วิ่งจนหวิดหัวใจวาย


(1.)....ผมเป็นคนวิ่งออกกำลังกายเสมอๆ...สัปดาห์ละ 3 วัน...ปกติจะวิ่งได้ 4 รอบสนามหลวง แบบชนิดไม่หยุด ในเวลา 45-50 นาที...หรือ 5 กิโลเมตรในเวลา 30-35 นาที ซึ่งถือว่าไม่เร็วเลย...เวลาวิ่ง ผมจะวิ่งช้าๆ เสียบหูฟัง เปิดเพลงช้าๆฟังไปเรื่อยๆ...ซึ่งก็ทำได้ดีตลอด ผลของการฝึกฝนมาในระยะ 4 ปี เริ่มจากวิ่งในระยะน้อยๆ จนมาวิ่งอยู่ตัวในระดับนี้มา 2 ปีแล้ว...ผมอายุ 39 แล้ว.....ปัญหามาเมื่อ 3 เดือนก่อน ไปวิ่งที่สนามหลวงช่วงหัวค่ำ อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว...ปกติผมวิ่ง 4 รอบ ระบบการเต้นของหัวใจของผม จะเต้นเป็นปกติใน 5-8 นาที แต่วันนั้นไม่...ใจผมเต้นแรงไม่หยุด แล้วผมก็ไม่เรออกมาเลย แน่นท้อง...และเสื้อที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อ มาโดนสายลมในสนามหลวงทำให้ผมหนาว ผมต้องถอดเสื้อ เดินกระสับกระส่ายไปมา (ลืมบอกไป ผมสูง 173 หนัก 76 กิโล ซึ่งถือว่าอ้วนแล้ว) ผมรู้สึกว่า ใจเต้นหวิวจะเป็นลม ทรมานมาก เหงื่อออกมากแต่รู้สึกหนาวมาก...นั่งนิ่งๆไม่ได้ ใจเต้นแรงตลอด หน้าหวิดมืด พอดีเจอก๊อกน้ำ ค่อยๆ จิบช้าๆ ทำให้เรอออกมา ก็ดีขึ้น เดินไปซื้อน้ำเปล่า มาใช้หลอดจิบไปช้าๆ ก็เรอขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาถึง 30 นาทีจากเริ่มเป็น จนใจเต้นเบาหายเป็นปกติ...........
(2.)....ผ่านไปเมื่อเดือนก่อน ผมไปวิ่งตอนเช้า 8 โมงเช้า ในระยะ 5 กิโลเมตร 40 นาที วิ่งเสร็จด้วยเพราะอากาศร้อนอบอ้าว อาการเดิมมาอีก ใจเต้นไม่ยอมหยุด ทรมานมาก ต้องเดินกระสับกระส่ายไปมา ถอดเสื้อ ดมยาดมก็ไม่หาย รู้สึกหนาว สยิวตัวเหมือนเดิม แต่เหงื่ออกเป็นน้ำ ครั้งนี้แย่กว่าเดิม....กว่าจะหายได้ 45 นาทีได้มั๊ง ทรมานมากจริงๆ ผมเข็ดเลยครับ เพราะหวิดหน้ามืดหลายครั้ง แต่พยายามจะไปจับราวโหนตัว ลอยในอากาศ ให้อยู่นิ่งๆ ให้เลือดตกเท้า เลยดีขึ้นได้.......
.....ผมไม่แน่ใจว่า นี่คือสัญญาณจากอะไร ผมอาจเป็นโรคหัวใจ...ผมเคยกินเหล้าสูบบุหรี่มา 19 ปี ผมใช้การวิ่งเป็นตัวช่วยอดบุหรี่ ผมอดบุหรี่มาได้ 2 ปีเต็มๆแล้ว....ไม่สูบเลย.....2 ปีนี้ทำให้น้ำหนักของผมเพิ่มมา 10 กิโลกรัม...จากการกินชดเชยอาการอยากบุหรี่...แต่มันทำให้ผมหนัก 76-77กิโลกรัม ให้ผมอ้วนไปมากกระมัง......
.....หลังจากนั้น ผมวิ่งไม่เคยเกิน 20 นาทีเลย เมื่อรู้สึกเหนื่อยก็หยุดทันที...ผมงดทานข้าวมื้อเย็น เน้นกายบริหารแทนการวิ่งหักโหม.....
.....แต่ผมก็ยังกลัวๆ กลัวช๊อคตายจนถึงตอนนี้.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่