"เมื่อเขาไม่ให้ฉันไปต่อ...ทรานไซบีเรียน"
ถ้าคุณกำลังมองหาทริปที่สมบูรณ์แบบเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ บอกเลยว่าไม่ใช่กระทู้นี้แน่ ผิดแผน ผิดพลาด แป๊กแล้วแป๊กอีก ฉันจะไม่ทำผิดซ้ำสอง เพราะมันจะมีครั้งสาม สี่ ห้า อย่างแน่!
part จบของทริป Penang Kota Kinabalu Malaysia ,Beijing China ,UlaanBaatar Mongolia ,Russia
ตามแผนที่วางไว้
Beijing China
ลงเครื่องตี1 กว่าๆ นั่งสตาร์บัคถึงเช้า นั่งแอร์พอตเทรนเข้าเมือง ที่พักยังเชคอินไม่ได้ ฝากกระเป๋าไว้ออกไปซื้อตั๋วรถไฟ เดินวนอยู่สองชม ตั๋วรถไฟถูกย้ายไปให้กับ บริษัทนอกเป็นตัวแทนจำหน่าย สนนราคาที่1248 หยวน กลับมาที่พัก ซักผ้า อาบน้ำ ต้มไข่ต่อ เสบียงสำหรับทะเลทรายโกบี มีดาดฟ้าชิลๆ ให้ตากผ้า! ไม่ใช่ ให้มีตติ้งพบปะผู้คน ที่พักอยู่ย่าน Hutong ย่านบ้านเก่า ประมานนั้น มองจากมุมดาดฟ้าที่พักให้อารมณ์ดูหนังจีนกำลังภายใน ที่มีจอมยุธ กระโดดจากหลังคาหนึ่งไปอีกหลังคา
ความโชคดีก็มาเยือน เพื่อนรวมห้องสาวแคนนาดา และหนุ่มมะกัน จะไปรถไฟทรานเหมือนกัน วันพรุ่งนี้เหมือนกัน โบกี้เดียวกัน เห้ยยยบังเอิญไปปะ พอคุยเรื่องตารางที่วางไว้ คล้ายกันจน นี้ทริปเดียวกันเลยนะเนี้ย เย้ๆในที่สุดสิ่งที่กังวลคือ ทริปโกบี ที่ค่าใช้จ่าย มหาโหด ก็มีคนรวมแชร์แล้ว
Beijing Day2
ตื่นเช้า รถไฟ08:05 น. หนุ่มมะกันก็ถามอยู่นั่นแหละว่า “ตื่นเต้นไหม?” คงเดาว่า เยนอายุ 20ต้นๆหลังจากคำถาม ยังเรียนอยู่ไหม? และอีกหลายคำถาม เลยชิงตอบไปเลยว่า “ป้า27แล้วจ้ะหนุ่ม 555”
บัวที่ดาดฟ้าที่พัก
พอไปถึงรถไฟ ฮีก็หันมาพูดว่า “เก่ง!!” เยนก็ “ฮะ? อะไรนะ?” เขาก็บอกว่า “ภาษาไทยไง good means เก่ง” เยนก็ “อ้าว เคยมาเมืองไทยด้วย?”ฮีบอกว่า “เคยมาสองอาทิตย์ เมื่อสองปีที่แล้ว พี่สาวสอนหนังสืออยู่ @$^^*”“อะไรนะสอนอยู่ที่ไหนนะ?” แล้วมันก็พยายามออกเสียง ซึ่งมันไม่ใช่สถานที่ในเมืองไทยแน่ สักพักเปิดรูปโชว์ อ้อ สังขละบุรี คือแมร่งยากจริงสำหรับฝรั่งที่จะพูดชื่อนี้ สอนอยู่สักพัก เยนบอก “ไม่ต้องละ พูดให้ตายคนไทยก็ไม่รู้หรอกว่าที่ไหน 555” เยนก็ชิล อยู่นอกห้องถ่ายรูปไปเรื่อยอ้อเพื่อนรวมห้องของเยนเป็นสองหนุ่มสเปน (ในหนึ่งห้องมี4เตียงเป็นสองชั้น)
รอเวลาล้อหมุนที่ชานชลา
หนุ่มออสเตรีย นศ สถาปัตย์ มหาลัยในเซียงไฮ้ นั่งรถไฟกลับบ้าน เป็นทริปจบการศึกษาของเขา
วิวด้านนอก ก็แดดออกสลับฝนตก วิวสวยดี มีทั้งแม่น้ำ ภูเขา ท้องทุ่ง ที่ราบ
เย็นๆ เขาก็มาชวนไปเล่นไพ่ที่ห้องอาหาร ตู้เสบียง ฝรั่งสอนเล่นโปกเกอร์จีน คือแค่ไพ่ปกติก็สกิลต่ำสุดๆ ละ เขาบอกว่า เป็นเรื่องของการวางแผน บลาๆๆ ฮเล่นกันหลายตาอยู่ ฮีก็ชนะอยู่คนเดียว เยนก็เอ๋อตลอด ส่วนสาวแคนาดาก็พยายามจะชนะ พอตาสุดท้ายนางชนะ นางก็บอก “เลิก ฉันชนะแล้ว” จริงๆ เลิกเล่นไพ่ก็กลับมาที่โบกี้กัน เขาชวนเยนไปนั่งในห้องด้วย ทอปปิคการคุย สกี ทอปปิคนี้ฆ่ากันเลยไหม แคนาดา เยอรมัน อเมริกา ใช่สิ มีหิมะนี่ มิเป็นไร ฟังค่ะฟัง พอเกิดแอร์แกป เยนก็มาฉันสอนภาษาจีน กล้ามากค่ะเยน จริงๆเขาบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาสนใจ ตัวเขียน จีน
หนุ่มมะกันชวนสาวแคนาเดียนเรียนด้วย นางบอก ไม่! ฉันกำลังจะ ไปมองโกล จะมานั่งเรียนภาษาจีนทำไม โอ๊ยยยย ตบหน้ากันอีกแล้ว พี่กันก็ อึ้งๆ และเรียนกันต่อ สักพักฮีง่วงนอน เชิญค่ะ เยนก็ไปนั่งชิลของเยนเรื่อยเปื่อย หนุ่มสเปนเพื่อนร่วมห้อง บอกว่า คุณเข้าไปข้างในได้นะผมไม่กัด(หล่อนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูป)
ช่วงนี้เป็นซัมเมอร์ 2ทุ่มแล้วยังไม่มึดเลย
ถึงชายเเดนจีน ด้านเออเหลียน งานก็เข้าถูกเรียกตัวมาสอบอีกแล้วครับท่าน แต่คราวนี้เพิ่ม มาอีก1ข้อหา พาสปอร์ตชำรุด ฉีกขาด อ้าว ขาดตอนไหนฟะ “ทำไมคุณ เข้าจีนมาวันเดียวตลอด” “อ้าว ก็มาต่อรถไฟ ต่อเครื่อง ก็แวะเที่ยวไง บางทีก็เข้ามาทางฮ่องกงไง นู้นนี้นั้น” ดึงพาสปอร์ตจากที่ขาดครึ่ง จนเหลือไม่ถึงสองเซน แถมบอกว่า “ฉันให้คุณไป มองโกลก็ไม่ให้คุณเข้าประเทศหรอก พาสปอร์ตขาด” คือแบบ มันเกินคำว่าขาดมาแล้วตอนนี้ มันแบบหลุดเลยดีกว่า ทำใจ และลุ้นว่าจะรอดไหม ที่เออเหลียนต้องรอเปลี่ยนล้อรถไฟขนาดรางที่มองโกลกับจีนไม่เท่ากัน เกือบ2ชม
พอมาถึงด้านของมองโกล ตอนเขามาเก็บพาสปอร์ตเก็บไปแต่โดยดี ไม่ทักเรื่องพาสปอร์ตอะไร ลุงพนักงานบนรถไฟที่รู้ว่าเรามีปัญหา ยังหันมายิ้ม แบบว่าเย้ ได้ไปต่อละ แต่มันไม่ใช่น่ะสิ สักพัก ตม. ขึ้นมาตาม บอกเอาของลงมาให้หมด คุณอาจไม่ได้ไปต่อ อ้าว ลุงพนักงานรถไฟก็มาถาม ตม.ว่า ถึงขั้นไปต่อไม่ได้เลยหรือ ฮือๆ สุดท้าย ตม.ก็ไม่ให้ผ่าน บอกว่า “คืนนี้คุณต้องนอนที่นี่ พรุ่งนี้ผมจะส่งกลับจีน” “ฉันจะกลับได้ยังไง วีซ่าฉันออกมาแล้ว” “นั่นเรื่องของ ตม.จีน หน้าที่ของผมคือให้คุณเข้าประเทศไม่ได้ และต้องส่งตัวคุณกลับไปประเทศสุดท้ายที่คุณออกมา พรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่งคุณที่จุดเช็กพอยต์ กูดไนท์” คือให้เยนนอนในห้องประชุม คือแบบเห้ย ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ ไม่ฟังกรูเลยปิดประตูปึง เอาวะ...นอนก็นอน พรุ่งนี้คอยว่ากันใหม่
รูปสุดท้ายจากรถไฟก่อนถูก kick out
“เออเหลียน" เมืองในความทรงจำ บอกว่าเช้า ก็มาเช้าของจริงเว้ย มาชุดธรรมดา เสื้อโปโล รองเท้าวิ่ง กางเกงขาสั้น คือบอกเลยว่า ยังคงไม่เปลี่ยนใจ กับหนุ่มชาตินี้ ดิบเถื่อนได้ใจ เป็นอะไรที่ดูเท่มาก อารมณ์ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน 1คนขับรถ 1บิ๊กบอส และเจ้าหน้าที่ตม.ผญ ที่ใส่เครื่องแบบเพียงคนเดียวบนรถ ระยะทางราวๆ15นาที รถสามารถผ่านได้ทุกด่าน พอถึงตึกที่เป็น ตม. พาเดินผ่าน ตม. แบบ ฟาสต์เลน ไม่ต่อแถว อ้อมหลังตึก ทะลุด้านนั้นนี้ จับยัดขึ้นรถบัส
คือทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง10นาที ชีวิตเยนก็ถูกฝากไว้ในมือคนขับรถบัส ยังมีหน้าวิ่งไปบอก “เฮ้ คุณไม่มี เอกสารข้อมูลอะไรให้ฉันถือไปเลยรึไง”
“เขาบอกไม่ต้อง พาสปอร์ตคุณอยู่ที่คนขับรถแล้ว เดียวเขาไปส่งคุณถึง ตม.จีน” “เออะ!!” เอากับมันสิ
ทะเลทรายโกบี ที่ฉันอยากมา อยู่แค่เอื้อม มุมจากบัสที่กำลังจะข้ามชายแดน
พอมาถึง ตม.จีน คนขับรถก็จัดการคุยให้ ก็เดินวนๆ ตาม ตม.จีนไป และตกไปอยู่ในการดูแลของ ตม. หน้าหยก โอ๊ยยยย ถ้าไม่เห็นว่ามันทำให้เสียเวลา พี่อยากจะมีปัญหากับ ตม.เออเหลียน ฮีก็ชวนคุยนู้นนี้ และพามาส่งรถบัส และฝากรถบัสให้ส่งเราให้ถึงปักกิ่ง แบบน้ำตาจิไหล คือ ตั้งแต่คนขับรถบัส แม่บ้าน ตม. ผู้คนที่พบเจอ พนักงาน ตม. ทุกคนคือแบบพยายามช่วยทุกทาง บางคนเดินมาพูดคุยด้วย บางคนช่วยถือของ ลุกให้นั่ง(สภาพเราคงเยินมาก)ร้านขายซิมการ์ด ไม่มีซิมท่องเที่ยวขาย เราบอกว่าเราต้องการติดต่อกับเพื่อน เขาก็เปิด wi-fiให้ พาไปแลกเงิน คือแบบซาบซึ้งจริงๆ
"คนเออเหลียน พระคุณนี้จะไม่ลืม" รถบัสออกจากเออเหลียนราวบ่ายสามโมง วิ่งผ่านเส้นทางเดียววิวเดียวกับรถไฟ ถึงปักกิ่งราวตีหนึ่ง เราตื่นมา อ้าวทำไมไม่ลงรถกัน ทุกคนนอนกันต่อตามปกติ อ้าวหรือวะ เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม นอนก็นอน ตีสามกว่าๆ เริ่มทยอยกันลงจากรถ ก็ลุก เห้ย ไม่อยากเชื่อสายตา ทุกเตียง (ที่นั่งเป็นเตียงนอน) พับผ้าห่มเรียบร้อยเหมือนตอนขึ้นรถมา ตลอดการเดินทาง10 ชม. รถสงบมากไม่มีการคุยกันช้งเช้งเสียงดังใดๆ ทั้งสิ้น ลงรถ ไปเข้าห้องน้ำระหว่างทาง ขึ้นมาเอาทิชชูเปียกเช็ดเท้าก่อนนอน แล้วเยนก็เพิ่งมารู้ว่า เออเหลียนคือ inner Mongolia นี่สินะลูกหลานท่าน ข่านของจริง เยนก็เดินตามสาวเออเหลียนเข้าไปที่ลอบบี้โรงแรม แล้วนั่งรอฟ้าสว่าง เดินมานั่งต่อที่เคเอฟซี ล้างหน้าแปรงฟัน รอเวลาสถานทูตเปิด ค่อยออกเดินทาง
9โมงสถานทูตเปิด ก็เจอน้องๆ ที่มาฝึกงานที่สถานทูตจีน น้องก็ ช่วยๆ สักพักเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องนี้ก็มาคุยๆ บอก “ได้เลย ทำพาสปอร์ตชั่วคราวได้ทันทีเลย” โอย ตาเป็นประกาย วิ้งๆ ฉันจะกลับไปเออเหลียนคืนนี้เลย พอคนที่มีอำนาจในการเซ็นเรื่องนี้มา พี่เขาบอกว่า “พาสปอร์ตน่ะได้เลย แต่คุณต้องทำวีซ่าจีนใหม่ 5-7วัน” อ๊าก ฝันสลาย “ผมว่า คุณกลับไปตั้งต้นที่ไทยดีกว่าครับ เพราะพาสปอร์ตชั่วคราว มันใช้เข้าไม่ได้ทุกประเทศ
เพราะถ้าคุณถูกปฎิเสธการเข้าประเทศอีกมันคงไม่ดีแน่ ผมว่านะ จากที่ดูพาสปอร์ตคุณแล้ว ถึงที่หมายช้าไปนิดหน่อย คงไม่ทำให้ทริปรอบโลกคุณไม่ครบหรอก ใช้ชีวิตคุ้มดีครับ พาสปอร์ต 2ปี 30หน้า” ฮึๆ นี่ชมหรืออะไรเนี่ย ยังไงก็จะไปต่อ ทางนี้เขาก็ช่วยสุดๆ ออกเอกสารนู่นนี่ให้เพื่อให้ทัน เพราะในกรณีนี้เยนอาจได้วีซ่าในวันเสาร์ สามวันทำการ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ พอเยนไปที่ขอวีซ่าจีน เขาบอกไม่จำเป็นต้องขอใหม่ คุณใช้ได้จนมันหมดอายุ อ้าวววว ดีใจๆ จะไปเออเหลียน แต่เดียวนะเยน พักก่อนไหม ไม่อาบน้ำมาสามวันแล้ว เตียงนอนไม่สัมผัสมากี่วันแล้ว เอาวะ ค้างปักกิ่งสักคืน พอกลับไปที่พักที่จองไว้ แทบจะเป็นลม บายดีกว่า หาที่อยู่ใหม่ พอไปเช็กอิน ปัญหามาแล้วครัช วีซ่ากับพาสปอร์ตไม่ตรงกัน บลาๆ ไม่รับเช็กอิน โหยยย นั่นแบบ โอเคฉันจะกลับบ้าน อาบน้ำ นอนพักแป๊บ และเดินออกหาอะไรกิน การท่องเที่ยวมันต้องแบบนี้สิ กินโยเกิร์ต กินบะหมี่มีด กินยำ กินแตงโม ทั้งหมดนั้นกินคนเดียว กินชดเชย
4วันที่มาถึงนี่มัวแต่คิดมุ่งหน้าจะไปๆ ให้ได้ จนลืมเรื่องระหว่างทาง เรื่องราวรอบๆ ตัวเรา
ขอบคุณการเดินทางครั้งนี้อีกครั้ง บทเรียนที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอบคุณ Royal Thai embassy Beijing คุณอิมที่ช่วยสุดๆ สุดจนเลยก็ยังช่วย ขอบคุณ คุณพี่ต่ง ที่เซ็นอนุมัติพาสปอร์ตชั่วคร่าวให้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่สุภาพที่สุดเท่าที่เคยเจอมา กล่าวคำขอโทษทุกครั้งที่จะพูดหรือถามอะไร ขอบคุณอาอี๊ที่เอาน้ำมาให้ และค่อยถามว่ากินอะไรยัง ตอนจะกลับมีการบอกว่ากลับมาอีกนะ มาแน่ค่ะ แต่ไม่มาพร้อมปัญหาอีกแล้วค่ะ 555 ขอบคุณน้องฝึกงานเด็กธรรมศาสตร์ทั้งสอง ที่ให้พาสเวิร์ด wi-fi และโดนลุงนั้นดุ ขอโทษด้วย ขอบคุณบุ้งและเพื่อนๆ ที่ให้ข้อมูลต่างๆ สำหรับการจองตั๋วกลับ
ยัง เรื่องยังไม่จบ ตัดสินใจว่าจะกลับไทยแน่ สายๆอีกวันก็มาสนามบินดูไฟล์ทเวลาหมาะ 5โมงเย็น ไฟล์ทคาเธ่ ทรานสิทฮองกง ถึงไทยเที่ยงคืน แต่!! ไฟล์ทดีเลย์จร้าา มาไม่ทันทรานสิทกลับไทย ทางคาเธ่ให้เรานอนพักหนึ่งคืนเราก็โวยวายไม่ได้ค็ณต้องหาไฟล์ให้กลับคืนนี้ฉันมีธุระเช้า เขาบอกไม่มีไฟล์ทมาไทยดึกแล้ว ให้ไปเลือก รร งานก็งอกมาอีก ฮองกงไม่ให้พาสปอร์ตชั่วคร่าวเข้า เดินมาเคาน์เตอร์ ทรานสิท คาเธ่ พนักงานบอกงั้นคุณก็เข้าไปรอที่เกทยันเช้า เห้ยยไม่ได้นะคุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยรึ นางก็บลาๆและทำหน้าดูถูกปิดประโยคด้วย ยูอันเดอสแตนมิ๊ เลยจัดภาษาอังกฤษคำที่คิดว่าสำเนียงเปะสุดไป ฟ๊าคค
พาสปอร์ตชั่วคราว
รอไฟล์ท
***มีซ่อมทริปแน่ กย-ตค ใครไปบ้าง
**Iphone4s,Cannon40D,GoProถ่ายภาพ
*Part Penagสุดชิลและ1day climb Kinabalu Mt 4095 m. พิมพ์เสรจรอภาพแปป
หมื่นคำไม่พอ ต่อในคอมเมนท
Trans Siberian "เมื่อเขาไม่ให้ฉันไปต่อ...ทรานไซบีเรียน
ถ้าคุณกำลังมองหาทริปที่สมบูรณ์แบบเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ บอกเลยว่าไม่ใช่กระทู้นี้แน่ ผิดแผน ผิดพลาด แป๊กแล้วแป๊กอีก ฉันจะไม่ทำผิดซ้ำสอง เพราะมันจะมีครั้งสาม สี่ ห้า อย่างแน่!
part จบของทริป Penang Kota Kinabalu Malaysia ,Beijing China ,UlaanBaatar Mongolia ,Russia
ตามแผนที่วางไว้
Beijing China
ลงเครื่องตี1 กว่าๆ นั่งสตาร์บัคถึงเช้า นั่งแอร์พอตเทรนเข้าเมือง ที่พักยังเชคอินไม่ได้ ฝากกระเป๋าไว้ออกไปซื้อตั๋วรถไฟ เดินวนอยู่สองชม ตั๋วรถไฟถูกย้ายไปให้กับ บริษัทนอกเป็นตัวแทนจำหน่าย สนนราคาที่1248 หยวน กลับมาที่พัก ซักผ้า อาบน้ำ ต้มไข่ต่อ เสบียงสำหรับทะเลทรายโกบี มีดาดฟ้าชิลๆ ให้ตากผ้า! ไม่ใช่ ให้มีตติ้งพบปะผู้คน ที่พักอยู่ย่าน Hutong ย่านบ้านเก่า ประมานนั้น มองจากมุมดาดฟ้าที่พักให้อารมณ์ดูหนังจีนกำลังภายใน ที่มีจอมยุธ กระโดดจากหลังคาหนึ่งไปอีกหลังคา
ความโชคดีก็มาเยือน เพื่อนรวมห้องสาวแคนนาดา และหนุ่มมะกัน จะไปรถไฟทรานเหมือนกัน วันพรุ่งนี้เหมือนกัน โบกี้เดียวกัน เห้ยยยบังเอิญไปปะ พอคุยเรื่องตารางที่วางไว้ คล้ายกันจน นี้ทริปเดียวกันเลยนะเนี้ย เย้ๆในที่สุดสิ่งที่กังวลคือ ทริปโกบี ที่ค่าใช้จ่าย มหาโหด ก็มีคนรวมแชร์แล้ว
Beijing Day2
ตื่นเช้า รถไฟ08:05 น. หนุ่มมะกันก็ถามอยู่นั่นแหละว่า “ตื่นเต้นไหม?” คงเดาว่า เยนอายุ 20ต้นๆหลังจากคำถาม ยังเรียนอยู่ไหม? และอีกหลายคำถาม เลยชิงตอบไปเลยว่า “ป้า27แล้วจ้ะหนุ่ม 555”
บัวที่ดาดฟ้าที่พัก
พอไปถึงรถไฟ ฮีก็หันมาพูดว่า “เก่ง!!” เยนก็ “ฮะ? อะไรนะ?” เขาก็บอกว่า “ภาษาไทยไง good means เก่ง” เยนก็ “อ้าว เคยมาเมืองไทยด้วย?”ฮีบอกว่า “เคยมาสองอาทิตย์ เมื่อสองปีที่แล้ว พี่สาวสอนหนังสืออยู่ @$^^*”“อะไรนะสอนอยู่ที่ไหนนะ?” แล้วมันก็พยายามออกเสียง ซึ่งมันไม่ใช่สถานที่ในเมืองไทยแน่ สักพักเปิดรูปโชว์ อ้อ สังขละบุรี คือแมร่งยากจริงสำหรับฝรั่งที่จะพูดชื่อนี้ สอนอยู่สักพัก เยนบอก “ไม่ต้องละ พูดให้ตายคนไทยก็ไม่รู้หรอกว่าที่ไหน 555” เยนก็ชิล อยู่นอกห้องถ่ายรูปไปเรื่อยอ้อเพื่อนรวมห้องของเยนเป็นสองหนุ่มสเปน (ในหนึ่งห้องมี4เตียงเป็นสองชั้น)
รอเวลาล้อหมุนที่ชานชลา
หนุ่มออสเตรีย นศ สถาปัตย์ มหาลัยในเซียงไฮ้ นั่งรถไฟกลับบ้าน เป็นทริปจบการศึกษาของเขา
วิวด้านนอก ก็แดดออกสลับฝนตก วิวสวยดี มีทั้งแม่น้ำ ภูเขา ท้องทุ่ง ที่ราบ
เย็นๆ เขาก็มาชวนไปเล่นไพ่ที่ห้องอาหาร ตู้เสบียง ฝรั่งสอนเล่นโปกเกอร์จีน คือแค่ไพ่ปกติก็สกิลต่ำสุดๆ ละ เขาบอกว่า เป็นเรื่องของการวางแผน บลาๆๆ ฮเล่นกันหลายตาอยู่ ฮีก็ชนะอยู่คนเดียว เยนก็เอ๋อตลอด ส่วนสาวแคนาดาก็พยายามจะชนะ พอตาสุดท้ายนางชนะ นางก็บอก “เลิก ฉันชนะแล้ว” จริงๆ เลิกเล่นไพ่ก็กลับมาที่โบกี้กัน เขาชวนเยนไปนั่งในห้องด้วย ทอปปิคการคุย สกี ทอปปิคนี้ฆ่ากันเลยไหม แคนาดา เยอรมัน อเมริกา ใช่สิ มีหิมะนี่ มิเป็นไร ฟังค่ะฟัง พอเกิดแอร์แกป เยนก็มาฉันสอนภาษาจีน กล้ามากค่ะเยน จริงๆเขาบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาสนใจ ตัวเขียน จีน
หนุ่มมะกันชวนสาวแคนาเดียนเรียนด้วย นางบอก ไม่! ฉันกำลังจะ ไปมองโกล จะมานั่งเรียนภาษาจีนทำไม โอ๊ยยยย ตบหน้ากันอีกแล้ว พี่กันก็ อึ้งๆ และเรียนกันต่อ สักพักฮีง่วงนอน เชิญค่ะ เยนก็ไปนั่งชิลของเยนเรื่อยเปื่อย หนุ่มสเปนเพื่อนร่วมห้อง บอกว่า คุณเข้าไปข้างในได้นะผมไม่กัด(หล่อนะแต่ไม่ได้ถ่ายรูป)
ช่วงนี้เป็นซัมเมอร์ 2ทุ่มแล้วยังไม่มึดเลย
ถึงชายเเดนจีน ด้านเออเหลียน งานก็เข้าถูกเรียกตัวมาสอบอีกแล้วครับท่าน แต่คราวนี้เพิ่ม มาอีก1ข้อหา พาสปอร์ตชำรุด ฉีกขาด อ้าว ขาดตอนไหนฟะ “ทำไมคุณ เข้าจีนมาวันเดียวตลอด” “อ้าว ก็มาต่อรถไฟ ต่อเครื่อง ก็แวะเที่ยวไง บางทีก็เข้ามาทางฮ่องกงไง นู้นนี้นั้น” ดึงพาสปอร์ตจากที่ขาดครึ่ง จนเหลือไม่ถึงสองเซน แถมบอกว่า “ฉันให้คุณไป มองโกลก็ไม่ให้คุณเข้าประเทศหรอก พาสปอร์ตขาด” คือแบบ มันเกินคำว่าขาดมาแล้วตอนนี้ มันแบบหลุดเลยดีกว่า ทำใจ และลุ้นว่าจะรอดไหม ที่เออเหลียนต้องรอเปลี่ยนล้อรถไฟขนาดรางที่มองโกลกับจีนไม่เท่ากัน เกือบ2ชม
พอมาถึงด้านของมองโกล ตอนเขามาเก็บพาสปอร์ตเก็บไปแต่โดยดี ไม่ทักเรื่องพาสปอร์ตอะไร ลุงพนักงานบนรถไฟที่รู้ว่าเรามีปัญหา ยังหันมายิ้ม แบบว่าเย้ ได้ไปต่อละ แต่มันไม่ใช่น่ะสิ สักพัก ตม. ขึ้นมาตาม บอกเอาของลงมาให้หมด คุณอาจไม่ได้ไปต่อ อ้าว ลุงพนักงานรถไฟก็มาถาม ตม.ว่า ถึงขั้นไปต่อไม่ได้เลยหรือ ฮือๆ สุดท้าย ตม.ก็ไม่ให้ผ่าน บอกว่า “คืนนี้คุณต้องนอนที่นี่ พรุ่งนี้ผมจะส่งกลับจีน” “ฉันจะกลับได้ยังไง วีซ่าฉันออกมาแล้ว” “นั่นเรื่องของ ตม.จีน หน้าที่ของผมคือให้คุณเข้าประเทศไม่ได้ และต้องส่งตัวคุณกลับไปประเทศสุดท้ายที่คุณออกมา พรุ่งนี้เช้าผมจะไปส่งคุณที่จุดเช็กพอยต์ กูดไนท์” คือให้เยนนอนในห้องประชุม คือแบบเห้ย ฉันนอนที่นี่ไม่ได้ ไม่ฟังกรูเลยปิดประตูปึง เอาวะ...นอนก็นอน พรุ่งนี้คอยว่ากันใหม่
รูปสุดท้ายจากรถไฟก่อนถูก kick out
“เออเหลียน" เมืองในความทรงจำ บอกว่าเช้า ก็มาเช้าของจริงเว้ย มาชุดธรรมดา เสื้อโปโล รองเท้าวิ่ง กางเกงขาสั้น คือบอกเลยว่า ยังคงไม่เปลี่ยนใจ กับหนุ่มชาตินี้ ดิบเถื่อนได้ใจ เป็นอะไรที่ดูเท่มาก อารมณ์ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน 1คนขับรถ 1บิ๊กบอส และเจ้าหน้าที่ตม.ผญ ที่ใส่เครื่องแบบเพียงคนเดียวบนรถ ระยะทางราวๆ15นาที รถสามารถผ่านได้ทุกด่าน พอถึงตึกที่เป็น ตม. พาเดินผ่าน ตม. แบบ ฟาสต์เลน ไม่ต่อแถว อ้อมหลังตึก ทะลุด้านนั้นนี้ จับยัดขึ้นรถบัส
คือทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึง10นาที ชีวิตเยนก็ถูกฝากไว้ในมือคนขับรถบัส ยังมีหน้าวิ่งไปบอก “เฮ้ คุณไม่มี เอกสารข้อมูลอะไรให้ฉันถือไปเลยรึไง”
“เขาบอกไม่ต้อง พาสปอร์ตคุณอยู่ที่คนขับรถแล้ว เดียวเขาไปส่งคุณถึง ตม.จีน” “เออะ!!” เอากับมันสิ
ทะเลทรายโกบี ที่ฉันอยากมา อยู่แค่เอื้อม มุมจากบัสที่กำลังจะข้ามชายแดน
พอมาถึง ตม.จีน คนขับรถก็จัดการคุยให้ ก็เดินวนๆ ตาม ตม.จีนไป และตกไปอยู่ในการดูแลของ ตม. หน้าหยก โอ๊ยยยย ถ้าไม่เห็นว่ามันทำให้เสียเวลา พี่อยากจะมีปัญหากับ ตม.เออเหลียน ฮีก็ชวนคุยนู้นนี้ และพามาส่งรถบัส และฝากรถบัสให้ส่งเราให้ถึงปักกิ่ง แบบน้ำตาจิไหล คือ ตั้งแต่คนขับรถบัส แม่บ้าน ตม. ผู้คนที่พบเจอ พนักงาน ตม. ทุกคนคือแบบพยายามช่วยทุกทาง บางคนเดินมาพูดคุยด้วย บางคนช่วยถือของ ลุกให้นั่ง(สภาพเราคงเยินมาก)ร้านขายซิมการ์ด ไม่มีซิมท่องเที่ยวขาย เราบอกว่าเราต้องการติดต่อกับเพื่อน เขาก็เปิด wi-fiให้ พาไปแลกเงิน คือแบบซาบซึ้งจริงๆ
"คนเออเหลียน พระคุณนี้จะไม่ลืม" รถบัสออกจากเออเหลียนราวบ่ายสามโมง วิ่งผ่านเส้นทางเดียววิวเดียวกับรถไฟ ถึงปักกิ่งราวตีหนึ่ง เราตื่นมา อ้าวทำไมไม่ลงรถกัน ทุกคนนอนกันต่อตามปกติ อ้าวหรือวะ เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม นอนก็นอน ตีสามกว่าๆ เริ่มทยอยกันลงจากรถ ก็ลุก เห้ย ไม่อยากเชื่อสายตา ทุกเตียง (ที่นั่งเป็นเตียงนอน) พับผ้าห่มเรียบร้อยเหมือนตอนขึ้นรถมา ตลอดการเดินทาง10 ชม. รถสงบมากไม่มีการคุยกันช้งเช้งเสียงดังใดๆ ทั้งสิ้น ลงรถ ไปเข้าห้องน้ำระหว่างทาง ขึ้นมาเอาทิชชูเปียกเช็ดเท้าก่อนนอน แล้วเยนก็เพิ่งมารู้ว่า เออเหลียนคือ inner Mongolia นี่สินะลูกหลานท่าน ข่านของจริง เยนก็เดินตามสาวเออเหลียนเข้าไปที่ลอบบี้โรงแรม แล้วนั่งรอฟ้าสว่าง เดินมานั่งต่อที่เคเอฟซี ล้างหน้าแปรงฟัน รอเวลาสถานทูตเปิด ค่อยออกเดินทาง
9โมงสถานทูตเปิด ก็เจอน้องๆ ที่มาฝึกงานที่สถานทูตจีน น้องก็ ช่วยๆ สักพักเจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องนี้ก็มาคุยๆ บอก “ได้เลย ทำพาสปอร์ตชั่วคราวได้ทันทีเลย” โอย ตาเป็นประกาย วิ้งๆ ฉันจะกลับไปเออเหลียนคืนนี้เลย พอคนที่มีอำนาจในการเซ็นเรื่องนี้มา พี่เขาบอกว่า “พาสปอร์ตน่ะได้เลย แต่คุณต้องทำวีซ่าจีนใหม่ 5-7วัน” อ๊าก ฝันสลาย “ผมว่า คุณกลับไปตั้งต้นที่ไทยดีกว่าครับ เพราะพาสปอร์ตชั่วคราว มันใช้เข้าไม่ได้ทุกประเทศ
เพราะถ้าคุณถูกปฎิเสธการเข้าประเทศอีกมันคงไม่ดีแน่ ผมว่านะ จากที่ดูพาสปอร์ตคุณแล้ว ถึงที่หมายช้าไปนิดหน่อย คงไม่ทำให้ทริปรอบโลกคุณไม่ครบหรอก ใช้ชีวิตคุ้มดีครับ พาสปอร์ต 2ปี 30หน้า” ฮึๆ นี่ชมหรืออะไรเนี่ย ยังไงก็จะไปต่อ ทางนี้เขาก็ช่วยสุดๆ ออกเอกสารนู่นนี่ให้เพื่อให้ทัน เพราะในกรณีนี้เยนอาจได้วีซ่าในวันเสาร์ สามวันทำการ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ พอเยนไปที่ขอวีซ่าจีน เขาบอกไม่จำเป็นต้องขอใหม่ คุณใช้ได้จนมันหมดอายุ อ้าวววว ดีใจๆ จะไปเออเหลียน แต่เดียวนะเยน พักก่อนไหม ไม่อาบน้ำมาสามวันแล้ว เตียงนอนไม่สัมผัสมากี่วันแล้ว เอาวะ ค้างปักกิ่งสักคืน พอกลับไปที่พักที่จองไว้ แทบจะเป็นลม บายดีกว่า หาที่อยู่ใหม่ พอไปเช็กอิน ปัญหามาแล้วครัช วีซ่ากับพาสปอร์ตไม่ตรงกัน บลาๆ ไม่รับเช็กอิน โหยยย นั่นแบบ โอเคฉันจะกลับบ้าน อาบน้ำ นอนพักแป๊บ และเดินออกหาอะไรกิน การท่องเที่ยวมันต้องแบบนี้สิ กินโยเกิร์ต กินบะหมี่มีด กินยำ กินแตงโม ทั้งหมดนั้นกินคนเดียว กินชดเชย
4วันที่มาถึงนี่มัวแต่คิดมุ่งหน้าจะไปๆ ให้ได้ จนลืมเรื่องระหว่างทาง เรื่องราวรอบๆ ตัวเรา
ขอบคุณการเดินทางครั้งนี้อีกครั้ง บทเรียนที่หาไม่ได้จากที่ไหน ขอบคุณ Royal Thai embassy Beijing คุณอิมที่ช่วยสุดๆ สุดจนเลยก็ยังช่วย ขอบคุณ คุณพี่ต่ง ที่เซ็นอนุมัติพาสปอร์ตชั่วคร่าวให้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่สุภาพที่สุดเท่าที่เคยเจอมา กล่าวคำขอโทษทุกครั้งที่จะพูดหรือถามอะไร ขอบคุณอาอี๊ที่เอาน้ำมาให้ และค่อยถามว่ากินอะไรยัง ตอนจะกลับมีการบอกว่ากลับมาอีกนะ มาแน่ค่ะ แต่ไม่มาพร้อมปัญหาอีกแล้วค่ะ 555 ขอบคุณน้องฝึกงานเด็กธรรมศาสตร์ทั้งสอง ที่ให้พาสเวิร์ด wi-fi และโดนลุงนั้นดุ ขอโทษด้วย ขอบคุณบุ้งและเพื่อนๆ ที่ให้ข้อมูลต่างๆ สำหรับการจองตั๋วกลับ
ยัง เรื่องยังไม่จบ ตัดสินใจว่าจะกลับไทยแน่ สายๆอีกวันก็มาสนามบินดูไฟล์ทเวลาหมาะ 5โมงเย็น ไฟล์ทคาเธ่ ทรานสิทฮองกง ถึงไทยเที่ยงคืน แต่!! ไฟล์ทดีเลย์จร้าา มาไม่ทันทรานสิทกลับไทย ทางคาเธ่ให้เรานอนพักหนึ่งคืนเราก็โวยวายไม่ได้ค็ณต้องหาไฟล์ให้กลับคืนนี้ฉันมีธุระเช้า เขาบอกไม่มีไฟล์ทมาไทยดึกแล้ว ให้ไปเลือก รร งานก็งอกมาอีก ฮองกงไม่ให้พาสปอร์ตชั่วคร่าวเข้า เดินมาเคาน์เตอร์ ทรานสิท คาเธ่ พนักงานบอกงั้นคุณก็เข้าไปรอที่เกทยันเช้า เห้ยยไม่ได้นะคุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยรึ นางก็บลาๆและทำหน้าดูถูกปิดประโยคด้วย ยูอันเดอสแตนมิ๊ เลยจัดภาษาอังกฤษคำที่คิดว่าสำเนียงเปะสุดไป ฟ๊าคค
พาสปอร์ตชั่วคราว
รอไฟล์ท
***มีซ่อมทริปแน่ กย-ตค ใครไปบ้าง
**Iphone4s,Cannon40D,GoProถ่ายภาพ
*Part Penagสุดชิลและ1day climb Kinabalu Mt 4095 m. พิมพ์เสรจรอภาพแปป
หมื่นคำไม่พอ ต่อในคอมเมนท