สวัสดีครับ
ผมเป็นชาวจังหวัดพังงา อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "เขาหลัก" สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่ในขณะนี้
จริงๆ แล้วผมไม่ได้เกิดหรือเติบโตที่นี่หรอกครับ แต่ย้ายมาอยู่กับครอบครัว ได้สัก 5 ปีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ประสบพบเป็นประจำสำหรับที่นี่ก็คือ "ไฟดับ"
ฟังดูแล้วการที่ไฟฟ้าดับก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติคู่กับชาวภูธรอย่างพวกเราอยู่แล้ว แต่ที่เขาหลักนี่..มันถี่ไปครับ ถี่ขนาดไหน?
ดับ (เกือบ) ทุกวัน...วันละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะวันนี้ (8 ก.ค. 2557) ประวัติศาสตร์ชาวเขาหลักต้องจารึกไว้ว่า ไฟฟ้าดับตั้งแต่ 5.30 น. จนถึง 16.00 น. กันเลยทีเดียวครับ นับแล้วก็ราวๆ 10 ชั่วโมงครึ่งครับ
ถ้าเป็นในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ หรือภูเก็ต การที่ไฟฟ้าดับนานขนาดนี้ย่อมจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจเป็นอย่างมากแน่นอน แต่ที่นี้ เราไม่ใช่เมืองหลวง เราไม่ใช่เมืองใหญ่ เราเป็นแค่เมืองท่องเที่ยว ที่มีรีสอร์ทใหญ่ๆ ร้านอาหาร และร้านรวงที่ให้บริการนักท่องเที่ยวเท่านั้นเอง ทางการท่านจึงไม่เหลียวแล หรือเข้ามาให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้อย่างรวดเร็ว
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้..ไม่เกินความจริงนะครับ ที่นี่ ในฤดูมรสุมแบบนี้ ไฟฟ้าดับแทบทุกวัน ทั้งๆ ที่เราเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศปีหนึ่งก็ไม่น้อยทีเดียวนะครับ
ผมเคยร้องเรียนไปกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมื่อปีที่แล้ว (ซึ่งก็ไฟดับบ่อย แต่ไม่เท่าปีนี้) ท่านผู้จัดการการไฟฟ้าท่านก็ดีใจหาย อุตส่าห์มาชี้แจงปัญหาให้ผมด้วยตัวเองถึงที่บ้าน และรับปากว่าจะเร่งแก้ไขปัญหา แต่พอล่วงมาฤดูมรสุมปีนี้ ไฟก็ยังดับ แถมยังดับบ่อย และดับถี่กว่าปีที่แล้วเสียอีก ร้อนถึงท่านผู้จัดการท่านก็ยังมาพบผม และชี้แจงถึงที่บ้านเองอีกครั้ง (อันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านด้วยใจจริงครับ)
โดยปัญหาที่ท่านชี้แจงให้ผมทราบ ว่าทำไมไฟฟ้าถึงดับบ่อย มีดังนี้..
1. อุปกรณ์ รวมทั้งสายไฟอยู่ในสภาพเก่า และชำรุดเป็นส่วนใหญ่ ต้องไล่เปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด (ซึ่งจริงๆ ควรจะเปลี่ยนเสร็จไปตั้งแต่ปีที่แล้ว)
2. สายส่งไฟฟ้า อยู่ชิดที่ดินชาวบ้าน ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดฝนตก ลมแรง ทำให้กิ่งไม้ หรือต้นไม้ทั้งต้นล้มทับสายส่ง ซึ่งทางการไฟฟ้าตะกั่วป่าแจ้งว่า ไม่สามารถเข้าไปตัดกิ่งต้นไม้ที่ล้ำออกมาได้ เนื่องจากชาวบ้านไม่ยอม หรือไม่ก็มีการขู่จะฟ้องร้องการไฟฟ้าฯ ด้วยหากเข้าไปตัด
3. จำนวนเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลแก้ไขไม่เพียงพอ อย่างวันนี้ ที่ไฟฟ้าดับนาน เนื่องจากมีกิ่งไม้หักพาดสายไฟหลายจุด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทำให้ดำเนินการแก้ไขได้ช้า
หลักๆ ก็เห็นจะมีอยู่ 3 ปัญหานี้ครับ..ซึ่ง..ผมมองดูแล้ว ปัญหาเหล่านี้น่าจะป้องกันได้ (แต่คงทำได้ไม่เร็วพอ)
ปัญหาที่เป็นผลพวงจากการที่ไฟฟ้าดับ...
1. ธุรกิจเสียหาย โดยเฉพาะโรงแรม ร้านอาหาร เพราะแน่นอนเค้าต้องพึ่งพาไฟฟ้าในการดำเนินธุรกิจเป็นหลักอยู่แล้ว
2. น้ำไม่ไหล..ใช่ครับพี่น้อง..น้ำไม่ไหล เนื่องจากน้ำประปาของเทศบาลตำบลคึกคัก ต้องใช้ปั๊ม ซึ่งก็ต้องใช้ไฟฟ้า แล้วก็แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอยู่แล้วว่า พอไฟดับ ปั๊มก็ไม่เดิน ชาวบ้านก็..ไม่มีน้ำใช้
3. สัญญาณโทรศัพท์หาย โดยเฉพาะในวันที่ดับนานๆ เช่นวันนี้ เพราะเสาโทรศัพท์ก็ต้องใช้ไฟฟ้าเหมือนกัน เมื่อไฟดับ เค้าจะมีไฟสำรองที่อยู่ต่อได้อีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากไฟดับนานๆ แบบนี้ ชาวบ้านก็ไม่ต้องติดต่อสื่อสารกับใคร..ไปโดยปริยาย
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่ออะไร?
1. เพื่อระบายครับ..อิ อิ เพราะผมเคยร้องเรียนไปแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลง..มันอัดอั้นตันใจครับ
2. เผื่อมีใครที่อยู่ในพันทิพนี้ พอจะนำเอาคำบ่นของผม ไปขยายผล แก้ไขปัญหาให้มีการพัฒนาขึ้น ก็จะขอบพระคุณอย่างสูงครับ
สวัสดีครับ
ไฟดับซ้ำซาก ปัญหาที่ควรจะต้องทนยอมรับ หรือควรได้รับการแก้ไข
ผมเป็นชาวจังหวัดพังงา อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "เขาหลัก" สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่ในขณะนี้
จริงๆ แล้วผมไม่ได้เกิดหรือเติบโตที่นี่หรอกครับ แต่ย้ายมาอยู่กับครอบครัว ได้สัก 5 ปีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ประสบพบเป็นประจำสำหรับที่นี่ก็คือ "ไฟดับ"
ฟังดูแล้วการที่ไฟฟ้าดับก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติคู่กับชาวภูธรอย่างพวกเราอยู่แล้ว แต่ที่เขาหลักนี่..มันถี่ไปครับ ถี่ขนาดไหน?
ดับ (เกือบ) ทุกวัน...วันละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะวันนี้ (8 ก.ค. 2557) ประวัติศาสตร์ชาวเขาหลักต้องจารึกไว้ว่า ไฟฟ้าดับตั้งแต่ 5.30 น. จนถึง 16.00 น. กันเลยทีเดียวครับ นับแล้วก็ราวๆ 10 ชั่วโมงครึ่งครับ
ถ้าเป็นในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ หรือภูเก็ต การที่ไฟฟ้าดับนานขนาดนี้ย่อมจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจเป็นอย่างมากแน่นอน แต่ที่นี้ เราไม่ใช่เมืองหลวง เราไม่ใช่เมืองใหญ่ เราเป็นแค่เมืองท่องเที่ยว ที่มีรีสอร์ทใหญ่ๆ ร้านอาหาร และร้านรวงที่ให้บริการนักท่องเที่ยวเท่านั้นเอง ทางการท่านจึงไม่เหลียวแล หรือเข้ามาให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้อย่างรวดเร็ว
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้..ไม่เกินความจริงนะครับ ที่นี่ ในฤดูมรสุมแบบนี้ ไฟฟ้าดับแทบทุกวัน ทั้งๆ ที่เราเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศปีหนึ่งก็ไม่น้อยทีเดียวนะครับ
ผมเคยร้องเรียนไปกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมื่อปีที่แล้ว (ซึ่งก็ไฟดับบ่อย แต่ไม่เท่าปีนี้) ท่านผู้จัดการการไฟฟ้าท่านก็ดีใจหาย อุตส่าห์มาชี้แจงปัญหาให้ผมด้วยตัวเองถึงที่บ้าน และรับปากว่าจะเร่งแก้ไขปัญหา แต่พอล่วงมาฤดูมรสุมปีนี้ ไฟก็ยังดับ แถมยังดับบ่อย และดับถี่กว่าปีที่แล้วเสียอีก ร้อนถึงท่านผู้จัดการท่านก็ยังมาพบผม และชี้แจงถึงที่บ้านเองอีกครั้ง (อันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านด้วยใจจริงครับ)
โดยปัญหาที่ท่านชี้แจงให้ผมทราบ ว่าทำไมไฟฟ้าถึงดับบ่อย มีดังนี้..
1. อุปกรณ์ รวมทั้งสายไฟอยู่ในสภาพเก่า และชำรุดเป็นส่วนใหญ่ ต้องไล่เปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด (ซึ่งจริงๆ ควรจะเปลี่ยนเสร็จไปตั้งแต่ปีที่แล้ว)
2. สายส่งไฟฟ้า อยู่ชิดที่ดินชาวบ้าน ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดฝนตก ลมแรง ทำให้กิ่งไม้ หรือต้นไม้ทั้งต้นล้มทับสายส่ง ซึ่งทางการไฟฟ้าตะกั่วป่าแจ้งว่า ไม่สามารถเข้าไปตัดกิ่งต้นไม้ที่ล้ำออกมาได้ เนื่องจากชาวบ้านไม่ยอม หรือไม่ก็มีการขู่จะฟ้องร้องการไฟฟ้าฯ ด้วยหากเข้าไปตัด
3. จำนวนเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาดูแลแก้ไขไม่เพียงพอ อย่างวันนี้ ที่ไฟฟ้าดับนาน เนื่องจากมีกิ่งไม้หักพาดสายไฟหลายจุด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทำให้ดำเนินการแก้ไขได้ช้า
หลักๆ ก็เห็นจะมีอยู่ 3 ปัญหานี้ครับ..ซึ่ง..ผมมองดูแล้ว ปัญหาเหล่านี้น่าจะป้องกันได้ (แต่คงทำได้ไม่เร็วพอ)
ปัญหาที่เป็นผลพวงจากการที่ไฟฟ้าดับ...
1. ธุรกิจเสียหาย โดยเฉพาะโรงแรม ร้านอาหาร เพราะแน่นอนเค้าต้องพึ่งพาไฟฟ้าในการดำเนินธุรกิจเป็นหลักอยู่แล้ว
2. น้ำไม่ไหล..ใช่ครับพี่น้อง..น้ำไม่ไหล เนื่องจากน้ำประปาของเทศบาลตำบลคึกคัก ต้องใช้ปั๊ม ซึ่งก็ต้องใช้ไฟฟ้า แล้วก็แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอยู่แล้วว่า พอไฟดับ ปั๊มก็ไม่เดิน ชาวบ้านก็..ไม่มีน้ำใช้
3. สัญญาณโทรศัพท์หาย โดยเฉพาะในวันที่ดับนานๆ เช่นวันนี้ เพราะเสาโทรศัพท์ก็ต้องใช้ไฟฟ้าเหมือนกัน เมื่อไฟดับ เค้าจะมีไฟสำรองที่อยู่ต่อได้อีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากไฟดับนานๆ แบบนี้ ชาวบ้านก็ไม่ต้องติดต่อสื่อสารกับใคร..ไปโดยปริยาย
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่ออะไร?
1. เพื่อระบายครับ..อิ อิ เพราะผมเคยร้องเรียนไปแล้ว มันไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่แย่ลง..มันอัดอั้นตันใจครับ
2. เผื่อมีใครที่อยู่ในพันทิพนี้ พอจะนำเอาคำบ่นของผม ไปขยายผล แก้ไขปัญหาให้มีการพัฒนาขึ้น ก็จะขอบพระคุณอย่างสูงครับ
สวัสดีครับ