เรื่องของอิสลาม
ความหมายของอิสลาม คือการยอมจำนนต่ออัลลอฮ์ เพียงพระองค์เดียวในความป็นเอกภาพ และแน่วแน่ปฏิบัติตามด้วยความจงรักภักดีในพระองค์ ปลอดโปร่งจากการตั้งภาคีใดๆ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกตั้งภาคีทั้งหลาย
ดังนั้นจะยังไม่นับว่าคนนั้นเป็นมุสลิม เว้นแต่เมื่อเขายอมจำนนสำหรับพระองค์โดนสิ้นเชิง ถ้าใครยังมิได้ให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ หรือไม่ยอมภักดีต่อพระองค์ หรือไม่เลิกการทำชิริก และตัดขาดจากพวกทำ"ชิริก" เขาผู้นั้นยังมิใช่มุสลิม
บทบัญญัติของอิสลามมี 5 ประการคือ
1. การปฏิญาณตนว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของพระองค์”
2. ดำรงการละหมาด
3. บริจาคซะกาต
4. ถือศีลอดเดือนรอมฎอน
5. การทำฮัจญ์ที่บัยติลลาฮ์
มีหลักฐานดังกล่าวในฮะดีษบทหนึ่งจากอับดุลลอฮ์ บินอุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านร่อซูล กล่าวว่า
بُنِيَ الإِسْلاَمُ عَلَى خَمْسٍ شَهَادَةِ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُولُهُ وَإِقَامِ الصَّلاَةِ وَإِيتَاءِ الزَّكَاةِ وَحَجِّ الْبَيْتِ وَصَوْمِ رَمَضَانَ
(رواه مسلم)
ความว่า “อิสลามนั้นตั้งอยู่บน 5 ประการด้วยกัน คือ
การปฏิญาณตนว่า لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ
การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะกาต
การทำฮัจญ์ ณ บัยติลลาฮฺ การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน”
ซึ่งนักวิชาการอิสลามได้มีมติพ้องต้องกันว่า ใครก็ตามที่ละทิ้งเหล่านี้ หรือปฏิเสธข้อหนึ่งข้อใดของบรรดารู่ก่นนั้น เขาคือ (กาเฟร) ผู้ปฏิเสธศรัทธามิใช่มุสลิม แม้ว่าจะมีเชื้อสายมุสลิมก็ตาม
สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิญาณตนในทั้งสองประโยค และการไม่เชื่อมั่นกับสองประโยคนั้น หรือได้ทำสิ่งหนึ่งที่ทำให้บกพร่อง หรือสวนทางกับทั้งสองประโยค ดังกล่าวแล้ว เขาตกอยู่ในการปฏิเสธ (กุฟุร) ศรัทธาแล้ว
ส่วนเรื่องการทำละหมาดนั้นใครที่ละทิ้งเขาก็ตกอยู่ในการกุฟุรแล้ว เนื่องจากมีฮะดีษของท่านร่อซูล บอกไว้ว่า
بَيْنَ الرَّجُلِ وَبَيْنَ الشِّرْكِ وَالْكُفْرِ تَرْكُ الصَّلاَةِ
(رواه مسلم)
“ระหว่างคนหนึ่งกับการปฏิเสธศรัทธา (กุฟุร) หรือการทำชิริก คือการละทิ้งการละหมาด”
และยังมีหลักฐานอื่นๆ อีกมากมาย
อ. อับดุลฆอนี บุญมาเลิศ
เรื่องของอิสลาม
ความหมายของอิสลาม คือการยอมจำนนต่ออัลลอฮ์ เพียงพระองค์เดียวในความป็นเอกภาพ และแน่วแน่ปฏิบัติตามด้วยความจงรักภักดีในพระองค์ ปลอดโปร่งจากการตั้งภาคีใดๆ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกตั้งภาคีทั้งหลาย
ดังนั้นจะยังไม่นับว่าคนนั้นเป็นมุสลิม เว้นแต่เมื่อเขายอมจำนนสำหรับพระองค์โดนสิ้นเชิง ถ้าใครยังมิได้ให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ หรือไม่ยอมภักดีต่อพระองค์ หรือไม่เลิกการทำชิริก และตัดขาดจากพวกทำ"ชิริก" เขาผู้นั้นยังมิใช่มุสลิม
บทบัญญัติของอิสลามมี 5 ประการคือ
1. การปฏิญาณตนว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของพระองค์”
2. ดำรงการละหมาด
3. บริจาคซะกาต
4. ถือศีลอดเดือนรอมฎอน
5. การทำฮัจญ์ที่บัยติลลาฮ์
มีหลักฐานดังกล่าวในฮะดีษบทหนึ่งจากอับดุลลอฮ์ บินอุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านร่อซูล กล่าวว่า
بُنِيَ الإِسْلاَمُ عَلَى خَمْسٍ شَهَادَةِ أَنْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا عَبْدُهُ وَرَسُولُهُ وَإِقَامِ الصَّلاَةِ وَإِيتَاءِ الزَّكَاةِ وَحَجِّ الْبَيْتِ وَصَوْمِ رَمَضَانَ
(رواه مسلم)
ความว่า “อิสลามนั้นตั้งอยู่บน 5 ประการด้วยกัน คือ
การปฏิญาณตนว่า لاَ إِلَهَ إِلاَّ اللَّهُ وَأَنَّ مُحَمَّدًا رَسُولُ اللَّهِ
การดำรงไว้ซึ่งการละหมาด การจ่ายซะกาต
การทำฮัจญ์ ณ บัยติลลาฮฺ การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน”
ซึ่งนักวิชาการอิสลามได้มีมติพ้องต้องกันว่า ใครก็ตามที่ละทิ้งเหล่านี้ หรือปฏิเสธข้อหนึ่งข้อใดของบรรดารู่ก่นนั้น เขาคือ (กาเฟร) ผู้ปฏิเสธศรัทธามิใช่มุสลิม แม้ว่าจะมีเชื้อสายมุสลิมก็ตาม
สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิญาณตนในทั้งสองประโยค และการไม่เชื่อมั่นกับสองประโยคนั้น หรือได้ทำสิ่งหนึ่งที่ทำให้บกพร่อง หรือสวนทางกับทั้งสองประโยค ดังกล่าวแล้ว เขาตกอยู่ในการปฏิเสธ (กุฟุร) ศรัทธาแล้ว
ส่วนเรื่องการทำละหมาดนั้นใครที่ละทิ้งเขาก็ตกอยู่ในการกุฟุรแล้ว เนื่องจากมีฮะดีษของท่านร่อซูล บอกไว้ว่า
بَيْنَ الرَّجُلِ وَبَيْنَ الشِّرْكِ وَالْكُفْرِ تَرْكُ الصَّلاَةِ
(رواه مسلم)
“ระหว่างคนหนึ่งกับการปฏิเสธศรัทธา (กุฟุร) หรือการทำชิริก คือการละทิ้งการละหมาด”
และยังมีหลักฐานอื่นๆ อีกมากมาย
อ. อับดุลฆอนี บุญมาเลิศ