรื่องราวของครอบครัวเธอซึ่งหมายรวมถึงน้องสาวของเธอ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายที่ฮอกวอตส์ สิ่งที่เพ็ตทูเนียคิดคือ เวอร์นอนชายผู้สวมสูทสีดำและรองเท้าสีน้ำตาลเหมือนกับคนปกติทั่วไป จะคิดอย่างไรที่น้องสาวของคู่หมั้นตนเองนั้นใส่แต่เสื้อคลุมตัวยาวและร่ายเวทมนตร์ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับคนประเภทเดียวกันกับพวกเธอ นี่คือสิ่งที่กวนใจของเพ็ตทูเนียอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุดเธอก็สารภาพความจริงกับเวอร์นอนในวันหนึ่ง ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถคันสีดำของเวอร์นอนซึ่งเห็นร้านขายขนมอยู่ตรงหน้า เวอร์นอนเพิ่งกลับเข้ามาในรถหลังจากที่เขาเพิ่งไปซื้อขนมหน้าโรงหนัง เป็นไปอย่างที่เพ็ตทูเนียคิด เวอร์นอนตกใจอย่างมากแต่เขาก็บอกด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นว่าเขาไม่สนใจสักนิดว่าคู่หมั้นของเขาจะมีน้องสาวที่แปลกประหลาด เพ็ตทูเนียโผกอดเขาด้วยความรู้สึกตื้นตันและขอบคุณอย่างรวดเร็วจนทำให้ไส้กรอกในมือของเขาตก