จะพูดขอลาออกจากที่ทำงานยังไง? ถ้าเจ้านายคือพี่เขยและพี่สาวตัวเอง

ผมทำงานช่วยบริษัทพี่เขยและพี่สาวเวลาก็ล่วงเลยมา 5 ปีแล้วครับ รับเงินเดือนปกติธรรมดา อาศัยหาคอมมิชชั่นเพิ่ม ชีวิตก็อยู่ในกฎบริษัทเหมือนกัน แต่อาจจะมีพิเศษกว่าหน่อย เพราะถือว่าเป็นน้อง เงินเดือนไม่เคยได้เพิ่มครับ ทุกวันนี้อยากได้เพิ่มต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งมันเหนื่อยมาก เริ่มทำไม่ไหว ตอนนี้ผมก็มีแฟน เคยถูกพี่จับตาดูเรื่องส่วนตัว ผมเองก็ไม่ใช่เด็ก อายุก็ยี่สิบปลายๆแล้วครับ แต่ก็นะ แม่ผมฝากพี่สาวดูแล (เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน) พอผมมาทำงานได้ปีแรก ผมก็มีแฟน พี่สาวผมเลยจับตาดูเป็นพิเศษ และคอยพูดแย๊บๆว่า จะอะไรก็ช่าง ยังไม่อยากมีหลานตอนนี้ คือ เค้ากลัวผมทำผู้หญิงท้องครับแล้วจะไม่มีปัญญาเลี้ยงลูก ตอนนี้มันก็เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่ผมควรจะลาออกมาทำอะไรเป็นของตัวเอง ผมกับแฟนอยากจะแต่งงาน วางแผนไว้ว่าอีกราวๆ 1 ปี ถ้ายังไม่เลิกกัน เราจะแต่งงานกัน ผมเองก็ไม่ค่อยอยากให้พี่สาวมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของผมมาก แฟนผมซื้อแหวนให้ และอยากให้ใส่ที่นิ้วนางข้างซ้าย พี่สาวผมก็แขวะว่า ยังเด็กอยู่จะรีบแต่งงานไปไหน? (พี่สาวผมกว่าจะแต่งก็ปาไป 35 แล้วครับ) หัวโบราณมาก ผมก็ไม่ได้รีบหรอกครับ แต่กลัวจะมีลูกยาก ตกลงกับแฟนแล้วว่าจะมีลูกเลยหลังแต่งงาน แฟนก็กลัวจะมีลูกยากเพราะสุขภาพก็ไม่ค่อยดี ถ้าเริ่มเตรียมตัวตอนนี้ก็คงจะดีกว่ารอจน 35 แล้วค่อยมีลูก ตอนนั้นก็คงจะยากมาก แล้วนี่ผมจะขอลาออกไปด้วยเหตุผล จะไปทำธุรกิจตัวเองแล้วแต่งงาน จริงๆมันก็เป็นสิทธิของผมครับ แต่ทำไมน้ำมันท่วมปากจัง

นิสัยพี่สาวผมเป็นคนชอบนินทา ชอบแขวะน้องๆ เมื่อก่อนที่ผมยังไม่มาทำงานช่วย น้องทุกคนที่เคยเวียนมาทำงานด้วย โดนยุ่งเรื่องส่วนตัวหมด ไม่เคยโฟกัสเรื่องงาน ทุกคนเลยตบเท้าลาออก และจบด้วยการทะเลาะกัน ผมเป็นน้องผู้ชายคนเดียวที่มาทำงานกับพี่ ผมก็ยอมๆไป ไม่พูดโต้ตอบ แต่ผมก็เคยโดนนินทา อาอี๊ผมก็ตัวดีครับ ชอบเอาเรื่องผมไปพูดนินทาสนุกปากกับพี่สาวมาก แต่งเรื่องให้ผมดูแย่ ฟ้องแม่ผมว่า ผมติดผู้หญิง พาผู้หญิงเข้าบ้านมามีอะไรกัน พยายามพูดให้ผมดูไม่ดี ไม่รู้จะพูดทำไม พูดให้แม่ผมคิดมาก (อาอี๊รู้ทั้งรู้นะว่าแม่ผมเป็นคนคิดมาก) ยอมรับนะครับว่าติดแฟน แต่ไม่เคยพาเข้าบ้าน (แฟนผมรู้ว่าอะไรควรไม่ควร) มีอะไรกันจริงๆครับ แต่ไปทำกันที่อื่น คอนโดแฟนผมก็มี นินทาผมคนเดียวไม่พอ เริ่มลามปามมาว่าแฟนผมด้วย  นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากจะลาออก ผมเคยจะลาออกตั้งแต่ปีที่สองแล้ว แต่แม่ไม่อยากให้ลาออก อยากให้ผมฝึกปรือฝีมือกับพี่เขย พี่เขยทำงานเก่ง หยิบจับอะไรก็ทำมาค้าขึ้นหมด เค้าสอนงานผมหลายอย่าง ผมก็ยอมอดทนเพื่อแม่ เพื่อการเรียนรู้ของตัวเอง ตอนนี้ผมคิดว่าพี่เขยไม่มีอะไรจะสอนผมแล้ว มันนิ่งมานาน  ที่อาอี๊กับพี่สาวผมยุ่งเรื่องผมกับแฟน ก็เพราะแฟนผมไม่ใช่คนจีน และเป็นแค่ลูกแม่ค้า ไม่อยากรับมาเป็นสะใภ้ ทั้งๆที่แต่งงานแล้ว ผมเองก็ไม่ได้จะแต่งงานเมียเข้าบ้านตัวเองนะ ผมพาแฟนไปซื้อบ้านใหม่แน่นอน และคงไม่ให้แฟนมายุ่งจุ้นจ้านกับตระกูลญาติทางพ่อ ส่วนแม่ผมรับว่าที่สะใภ้คนนี้ได้และพอใจเป็นพิเศษกว่าแฟนเก่าผมที่ผ่านๆมาด้วย แม่เคยเล่าว่ากว่าอากงอาม่าจะยอมรับแม่ได้ก็นานมากเหมือนกัน แม่ไม่มีเชื้อจีน แต่มายอมรับได้ตอนแม่สอบบรรจุเป็นข้าราชการได้และรู้ว่าคุณตาเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ณ ตอนนั้น ตระกูลพ่อนี่ตลกจริงๆ ผมดีใจมากนะ ที่ตอนเด็กๆพ่อแต่งงานแล้วไปอยู่กับแม่กับครอบครัวทางแม่ โตขึ้นมาผมเลยไม่มีนิสัยประหลาดๆเหมือนญาติทางพ่อ แต่ก็แปลกนะมีพ่อกับน้องสาวพ่ออีกคนที่ไม่มีนิสัยแบบนี้ นอกนั้นเหมือนกันหมด ให้ตายสิ

....ผมควรจะพูดขอลาออกยังไงดีครับ? จะขอลาออกตอนเดือนตุลาคมนี้แล้ว พี่สาวผมคงไม่รั้งผมไว้หรอก แต่จะนินทาเอาสนุกปากว่าอยากมีเมียจนตัวสั่น แต่พี่เขยนี่สิ รั้งแน่นอน กลัวจะไม่มีมือซ้ายมาคุมพนักงานแทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่