เริ่มจากหัวข้อกระทู้ บางคนอาจจะคิดว่า 75 นี่ถือว่าน้อยนะ ยังไม่พอสมัครเรียนที่ไหนเลย แต่มันมากสำหรับเราค่ะ แล้วก็ถึงเป้าที่เราต้องการ แต่เราก็มีเป้าหมายต่อไปคืออยากไปเรียนต่อ ต้องได้ 90 คะแนนขึ้นไป เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับคนที่อ่อนภาษาอังกฤษแบบเรา และคิดว่าไม่สามารถทำได้ คะแนนมันสูงไป เยอะไป ไม่ได้เรียนอินเตอร์ ไม่เคยไปเรียนเมืองนอกมาทำไม่ได้หรอก เรายืนยันว่าถ้าเราตั้งใจจริง มีวินัย มุ่งมั่น เป้าหมายมันก็จะเข้าใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษเลย คือ โดดเรียนประจำ ไม่ชอบครูฝรั่งเรียกให้ตอบ ตอบผิดก็โดนด่า ตั้งแต่นั้นมา เรามีทัศนคติที่ไม่ดีกับภาษาอังกฤษมากๆค่ะ แต่เหมือนชีวิตมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนมาเรียนมหาวิทยาลัยเรียนป.ตรี มนุษยศาสตร์ต้องเรียนอิ้ง 8 ตัว เราไม่รู้เรื่องเลย จึงลงเรียนเพิ่มข้างนอกทั้ง conversation และ grammar แต่เหมือนเรียนๆไปงั้น เพราะแกรมม่าเราไม่ดีขึ้น เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า do,does,has,have ใช้ยังไง อะไรคือ singular plural ใช้ยังไงไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไม่รู้เรื่องจริงๆ เรียนพูด เรียนเขียนก็อาศัยอยู่กลุ่มกับเพื่อนที่เก่งๆ ให้พอถูไถไปได้ บวกกับช่วงนั้นบ้าดู series gossip girl ด้วย ก็ทำให้ได้ประมาณเกรดประมาณ b,c มาตลอด
พอจบป.ตรีก็มีโอกาสเรียนต่อป.โท แล้วต้องอ่าน text ค่อนข้างเยอะ ยอมรับเลยว่าเปิด dict ทุกคำ แปลหน้าหนึ่งใช้เวลาหลายวัน ทำให้เสียเวลามากๆ พอจบป.โท เราก็ได้ทำงานที่ไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลย แต่เราก็เรียน conversation ตลอดไม่มีหยุด บวกกับดูหนัง subtitle แต่ก็อ่านภาษาไทยตลอดค่ะ มันเลยไม่พัฒนา จนเมื่อปีที่แล้วเราตั้งเป้าหมายอยากเรียนต่อ เราจึงเริ่มต้นค่ะ โดยเราจะจดเป็นขั้นตอนเลยนะคะ เราเริ่มต้นจริงจังเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2556 และสอบในช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2557 ได้ 58 คะแนน จากนั้นเราจึงลงคอร์สเรียนเพิ่มและฝึกอย่างหนักจนมาสอบอีกทีวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
คะแนนออกมาได้ R:19, L:18, S:20, W:18 =75
เหนือความคาดหมายมากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะตอนสอบไม่รู้เรื่องเลย เพราะไปกังวลกับข้อที่ทำไม่ได้ และคอมของเรามีปัญหาด้วยค่ะ จู่ๆมันก็ดับ จากที่ไปสอบคนแรก กลับต้องทำเสร็จคนสุดท้าย สติหลุดค่ะ กังวลนู่นนี่มากมาย พอกลับมาถึงห้องร้องไห้ ท้อไปสองวัน หลังจากนั้นก็คิดว่าจะต้องสอบอีกรอบ เลยฮึดสู้ค่ะ พอคะแนนออกมาก็ดีใจมากๆค่ะ สิ่งที่พยายาม ทุ่มเทไป มันเห็นผลบ้างแล้ว ถึงมันจะยังไม่มาก แต่เราก็ดีใจที่เราพัฒนาขึ้นจากเดิมมากๆค่ะ
ในส่วนนี้จะมีทั้งหนังสือที่เราใช้ และ applications ใน ipad และเว็บไซต์ต่างๆที่ใช้ประจำนะคะ
1. ซื้อหนังสือ ETS’s The Official Guide to the TOEFL Test ทำเป็นเล่มแรกค่ะ เพื่อให้ได้รู้ว่าข้อสอบมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ในความคิดของเราเล่มนี้ถ้าเทียบกับข้อสอบจริงแล้ว ง่ายกว่ามากค่ะในส่วนของ reading, listening แต่ speaking, writing ใกล้เคียงกับความเป็นจริงค่ะ
วิธีทำของเราคือ ทำวันละแบบฝึกในหนังสือ ทำเสร็จก็ list คำศัพท์ที่ไม่รู้ไว้ในสมุด แยกเป็นหัวข้อ Art, Psychology, Biology, Technology อะไรประมาณนี้ค่ะ เพราะเวลาสอบมันจะเป็นเนื้อหาของวิชาเรียนของแต่ละวิชาค่ะ อันนี้เราฝึกทำจนหมดค่ะ ช่วยแรกคะแนนด้อยค่ะ ไม่เคยเกิน 15 แต่พอทำชุดหลังๆ บวกกับท่องศัพท์ด้วย คะแนนเลยขยับขึ้นมาหน่อย แต่ไม่เคยเกิน 17 ในส่วนของ reading ส่วน listening ด้อยมากค่ะ ฟังไม่ออกว่าเขาพูดไร ไม่คุ้นกับสำเนียง ฝึกทีไรได้ไม่เกิน 13 ค่ะ จนต้องทำเสร็จ แล้วมาดูสคริป แล้วฟังตาม แล้วไฮไลท์คำที่ไม่คิดว่าจะออกเสียงแบบนี้เอาไว้แล้วจดค่ะ หลังๆมาก็ดีขึ้นค่ะ ฟังเข้าใจมากขึ้น ทำเล่มนี้เสร็จเราไปสอบรอบแรกได้ 55 คะแนนค่ะ
2.Barron's TOEFL iBT เป็นเล่มที่ 2 ที่ทำค่ะ CD ROM ดีมากค่ะ ให้มาจัดเต็ม 8 ชุดแบบฝึก ทำกันจนจุกไปข้างหนึ่ง ในความคิดของเรา Reading ง่ายกว่าของจริงค่ะ แต่ listening ยากและยาวกว่าข้อสอบจริง ถ้าอยากฝึก listening เราแนะนำเล่มนี้ค่ะ เล่มนี้เราทำเหมือนเดิมค่ะ ศัพท์คำไหนไม่ได้ จดเอาไว้ โดยเราจะแบ่งศัพท์เหมือนเดิมค่ะ แล้วก็จะท่องศัพท์ก่อนนอนทุกคืน เพราะคำศัพท์ในหัวเรามีน้อยมาก เราไม่แปลกใจเลยที่ทำ listening ได้น้อย เพราะนอกจากจะฟังไม่ออกแล้ว ศัพท์ในหัวเราน้อยมาก เลยจำเป็นต้องเพิ่มโดยด่วนค่ะ ทำเล่มนี้เสร็จเราไปสอบรอบ 2 ได้ 58 คะแนน โดยไม่ลงเรียนคอร์ส Toefl เลย พอคะแนนไม่ได้ขยับขึ้นจากเดิมมาก เราเลยคิดว่าจำเป็นที่จะต้องลงเรียนสักคอร์สแล้วล่ะ เผื่อมีเทคนิคหรืออะไรที่จะสามารถช่วยเราได้ เราเลยไปลงคอร์สเรียนค่ะ เรียน 1 เดือนก่อนสอบรอบต่อไป เรียนโหดมาก เพราะเวลาจำกัด เรียนทุกวันตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมง หยุดวันอาทิตย์วันเดียวค่ะ เรียนกับวีดีโอ ไม่เคยขาดเรียนสักครั้งค่ะ มุ่งมั่นสุดๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
3. Cambridge Preparation for the TOEFL test เล่มนี้กำลังทำอยู่ค่ะ ทำไปได้ 3 ชุดอยู่เลย เพราะต้องเรียนคอร์ส toefl ด้วย ทำแบบฝึกหัดที่อ.ให้ และต้องรีบไปสอบเลยพักไว้ก่อน เดี๋ยวจะเริ่มฝึกทำต่อแล้วค่ะ เล่มนี้สำหรับเรา reading ใกล้เคียงกับของจริงค่ะ ส่วน listening ก็ใกล้เคียงค่ะ speaking กับ writing เราไม่ได้ฝึกจากเล่มนี้ค่ะ แต่ไปฝึกจากโจทย์ที่อ.ให้ตอนเราไปเรียนพิเศษแล้วก็ app ใน ipad ค่ะ
วิธีการเหมือนเดิมค่ะ จดศัพท์ที่ไม่รู้ แล้วก็ฝึกฟังตามหัวข้อต่างๆบ่อยๆค่ะ
เล่มทำแบบฝึกหัดมีประมาณนี้ค่ะ เดี๋ยวจะมาต่อในส่วนของหนังสือท่องศัพท์และ applications ใน ipad และเว็บไซต์ต่างๆนะคะ รวมไปถึงตารางการฝึกของเราค่ะ ^^
แชร์ประสบการณ์จาก Toefl 58 จนได้ 75 ภายในระยะเวลา 2 เดือน ทำยังไง มาดูกัน !!! เป้าหมายต่อไป 90 ค่ะ
ออกตัวก่อนเลยว่าเราเป็นคนไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษเลย คือ โดดเรียนประจำ ไม่ชอบครูฝรั่งเรียกให้ตอบ ตอบผิดก็โดนด่า ตั้งแต่นั้นมา เรามีทัศนคติที่ไม่ดีกับภาษาอังกฤษมากๆค่ะ แต่เหมือนชีวิตมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนมาเรียนมหาวิทยาลัยเรียนป.ตรี มนุษยศาสตร์ต้องเรียนอิ้ง 8 ตัว เราไม่รู้เรื่องเลย จึงลงเรียนเพิ่มข้างนอกทั้ง conversation และ grammar แต่เหมือนเรียนๆไปงั้น เพราะแกรมม่าเราไม่ดีขึ้น เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า do,does,has,have ใช้ยังไง อะไรคือ singular plural ใช้ยังไงไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไม่รู้เรื่องจริงๆ เรียนพูด เรียนเขียนก็อาศัยอยู่กลุ่มกับเพื่อนที่เก่งๆ ให้พอถูไถไปได้ บวกกับช่วงนั้นบ้าดู series gossip girl ด้วย ก็ทำให้ได้ประมาณเกรดประมาณ b,c มาตลอด
พอจบป.ตรีก็มีโอกาสเรียนต่อป.โท แล้วต้องอ่าน text ค่อนข้างเยอะ ยอมรับเลยว่าเปิด dict ทุกคำ แปลหน้าหนึ่งใช้เวลาหลายวัน ทำให้เสียเวลามากๆ พอจบป.โท เราก็ได้ทำงานที่ไม่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษเลย แต่เราก็เรียน conversation ตลอดไม่มีหยุด บวกกับดูหนัง subtitle แต่ก็อ่านภาษาไทยตลอดค่ะ มันเลยไม่พัฒนา จนเมื่อปีที่แล้วเราตั้งเป้าหมายอยากเรียนต่อ เราจึงเริ่มต้นค่ะ โดยเราจะจดเป็นขั้นตอนเลยนะคะ เราเริ่มต้นจริงจังเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2556 และสอบในช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2557 ได้ 58 คะแนน จากนั้นเราจึงลงคอร์สเรียนเพิ่มและฝึกอย่างหนักจนมาสอบอีกทีวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา
คะแนนออกมาได้ R:19, L:18, S:20, W:18 =75
เหนือความคาดหมายมากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะไม่ถึงด้วยซ้ำ เพราะตอนสอบไม่รู้เรื่องเลย เพราะไปกังวลกับข้อที่ทำไม่ได้ และคอมของเรามีปัญหาด้วยค่ะ จู่ๆมันก็ดับ จากที่ไปสอบคนแรก กลับต้องทำเสร็จคนสุดท้าย สติหลุดค่ะ กังวลนู่นนี่มากมาย พอกลับมาถึงห้องร้องไห้ ท้อไปสองวัน หลังจากนั้นก็คิดว่าจะต้องสอบอีกรอบ เลยฮึดสู้ค่ะ พอคะแนนออกมาก็ดีใจมากๆค่ะ สิ่งที่พยายาม ทุ่มเทไป มันเห็นผลบ้างแล้ว ถึงมันจะยังไม่มาก แต่เราก็ดีใจที่เราพัฒนาขึ้นจากเดิมมากๆค่ะ
ในส่วนนี้จะมีทั้งหนังสือที่เราใช้ และ applications ใน ipad และเว็บไซต์ต่างๆที่ใช้ประจำนะคะ
1. ซื้อหนังสือ ETS’s The Official Guide to the TOEFL Test ทำเป็นเล่มแรกค่ะ เพื่อให้ได้รู้ว่าข้อสอบมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ในความคิดของเราเล่มนี้ถ้าเทียบกับข้อสอบจริงแล้ว ง่ายกว่ามากค่ะในส่วนของ reading, listening แต่ speaking, writing ใกล้เคียงกับความเป็นจริงค่ะ
วิธีทำของเราคือ ทำวันละแบบฝึกในหนังสือ ทำเสร็จก็ list คำศัพท์ที่ไม่รู้ไว้ในสมุด แยกเป็นหัวข้อ Art, Psychology, Biology, Technology อะไรประมาณนี้ค่ะ เพราะเวลาสอบมันจะเป็นเนื้อหาของวิชาเรียนของแต่ละวิชาค่ะ อันนี้เราฝึกทำจนหมดค่ะ ช่วยแรกคะแนนด้อยค่ะ ไม่เคยเกิน 15 แต่พอทำชุดหลังๆ บวกกับท่องศัพท์ด้วย คะแนนเลยขยับขึ้นมาหน่อย แต่ไม่เคยเกิน 17 ในส่วนของ reading ส่วน listening ด้อยมากค่ะ ฟังไม่ออกว่าเขาพูดไร ไม่คุ้นกับสำเนียง ฝึกทีไรได้ไม่เกิน 13 ค่ะ จนต้องทำเสร็จ แล้วมาดูสคริป แล้วฟังตาม แล้วไฮไลท์คำที่ไม่คิดว่าจะออกเสียงแบบนี้เอาไว้แล้วจดค่ะ หลังๆมาก็ดีขึ้นค่ะ ฟังเข้าใจมากขึ้น ทำเล่มนี้เสร็จเราไปสอบรอบแรกได้ 55 คะแนนค่ะ
2.Barron's TOEFL iBT เป็นเล่มที่ 2 ที่ทำค่ะ CD ROM ดีมากค่ะ ให้มาจัดเต็ม 8 ชุดแบบฝึก ทำกันจนจุกไปข้างหนึ่ง ในความคิดของเรา Reading ง่ายกว่าของจริงค่ะ แต่ listening ยากและยาวกว่าข้อสอบจริง ถ้าอยากฝึก listening เราแนะนำเล่มนี้ค่ะ เล่มนี้เราทำเหมือนเดิมค่ะ ศัพท์คำไหนไม่ได้ จดเอาไว้ โดยเราจะแบ่งศัพท์เหมือนเดิมค่ะ แล้วก็จะท่องศัพท์ก่อนนอนทุกคืน เพราะคำศัพท์ในหัวเรามีน้อยมาก เราไม่แปลกใจเลยที่ทำ listening ได้น้อย เพราะนอกจากจะฟังไม่ออกแล้ว ศัพท์ในหัวเราน้อยมาก เลยจำเป็นต้องเพิ่มโดยด่วนค่ะ ทำเล่มนี้เสร็จเราไปสอบรอบ 2 ได้ 58 คะแนน โดยไม่ลงเรียนคอร์ส Toefl เลย พอคะแนนไม่ได้ขยับขึ้นจากเดิมมาก เราเลยคิดว่าจำเป็นที่จะต้องลงเรียนสักคอร์สแล้วล่ะ เผื่อมีเทคนิคหรืออะไรที่จะสามารถช่วยเราได้ เราเลยไปลงคอร์สเรียนค่ะ เรียน 1 เดือนก่อนสอบรอบต่อไป เรียนโหดมาก เพราะเวลาจำกัด เรียนทุกวันตั้งแต่บ่ายโมงถึงห้าโมง หยุดวันอาทิตย์วันเดียวค่ะ เรียนกับวีดีโอ ไม่เคยขาดเรียนสักครั้งค่ะ มุ่งมั่นสุดๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
3. Cambridge Preparation for the TOEFL test เล่มนี้กำลังทำอยู่ค่ะ ทำไปได้ 3 ชุดอยู่เลย เพราะต้องเรียนคอร์ส toefl ด้วย ทำแบบฝึกหัดที่อ.ให้ และต้องรีบไปสอบเลยพักไว้ก่อน เดี๋ยวจะเริ่มฝึกทำต่อแล้วค่ะ เล่มนี้สำหรับเรา reading ใกล้เคียงกับของจริงค่ะ ส่วน listening ก็ใกล้เคียงค่ะ speaking กับ writing เราไม่ได้ฝึกจากเล่มนี้ค่ะ แต่ไปฝึกจากโจทย์ที่อ.ให้ตอนเราไปเรียนพิเศษแล้วก็ app ใน ipad ค่ะ
วิธีการเหมือนเดิมค่ะ จดศัพท์ที่ไม่รู้ แล้วก็ฝึกฟังตามหัวข้อต่างๆบ่อยๆค่ะ
เล่มทำแบบฝึกหัดมีประมาณนี้ค่ะ เดี๋ยวจะมาต่อในส่วนของหนังสือท่องศัพท์และ applications ใน ipad และเว็บไซต์ต่างๆนะคะ รวมไปถึงตารางการฝึกของเราค่ะ ^^