เรื่องมันเกิดสมัยผมทำงานที่หาดใหญ่ เป็นโรงงานปลากระป๋อง ไม่ขอบอกล่ะกันว่าโรงงานอะไร
ซึ่งก็มีเพื่อนที่ไปทำงานด้วยกัน ก็ไม่เคยคิดล่ะครับว่าจะเจออะไรแปลกๆ ปกติของคนทำโรงงานก็ต้องมีการสลับกะ ทั้งกะกลางวัน กะกลางคืน
แล้วแผนกที่ผมทำจะพิเศษกว่าแผนกอื่นคือวันอาทิตย์ต้องมาทำงาน เพื่อที่วันจันทร์แผนกอื่นจะได้มีปลาไปขูด
เรื่องมันมาเกิดก็เพราะวันอาทิตย์ต้องมาทำงานนี่ล่ะครับ ต้องบอกเลยครับว่าวันอาทิตย์เป็นอะไรที่เงียบสุดๆเพราะมีแผนกผม แผนกเดียวที่มาทำงาน
ตอนแรกที่ทำงานก็อยู่ในไลน์การผลิตปกติ จนหัวหน้าเรียกให้ไปทำเอกสารในตึกอ๊อฟฟิตผมก็หนีบเอาเจ้าเพื่อสุดเลิฟไปด้วย ไปนั่งทำสองคนอุ่นใจ
เพราะบนอ๊อฟฟิตวันอาทิตย์จะเงียบมาก ปกติก็เคยขึ้นมาทำแบบอยู่คนเดียว เพราะจะเป็นห้องที่หัวหน้าอยู่กัน ต้องบอกก่อนว่าอ๊อฟฟิตที่ทำเอกสารจะแยกจากไลน์ผลิต ซึ่งต้องเดินไปด้านหลังไลน์ผลิตเพราะไลน์ผลิตอื่นๆเขาจะปิดหมด จะเปิดแค่ไลน์ที่ผมทำงานอยู่
แล้วบนอ๊อฟฟิตก็จะปิด ผมก็ต้องเอากุญแจมาเปิดเพื่อไขเข้าไปทำงานด้านใน ซึ่งต้องเข้ามาทางที่ผมเปิดอย่างเดียว ทางอื่นถูกปิดจนกว่าจะถึงเช้าวันจันทร์ของการทำงาน
ผมก็มากับเพื่อนสองคน ก็เข้ามานั่งทำเอกสารตามปกติ แบบที่เคยทำ ที่เคยได้รับมอบหมาย ก็ทำมาเรื่อยๆ หัวหน้าก็แวะเวียนขึ้นมาดูว่าทำไปถึงไหน
ซึ่งก็เข้ามาด้านหน้าที่ผมเปิดตามปกติ อธิบายเพิ่มอีกนิด ห้องที่ทำงานจะเป็นกระจกรอบด้าน ถ้าใครเดินผ่านต้องเห็นอย่างแน่นอน ในห้องก็จะมีประตูหลังซึ่งผมไม่ได้เปิด ก็ล็อคไว้อย่างนั้นเวลาหิวก็เดินไปชงกาแฟ เพราะมีกาแฟกับน้ำร้อนอยู่ข้างหลัง
ทุกอย่างปกติ ผมกับเพื่อนก็ทำงาน จนพักเที่ยงคืนก็ลงไปกินข้าวตามปกติถึงเวลาก็กลับมาทำงานตามปกติ ตี1 คือเวลากลับมาเข้างานตามปกติ พนักงานคนอื่นก็กลับไปในไลน์ผลิต ผมก็กลับมาที่อ๊อฟฟิต แน่นอนครับผมทำงานกับเพื่อนกันสองคนก็ต้องมีคุยเพื่อแก้ง่วงกันบ้าง ก็คุยไปทำงานไปตามปกติแบบที่เคยทำ
จนอยู่ๆขนาดกำลังทำงานไป อยู่ๆมีเสียงผู้หญิงหัวเราะตรงหลังห้องที่ทำงานตรงที่ชงกาแฟ ครั้งแรกผมนึกว่าผมหูฝาด
ไม่ใช่ครับ มีเสียงหัวเราะตามมาอีกครั้ง ตอนแรกผมนึกว่าผมได้ยินคนเดียว ก็เลยหันหน้าไปมองเพื่อนซึ่งทำงานติดกัน เพื่อนก็หันมามอง
พร้อมกับถามผมกลับว่า ได้ยินอย่างที่มันได้ยินรึเปล่า ผมก็พยักหน้าได้ยิน
คิดว่าเสียงจะหยุดแค่นั้น ก็มีเสียงหัวเราะของผู้หญิงแบบเดิมเป๊ะ ฮิ ฮิ ฮิ คือเสียงเหมือนแหลมๆสูงๆ ไอ้เพื่อนผมก็คิดว่ามีใครมาแกล้ง
ก็เลยตะโกนถามเฮ้ย...ใครว่ะ เสียงก็เงียบ ด้วยความสงสัยเลยครับ ลุกกับเพื่อนเดินไปที่ต้นเสียงทั้งสองคน เพราะคิดว่ามีคนแกล้ง
ว่างเปล่า คือสิ่งที่เจอไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เดินไปบิดที่ประตูหลังก็ยังล๊อค ก็ได้แต่สงสัยกับเพื่อนว่าเสียงอะไร มันมายังไง เดินออกไปดูข้างนอกตรงทางเดินก็ไม่มีใคร กลับมาในห้องก็ได้แต่นั่งคุยถึงสิ่งที่เจอว่าเสียงมันมายังไง เพราะไม่มีคนอยู่ข้างหลังที่ชงกาแฟเลย
ขนาดคุยกับเพื่อนอยู่ เพื่อนผมมันเหงื่อตกหน้าซีด ก็เลยถามเป็นอะไร มันก็ก้มหน้าทำงานไม่มองข้างหลังผม ซึ่งเป็นแผนกฆ่าเชื้อที่อยู่ข้างล่าง ผมอยู่ชั้น 2
เพื่อนมันก็บอกเมื่อกี้เห็นใบหน้าผู้หญิงอยู่ข้างหลังกระจก ตรงข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะอ๊อฟฟิตผมเป็นชั้น 2 แล้วแผนกฆ่าเชื้ออยู่ข้างล่างไม่มีที่ปีนขึ้นมาแน่ ได้ยินเท่านั้นผมก็ซีดสิครับ เจอสิ่งเร้นลับมาอยู่ข้างหลังไม่กล้าแม้แต่ขยับ จนเพื่อนผมมันชายตามองบอกไม่เห็นแล้ว
แล้วอีกครั้งที่เต็มๆตาทั้งสองคนคือตรงทางเดิน คือเห็นจะจะ ว่ามีคนเดินผ่านไปแบบเร็วมากๆ ผมก็ออกไปดูกับเพื่อนเพราะคิดว่าพนักงานจะวิ่งไปไหน
ไม่มีครับ มีแต่ความมืด พร้อมกับประตูที่ล๊อค ไปแผนกอื่นไม่ได้ ก็คืนนั้นก็เลยคุยกับเพื่อนทั้งคืนเลย งานการแทบไม่เป็นอันทำ พอช่วงเช้าเพื่อนผมมันรีบไปถามพนักงานที่อยู่มานานบอกข้างบนมีเรื่องอะไรไหม
พนักงานถามกลับทันทีว่าเจอด้วยเหรอ คือเขาก็เล่าให้ฟังว่ามีคนเคยเจอแต่ไม่รู้ว่าใคร อย่างเก่งก็แว๊บไป แว๊บมา ว่ามีคนอยู่ข้างบน
จนผมกับเพื่อนนี่แหละคือสองคนแรกที่ได้ยินเสียง จนทุกวันนี้ผมกับเพื่อนยังงงอยู่เลยว่าเสียงหัวเราะแบบชัดๆขนาดนั้น มันมาได้ยังไง
ขออภัยด้วยนะครับ เล่าไม่ค่อยเก่ง แต่มันคือประสบการณ์ที่ทุกวันนี้ยังจำไม่ลืม ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร มายังไง
เคยไหมที่คุณได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ
ซึ่งก็มีเพื่อนที่ไปทำงานด้วยกัน ก็ไม่เคยคิดล่ะครับว่าจะเจออะไรแปลกๆ ปกติของคนทำโรงงานก็ต้องมีการสลับกะ ทั้งกะกลางวัน กะกลางคืน
แล้วแผนกที่ผมทำจะพิเศษกว่าแผนกอื่นคือวันอาทิตย์ต้องมาทำงาน เพื่อที่วันจันทร์แผนกอื่นจะได้มีปลาไปขูด
เรื่องมันมาเกิดก็เพราะวันอาทิตย์ต้องมาทำงานนี่ล่ะครับ ต้องบอกเลยครับว่าวันอาทิตย์เป็นอะไรที่เงียบสุดๆเพราะมีแผนกผม แผนกเดียวที่มาทำงาน
ตอนแรกที่ทำงานก็อยู่ในไลน์การผลิตปกติ จนหัวหน้าเรียกให้ไปทำเอกสารในตึกอ๊อฟฟิตผมก็หนีบเอาเจ้าเพื่อสุดเลิฟไปด้วย ไปนั่งทำสองคนอุ่นใจ
เพราะบนอ๊อฟฟิตวันอาทิตย์จะเงียบมาก ปกติก็เคยขึ้นมาทำแบบอยู่คนเดียว เพราะจะเป็นห้องที่หัวหน้าอยู่กัน ต้องบอกก่อนว่าอ๊อฟฟิตที่ทำเอกสารจะแยกจากไลน์ผลิต ซึ่งต้องเดินไปด้านหลังไลน์ผลิตเพราะไลน์ผลิตอื่นๆเขาจะปิดหมด จะเปิดแค่ไลน์ที่ผมทำงานอยู่
แล้วบนอ๊อฟฟิตก็จะปิด ผมก็ต้องเอากุญแจมาเปิดเพื่อไขเข้าไปทำงานด้านใน ซึ่งต้องเข้ามาทางที่ผมเปิดอย่างเดียว ทางอื่นถูกปิดจนกว่าจะถึงเช้าวันจันทร์ของการทำงาน
ผมก็มากับเพื่อนสองคน ก็เข้ามานั่งทำเอกสารตามปกติ แบบที่เคยทำ ที่เคยได้รับมอบหมาย ก็ทำมาเรื่อยๆ หัวหน้าก็แวะเวียนขึ้นมาดูว่าทำไปถึงไหน
ซึ่งก็เข้ามาด้านหน้าที่ผมเปิดตามปกติ อธิบายเพิ่มอีกนิด ห้องที่ทำงานจะเป็นกระจกรอบด้าน ถ้าใครเดินผ่านต้องเห็นอย่างแน่นอน ในห้องก็จะมีประตูหลังซึ่งผมไม่ได้เปิด ก็ล็อคไว้อย่างนั้นเวลาหิวก็เดินไปชงกาแฟ เพราะมีกาแฟกับน้ำร้อนอยู่ข้างหลัง
ทุกอย่างปกติ ผมกับเพื่อนก็ทำงาน จนพักเที่ยงคืนก็ลงไปกินข้าวตามปกติถึงเวลาก็กลับมาทำงานตามปกติ ตี1 คือเวลากลับมาเข้างานตามปกติ พนักงานคนอื่นก็กลับไปในไลน์ผลิต ผมก็กลับมาที่อ๊อฟฟิต แน่นอนครับผมทำงานกับเพื่อนกันสองคนก็ต้องมีคุยเพื่อแก้ง่วงกันบ้าง ก็คุยไปทำงานไปตามปกติแบบที่เคยทำ
จนอยู่ๆขนาดกำลังทำงานไป อยู่ๆมีเสียงผู้หญิงหัวเราะตรงหลังห้องที่ทำงานตรงที่ชงกาแฟ ครั้งแรกผมนึกว่าผมหูฝาด
ไม่ใช่ครับ มีเสียงหัวเราะตามมาอีกครั้ง ตอนแรกผมนึกว่าผมได้ยินคนเดียว ก็เลยหันหน้าไปมองเพื่อนซึ่งทำงานติดกัน เพื่อนก็หันมามอง
พร้อมกับถามผมกลับว่า ได้ยินอย่างที่มันได้ยินรึเปล่า ผมก็พยักหน้าได้ยิน
คิดว่าเสียงจะหยุดแค่นั้น ก็มีเสียงหัวเราะของผู้หญิงแบบเดิมเป๊ะ ฮิ ฮิ ฮิ คือเสียงเหมือนแหลมๆสูงๆ ไอ้เพื่อนผมก็คิดว่ามีใครมาแกล้ง
ก็เลยตะโกนถามเฮ้ย...ใครว่ะ เสียงก็เงียบ ด้วยความสงสัยเลยครับ ลุกกับเพื่อนเดินไปที่ต้นเสียงทั้งสองคน เพราะคิดว่ามีคนแกล้ง
ว่างเปล่า คือสิ่งที่เจอไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เดินไปบิดที่ประตูหลังก็ยังล๊อค ก็ได้แต่สงสัยกับเพื่อนว่าเสียงอะไร มันมายังไง เดินออกไปดูข้างนอกตรงทางเดินก็ไม่มีใคร กลับมาในห้องก็ได้แต่นั่งคุยถึงสิ่งที่เจอว่าเสียงมันมายังไง เพราะไม่มีคนอยู่ข้างหลังที่ชงกาแฟเลย
ขนาดคุยกับเพื่อนอยู่ เพื่อนผมมันเหงื่อตกหน้าซีด ก็เลยถามเป็นอะไร มันก็ก้มหน้าทำงานไม่มองข้างหลังผม ซึ่งเป็นแผนกฆ่าเชื้อที่อยู่ข้างล่าง ผมอยู่ชั้น 2
เพื่อนมันก็บอกเมื่อกี้เห็นใบหน้าผู้หญิงอยู่ข้างหลังกระจก ตรงข้างหลังที่ผมนั่งอยู่ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะอ๊อฟฟิตผมเป็นชั้น 2 แล้วแผนกฆ่าเชื้ออยู่ข้างล่างไม่มีที่ปีนขึ้นมาแน่ ได้ยินเท่านั้นผมก็ซีดสิครับ เจอสิ่งเร้นลับมาอยู่ข้างหลังไม่กล้าแม้แต่ขยับ จนเพื่อนผมมันชายตามองบอกไม่เห็นแล้ว
แล้วอีกครั้งที่เต็มๆตาทั้งสองคนคือตรงทางเดิน คือเห็นจะจะ ว่ามีคนเดินผ่านไปแบบเร็วมากๆ ผมก็ออกไปดูกับเพื่อนเพราะคิดว่าพนักงานจะวิ่งไปไหน
ไม่มีครับ มีแต่ความมืด พร้อมกับประตูที่ล๊อค ไปแผนกอื่นไม่ได้ ก็คืนนั้นก็เลยคุยกับเพื่อนทั้งคืนเลย งานการแทบไม่เป็นอันทำ พอช่วงเช้าเพื่อนผมมันรีบไปถามพนักงานที่อยู่มานานบอกข้างบนมีเรื่องอะไรไหม
พนักงานถามกลับทันทีว่าเจอด้วยเหรอ คือเขาก็เล่าให้ฟังว่ามีคนเคยเจอแต่ไม่รู้ว่าใคร อย่างเก่งก็แว๊บไป แว๊บมา ว่ามีคนอยู่ข้างบน
จนผมกับเพื่อนนี่แหละคือสองคนแรกที่ได้ยินเสียง จนทุกวันนี้ผมกับเพื่อนยังงงอยู่เลยว่าเสียงหัวเราะแบบชัดๆขนาดนั้น มันมาได้ยังไง
ขออภัยด้วยนะครับ เล่าไม่ค่อยเก่ง แต่มันคือประสบการณ์ที่ทุกวันนี้ยังจำไม่ลืม ว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร มายังไง