เอนกประสงค์การอดอาหาร

กระทู้ข่าว
คอลัมน์ : สันติธรรม

ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

การอดอาหารยังคงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์มากมายหลายประการตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ผู้ถูกจองจำชาวอัฟกานิสถานนับร้อยคนในคุกกวนตานาโมในสหรัฐเกิดความคับแค้นใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกจับกุมคุมขังหลังสหรัฐโจมตีอัฟกานิสถาน การจับกุมเป็นไปโดยไม่มีหลักฐาน ไม่มีการไต่สวนและไม่รู้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด ผู้ถูกจองจำเหล่านี้ไม่มีช่องทางที่จะบอกให้โลกได้รู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่พวกเขาได้รับ แต่ขณะเดียวกันสื่อของรัฐบาลประโคมข่าวอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย

ดังนั้น ผู้ถูกจองจำเหล่านี้จึงร่วมกันอดอาหารประท้วงความไม่เป็นธรรมของรัฐบาลสหรัฐเหมือนกับจะถามรัฐบาลสหรัฐว่า “จับกูข้อหาอะไร?” และ “ถ้าหาหลักฐานเอาผิดพวกกูไม่ได้ก็ปล่อยพวกกูออกไปเสียที”

แม้การอดอาหารประท้วงของพวกเขาไม่อาจส่งผลให้พวกเขาได้รับความเป็นธรรม แต่อย่างน้อยที่สุดการรายงานข่าวอดอาหารประท้วงของพวกเขาก็ทำให้โลกได้รับรู้ว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชน การกดขี่ข่มเหงและความไม่เป็นธรรม ยังมีอยู่ในประเทศที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆเคารพสิทธิมนุษยชน แค่นี้พวกเขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งแล้ว

เดือนสิงหาคมปีก่อน (พ.ศ. 2555) ในกรุงนิวเดลีของอินเดีย นายอันนา ฮาซาเร่ นักเคลื่อนไหวชาวอินเดียและผู้ให้การสนับสนุนเขากว่า 1,000 คน ได้ออกมาร่วมกันอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องรัฐบาลอินเดียให้ออกกฎหมายปราบปรามการทุจริตให้มีโทษรุนแรงมากยิ่งขึ้น และพวกเขาต้องการให้มีการตรวจสอบข้อกล่าวหากระทำการทุจริตของรัฐมนตรีในรัฐบาลอีก 14 คนด้วย

การอดอาหารเป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการแสดงถึงความมุ่งมั่นและความเอาจริงในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น ดังนั้น เมื่อชาวอินเดียนับหมื่นคนได้ออกมาสนับสนุน รัฐบาลอินเดียจึงต้องพิจารณาข้อเสนอของเขา ถึงแม้เขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปนั่งในสภานิติบัญญัติ แต่กระนั้นด้วยความรักชาติ เขาก็ไม่ยอมให้สภาออกกฎหมายลงโทษคนทุจริตคดโกงชาติเบาเกินไป

ผลจะออกมาเป็นอย่างไรยังไม่มีใครรู้ แต่ในฐานะนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมถือว่าการต่อสู้ของเขาประสบความสำเร็จแล้วส่วนหนึ่งจากการที่ได้เห็นคนนับแสนสนับสนุนเขา

                การอดอาหารประท้วงจึงเป็นวิธีการต่อสู้อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงและเป็นการยืนยันความจริงต่อหน้าผู้ปกครองที่ไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม การอดอาหารประท้วงดังกล่าวมักจะกระทำกันเป็นครั้งเป็นคราวเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น การอดอาหารประท้วงก็ไม่เกิดขึ้น

                แต่การถือศีลอดอาหารของอิสลามไม่ต้องมีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น คนมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอดอาหารกันทุกปีเมื่อเดือนรอมฎอนมาถึง แรงจูงใจของมุสลิมในการถือศีลอดอาหารในเดือนรอมฎอนมิใช่เพื่อเหตุผลทางการเมืองหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆทางโลก แต่เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความยำเกรงต่อพระเจ้าในฐานะผู้ศรัทธาในพระองค์ เป็นการสลัดความต้องการทางด้านร่างกายเพื่อเห็นแก่การเชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์


มุสลิมถือศีลอดอาหารในเดือนรอมฎอน เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่พระเจ้าประทานคัมภีร์กุรอานลงมาครั้งแรกแก่ท่านนบีมุฮัมมัดเพื่อเป็นทางนำในการดำเนินชีวิตสำหรับมนุษยชาติ แต่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากทางนำของพระเจ้าก็คือ ผู้มีความยำเกรงพระองค์

การถือศีลอดจึงไม่ใช่การทรมานตน แต่เป็นการต่อสู้กับตัวเองมิให้ตอบสนองความต้องการของร่างกายที่ไม่สิ้นสุด เป็นการสอนบทเรียนให้ผู้ถือศีลอดพร้อมสนองคำบัญชาของพระเจ้าในสิ่งที่พระองค์สั่งใช้และงดเว้นในสิ่งที่พระองค์ห้าม สาระของบทเรียนก็คือแม้สิ่งจำเป็นต่อชีวิตเช่นข้าวและน้ำ หากพระเจ้าสั่งห้าม ผู้ศรัทธายังต้องละเว้น ดังนั้น อบายมุขต่างๆที่พระเจ้าห้าม ผู้ศรัทธาต้องละเว้นเช่นกัน

นอกจากการงดเว้นจากการกินและการดื่มแล้ว การต่อสู้อีกอย่างหนึ่งในเดือนรอมฎอนก็คือ การต้องตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาประมาณตีสามถึงตีสี่เพื่อกินอาหารเตรียมตัวสำหรับการถือศีลอดที่จะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาสุดยอดในการนอน การเอาชนะตัวตนที่ต้องการนอนเพื่อตื่นขึ้นมากินข้าวเป็นเรื่องยากอย่างหนึ่ง หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยามง่วงจัด ถ้าให้เลือกระหว่างการกินกับการนอน ส่วนใหญ่จะเลือกนอนมากกว่าที่จะกิน

เมื่ออดข้าว อดน้ำ บวกกับอดนอน คนถือศีลอดจะรู้ดีถึงความรู้สึกอดอยากหิวโหยและความทุกข์ทรมานของคนไม่มีจะกินด้วยตัวเอง ดังนั้น เมื่อรู้สึกถึงความอดอยากหิวโหยแล้ว ข้อกำหนดในการถือศีลอดอย่างหนึ่งที่ผู้ถือศีลอดทุกคนต้องปฏิบัติก่อนวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนก็คือ การนำอาหารท้องถิ่น เช่น ข้าวสารในมาตรฐานที่ตัวเองกินประมาณ 5.6 กิโลกรัมไปให้แก่คนยากจน ทั้งนี้เพื่อให้คนจนได้มีอาหารกินและฉลองวันสิ้นสุดการถือศีลอดอย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ต้องไปแบมือขอใคร

                ในวันอีดุลฟิฏร์ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการสิ้นสุดการถือศีลอด มุสลิมไม่มีการจัดงานสนุกสนานร้องรำทำเพลงเพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่เดือนแห่งการถือศีลอดผ่านพ้นไป แต่ในวันอีดุลฟิฏร์ มุสลิมจะไปชุมนุมกันที่มัสยิดเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ทรงบัญชาให้บ่าวผู้ศรัทธาในพระองค์ทั่วโลกถือศีลอดพร้อมกันและเป็นประกาศชัยชนะเหนือความต้องการของร่างกายตัวเองเพื่อถวายแก่พระเจ้าในเดือนรอมฎอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่