ซีอีโอใหม่ลั่น3ปีขยับเอไอเอสสู่บริการไลฟ์สไตล์ [ADVANC,INTUCH]

กระทู้สนทนา
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=237750:3&catid=85:2009-02-08-11-22-45&Itemid=417#.U7wRNfmSx1Y

ซีอีโอใหม่ลั่น3ปีขยับเอไอเอสสู่บริการไลฟ์สไตล์

วันอาทิตย์ที่ 06 กรกฏาคม 2014 เวลา 10:20 น.     กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ     ข่าวหน้า1     - คอลัมน์ : ข่าวหน้า1

ผ่าวิชัน "สมชัย" ซีอีโอป้ายแดง "เอไอเอส" ประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ ขยับจาก "เทเลคอม เซอร์วิส โพรไวเดอร์"  ก้าวสู่ "ดิจิตอล ไลฟ์ เซอร์วิส โพร์ไวเดอร์"  ปักธง 3 ปีต้องบรรลุผล กับแนวทาง 3 วงล้อ "ลูกค้า-คน-พาร์ตเนอร์" ยันองค์กร "โปร่งใส-ธรรมาภิบาล" ไม่หวั่นถูกโยงการเมือง

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส  เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจ หลังได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ว่า  วิสัยทัศน์ของเอไอเอส จะก้าวไปสู่การเป็น Digital Life Service Provider จากเดิมที่เป็น Telecom Service Provider โดยตั้งเป้าภายในระยะเวลา 3 ปีจะต้องทำให้สำเร็จ

    ทั้งนี้ การตั้งเป้าหมายไปสู่การเป็น Digital Life Service Provider  ด้วยแนวทาง 3 วงล้อ ประกอบด้วย วงล้อที่ 1. เรื่องของการดูแลลูกค้า อย่าประมาทลูกค้า ,วงล้อที่ 2. เรื่องของบุคลากร และวงล้อที่ 3. พาร์ตเนอร์ เพราะวันนี้เป็นยุคดิจิตอล ไลฟ์ พาร์ตเนอร์ ดังนั้น พาร์ตเนอร์จึงสำคัญที่สุด

    "3 วงล้อดังกล่าวจะขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน เพื่อขับเคลื่อนเอไอเอส จากบทบาทเดิม คือ Telecom Service Provider ก้าวสู่ Digital Service Provider"

    นายสมชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีอัตราการเติบโต 20 % เท่ากับอายุของเอไอเอส ที่เติบโตมาถึง 24-25 ปี โดยเอไอเอสผ่านยุคพื้นฐาน คือ การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อะนาล็อก-ดิจิตอล-ระบบ 3 จี และ 4 จี ซึ่ง เอไอเอสมองสิ่งเหล่านี้เป็นโครงสร้างพื้นฐาน หากแต่สิ่งที่ท้าทายในวันนี้ การลงโครงสร้างพื้นฐาน เพราะในอนาคตจะมีการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4 จี ซึ่งเอไอเอส ต้องลงทุนติดตั้งเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 4 จี

   "แม้ตอนนี้มีการสะดุด การประมูลมีการเลื่อนออกไป ขณะที่คู่แข่งมีเทคโนโลยี 4 จี แต่เราไม่มีแต่ผมเชื่อมั่นประเทศไทย และเชื่อมั่นผู้นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ผมมองข้ามตรงนี้ไปแล้ว ยังไงผมก็เชื่อมั่นว่า 4 จี จะมีอย่างแน่นอน จะล่าช้าไป 1-2 ปี แต่เอไอเอสสามารถไล่ทันคู่แข่งได้แน่"

    ซีอีโอใหม่เอไอเอส ย้ำว่า อาวุธสำคัญของเอไอเอสคือ องค์กรที่มีความแข็งแกร่ง ไม่ใช่แต่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น  หากแต่เรื่องของบุคลากรไม่ได้เป็นรองคู่แข่ง เพระหลังจากเอไอเอสได้ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ซึ่งการติดตั้งล่าช้ากว่าคู่แข่งเป็นระยะเวลา 2 ปี แต่เอไอเอส ติดตั้งเครือข่ายไล่ทัน และภายในสิ้น 2557 เครือข่าย 3 จี เอไอเอส จะติดตั้งแซงคู่แข่ง แม้เอไอเอส มีข้อจำกัดคลื่นความถี่เพียง  17.5 เมกะเฮิรตซ์เท่านั้นก็ตาม

    อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลัง เอไอเอสตั้งเป้าเป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้า 40 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นระบบจีเอสเอ็ม 900 จำนวน 10 ล้านเลขหมาย และ ระบบ 3 จี 2100 ในไตรมาสที่ 1/2557 มีฐานลูกค้าประมาณ 26 ล้านเลขหมาย  แม้ว่าที่ผ่านมารายได้จากการให้บริการด้านเสียง (voice) จะลดลงแต่รายได้จากการให้บริการด้านข้อมูล (data) เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่า ผลประกอบการของ เอไอเอส หลังจากนี้ จะเติบโตมากว่าตลาดโดยรวมได้ และมากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีได้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะเติบโตขึ้น เพราะมีสัดส่วนเพียง 10% เท่านั้น ขณะที่ประเทศจีนมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 35%

    นายสมชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้เกิดการล่าช้าในการประมูล 4 จี  แต่คาดว่า กสทช. จะพิจารณารายละเอียดให้โปร่งใส่มากที่สุด และเชื่อว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และเอไอเอส ก็พร้อมเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน การเลื่อนการประมูลครั้งนี้จะไม่กระทบต่อบริษัท เนื่องจากสัมปทานคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ยังเหลือเวลาอีก 1 ปี ทำให้ยังมีพื้นที่เพียงพอที่ให้บริการลูกค้าด้วย และที่ผ่านมาก็มีการเจรจากับ ทีโอที มาโดยตลอด ทำให้จะไม่กระทบต่อรายได้ของบริษัท

    นอกจากนี้นายสมชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับภาพลักษณ์องค์กร ที่ถูกเชื่อมโยงกับการเมืองนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมากลุ่มบริษัทได้พิสูจน์แล้วว่า บริหารงานโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งในยุคนี้เชื่อว่าจะสบายกว่ายุคที่ผ่านๆ มา   ส่วนเรื่องคู่แข่งมีพันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมลงทุน เอไอเอส อยากแข่งกับคู่แข่งที่เก่ง เข้ามาสู้ในอุตสาหกรรม และ เอไอเอส ก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้แต่อย่างใด

    ไม่เพียงเท่านี้นายสมชัย ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเริ่มต้นทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2517 และ วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ได้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 30 ปี

    สำหรับนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ เข้ามารับตำแหน่งแทนนายวิเชียร เมฆตระการ ซึ่งครบวาระเกษียณการทำงาน ภายในสิ้นปีนี้ โดยนายวิเชียร นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2557 เป็นระยะเวลา 8 ปี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,963 วันที่ 6 - 9 กรกฎาคม  พ.ศ. 2557
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่