วันนี้ผมสาย เครื่องสแกนลายนิ้วมือมันฟ้อง แถมร้องดังไปทั้งแผนก
"ไง พี่ เมื่อคืน ดึก เหรอ"
ไอ้เปี๊ยก รุ่นน้องที่แผนกการตลาดร้องทักเสียงดัง ทำเอาผมอับอายหนักข้อขึ้นไปอีก เพราะสายตาทุกคู่ ดูจะจับจ้องเป๋งมาที่ผม
การถลาแบบรุนตัวไปในทิศทางซ้าย 15 ขวา 19 จึงป็นท่าประจำของผมในการหลบหนีสายตาที่ต่อว่า สมเพสเข้าคอกของตัวเองให้เร็วที่สุด
ผมเป็น อาร์ตไดเร็กเตอร์ ในแผนกการตลาดของบริษัทรับตกแต่งภายในกับโฆษณาแห่งหนึ่ง ฟังดูทะ
ๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมาผสมกันอยู่ได้ในที่เดียวได้แบบนี้ ผมมีลูกน้องสองคนคือเจ้าปุ๋ย รุ่นน้องที่เพาะช่าง กับ เปี๊ยกที่จบการตลาดมาแต่ลุกส์มันติสก์เสียจนเฮียเเจ้าของบริษัทสั่งให้มาทำงานกับผม
"พี่หมาย ศุกรนี้ว่างหรือปล่า" เปี๊ยกพูดพร้อมกับ วางกาแฟร้อนให้ผม
"ขอบใจ" ผมเหล่ไปมองขอบถ้วยเปรอะกาแฟลวกๆ แต่เป็นความปราณีตสุดๆ แล้วของเปี๊ยก
"ว่างเปล่า" น้ำเสียงเปี๊ยกมันเซ้าซี้พอกัน
ผมยกกาแฟขึ้นจิบ
"ว่างเปล่า"
"กาแฟเอ็งน่ะนะ รสชาติยังกะน้ำล้างแก้ว ไม่มีรสชาติสักอย่าง"
มือชงกาแฟ ทำหนาหงอ "ถ้าเอ็งจบโปรเจคด่วนทันวันพุธ ไปไหนไปกัน" ผมยื่นคำขาด เห็นเงาสะท้อนกระจกว่าเปี๊ยกมันเดินออกไปแบบยิ้ม ๆ
ผมไม่รู้ว่าเปี๊ยกมันไปบนอะไรไว้ มันถึงทำงานเสร็จก่อนกำหนดแบบผีจับยัดเช่นนี้ได้ วันพุธผมจึงลากเปี๊ยก ปุ๋ย ไปฉลองกันเล็กๆ ที่ผับเพื่อชีวิตแถวชานเมือง
เจ้าปุ๋ย เป็นทอมบอยรูปหล่อ มันมักจะมีแฟนสวยๆ มาอวดผมกับไอ้เปี๊ยกเป็นประจำ คืนนี้ก็ไม่เว้น สามหนุ่มกับหนึ่งสาวสวยแฟนเจ้าเปี๊ยก จึงนั่งดื่มกันอย่างมีสีสัน ยามลับตาปุ๋ย ผมกับเปี๊ยกพยายามยิงมุกแป๊กๆ ใส่ แฟนสาวของปุ๋ยเป็นระยะ ดูแววแล้ว สาวนางนี้คงมีสัญชาติญาณแยกความดีกับความชั่วออกได้ชัด เธอจึงไม่เพรี่ยงพร้ำกับมุกกาก ๆ ฉาบเสน่ห์ที่หนุ่มผมยาวทั้งสองพยายามยิงใส่
พอนักดนตรีลงมาพัก ผมกับเปี๊ยก็เมาแทบจะปลิ้นเพราะความผิดหวังซ้ำซ้อน เหมือนเรด้าห์ในการสอดส่ายหาหญิงของเราจะชำรุดคืนนี้
"พี่หมาย ผู้หญิงจะชอบแบดบอยอย่างเราสองคน พี่เชื่อผมสิ" เปี๊ยกเคยบอกกับผมตอนเมาด้วยกันหนแรก ผมจำได้สนิทใจ มันไม่เคยเป็นจริงสักหนเลย แต่ผมก็หวังว่าถ้ามีเพลงจังหวะสามช่าขึนมาผมจะเต้นให้กระจายเลย
แต่เต้นไม่ไหว ไม่ไหว ม่ายหวาย พอเพลงบัวลอยขึ้น ไอ้เปี๊ยกมันออกสเตป เต้นท่ายาก ผมจะทรงกายืนตรงยังยาห ปุ๋ยกับแฟนก็ร้องเย้ เย ตบไม้ตบมือตามอย่างกะเชียร์มวยไทยไฟลต์ ผมเงยหน้าไปมองแฟนเจ้าปุ๋ย แล้วบอกกับตัวเองว่า เวลานางอ้าปากกว้าง ๆและมีกริยารั่ว ๆ ไม่เห็นจะน่ารักเหมือนที่เห็นตอนแรกเลย นึกแล้วก็ขำกับตัวเองที่อดงุ่นเปรี้ยวไม่ได้
ผมเดินแบบรุนตัวไปในทิศทางซ้าย 15 ขวา 19 ไปห้องนำหลังผับ และพยายามชะโงกตัวมองเด็กประจำห้องน้ำที่มักมาแอบซ้อมมวยบนแผ่นหลังคลายความเมาให้ผม ปลอดภัยไว้ก่อน ผมบอกกับตัวเอง เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ยามนี้ผมแยกสีแบงค์ไม่ถูก ทิปด้วยแบงค์ร้อยบ่อย เศร้าที่เห็นแบงค์ยี่สิบติดกระเป๋ากลับบ้านไป
ปั่ก ๆ พร่อกๆ แพร่กๆ เสียงเด็กประจำห้องน้ำทุบหลัง ขยำสะบักแขกคนอื่น ดังออกมาจากห้องน้ำชายไม่ขาดสาย
"อุย" แรงขนาดนี้ผมคงคอนโทรลของเหลวลำบาก
ถึงปวดฉี่หนักหนาอย่างไรก็ยังเสียดายเงินอยู่นะ ผมเปลี่ยนเป้าหมาย ออกไปด้านข้างลานจอดรถ ไม่ไกลกัน ขณะผมกำลังยิงกระต่าย (แปลว่าผู้ชายปัสสวะ) เรด้าห์ผมกลับผงกแก่นแท่นนำวิถีขึ้นหาเป้าหมาย ตรงม้านั่งเตี้ยๆ มีสาวนางหนึ่งนั่งมองจันทร์คลายความเมามึนพ่นควันบุหรี่ปุ๋ย ๆ อยู่ เรียวขายาวในชุดกระโปรงสั้นแค่เข่าสีเขียวขี้ม้าของเธอ ทำเอาผมวูบไหว
ผมหมือนถูกสะกดด้วยมนต์จันทรา สาวนางนั้นหันหน้ามา เธอคือคนที่ผมเจอที่ตลาดนัดคนเดินศุกร์ที่แล้ว ผมคิดว่าเธอจำผมได้
ผมบรรจงรูดซิบให้เรียบร้อย รอเธอดีดก้นบุหรี่วาบไปวาบลมลงพื้น ผมก็ก้าวไปประจันหน้าเธอเพื่ออะไรบางอย่าง เพราะทางดินมันบังคับทางเข้าผับไว้แบบนั้น
หนึ่ง สอง สาม เราจะได้พบหน้ากันผมออกไปยืนหน้าเธอ แต่ขาขวาผมมันอ่อนแรง แอลกอฮอร์ฉุดสติผมลงไปกองกับพื้น ก่อนสติจะดับวูปเหมือนตำรวจ 100 นาย ยกโรงพักมาผับ ปิดไฟตรวจฉี่ ผมได้ยินเสียงเธอ ร้องให้เด็กประจำห้องน้ำมาช่วยผม เธอมีน้ำใจมาก เสียงก็สดใสน่ารักจริง ๆ
" ช่วยด้วยค่ะ "น้องๆ ขา.......มาช่วยลุงคนนี้หน่อยค่ะ เมาเป็นหมาเลย"
น่ารักจริง ๆ
หนุ่มชอบของเก่ากับสาวขี้เหงา (2) ความบังเอิญไม่มีเหตุผล
"ไง พี่ เมื่อคืน ดึก เหรอ"
ไอ้เปี๊ยก รุ่นน้องที่แผนกการตลาดร้องทักเสียงดัง ทำเอาผมอับอายหนักข้อขึ้นไปอีก เพราะสายตาทุกคู่ ดูจะจับจ้องเป๋งมาที่ผม
การถลาแบบรุนตัวไปในทิศทางซ้าย 15 ขวา 19 จึงป็นท่าประจำของผมในการหลบหนีสายตาที่ต่อว่า สมเพสเข้าคอกของตัวเองให้เร็วที่สุด
ผมเป็น อาร์ตไดเร็กเตอร์ ในแผนกการตลาดของบริษัทรับตกแต่งภายในกับโฆษณาแห่งหนึ่ง ฟังดูทะๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมาผสมกันอยู่ได้ในที่เดียวได้แบบนี้ ผมมีลูกน้องสองคนคือเจ้าปุ๋ย รุ่นน้องที่เพาะช่าง กับ เปี๊ยกที่จบการตลาดมาแต่ลุกส์มันติสก์เสียจนเฮียเเจ้าของบริษัทสั่งให้มาทำงานกับผม
"พี่หมาย ศุกรนี้ว่างหรือปล่า" เปี๊ยกพูดพร้อมกับ วางกาแฟร้อนให้ผม
"ขอบใจ" ผมเหล่ไปมองขอบถ้วยเปรอะกาแฟลวกๆ แต่เป็นความปราณีตสุดๆ แล้วของเปี๊ยก
"ว่างเปล่า" น้ำเสียงเปี๊ยกมันเซ้าซี้พอกัน
ผมยกกาแฟขึ้นจิบ
"ว่างเปล่า"
"กาแฟเอ็งน่ะนะ รสชาติยังกะน้ำล้างแก้ว ไม่มีรสชาติสักอย่าง"
มือชงกาแฟ ทำหนาหงอ "ถ้าเอ็งจบโปรเจคด่วนทันวันพุธ ไปไหนไปกัน" ผมยื่นคำขาด เห็นเงาสะท้อนกระจกว่าเปี๊ยกมันเดินออกไปแบบยิ้ม ๆ
ผมไม่รู้ว่าเปี๊ยกมันไปบนอะไรไว้ มันถึงทำงานเสร็จก่อนกำหนดแบบผีจับยัดเช่นนี้ได้ วันพุธผมจึงลากเปี๊ยก ปุ๋ย ไปฉลองกันเล็กๆ ที่ผับเพื่อชีวิตแถวชานเมือง
เจ้าปุ๋ย เป็นทอมบอยรูปหล่อ มันมักจะมีแฟนสวยๆ มาอวดผมกับไอ้เปี๊ยกเป็นประจำ คืนนี้ก็ไม่เว้น สามหนุ่มกับหนึ่งสาวสวยแฟนเจ้าเปี๊ยก จึงนั่งดื่มกันอย่างมีสีสัน ยามลับตาปุ๋ย ผมกับเปี๊ยกพยายามยิงมุกแป๊กๆ ใส่ แฟนสาวของปุ๋ยเป็นระยะ ดูแววแล้ว สาวนางนี้คงมีสัญชาติญาณแยกความดีกับความชั่วออกได้ชัด เธอจึงไม่เพรี่ยงพร้ำกับมุกกาก ๆ ฉาบเสน่ห์ที่หนุ่มผมยาวทั้งสองพยายามยิงใส่
พอนักดนตรีลงมาพัก ผมกับเปี๊ยก็เมาแทบจะปลิ้นเพราะความผิดหวังซ้ำซ้อน เหมือนเรด้าห์ในการสอดส่ายหาหญิงของเราจะชำรุดคืนนี้
"พี่หมาย ผู้หญิงจะชอบแบดบอยอย่างเราสองคน พี่เชื่อผมสิ" เปี๊ยกเคยบอกกับผมตอนเมาด้วยกันหนแรก ผมจำได้สนิทใจ มันไม่เคยเป็นจริงสักหนเลย แต่ผมก็หวังว่าถ้ามีเพลงจังหวะสามช่าขึนมาผมจะเต้นให้กระจายเลย
แต่เต้นไม่ไหว ไม่ไหว ม่ายหวาย พอเพลงบัวลอยขึ้น ไอ้เปี๊ยกมันออกสเตป เต้นท่ายาก ผมจะทรงกายืนตรงยังยาห ปุ๋ยกับแฟนก็ร้องเย้ เย ตบไม้ตบมือตามอย่างกะเชียร์มวยไทยไฟลต์ ผมเงยหน้าไปมองแฟนเจ้าปุ๋ย แล้วบอกกับตัวเองว่า เวลานางอ้าปากกว้าง ๆและมีกริยารั่ว ๆ ไม่เห็นจะน่ารักเหมือนที่เห็นตอนแรกเลย นึกแล้วก็ขำกับตัวเองที่อดงุ่นเปรี้ยวไม่ได้
ผมเดินแบบรุนตัวไปในทิศทางซ้าย 15 ขวา 19 ไปห้องนำหลังผับ และพยายามชะโงกตัวมองเด็กประจำห้องน้ำที่มักมาแอบซ้อมมวยบนแผ่นหลังคลายความเมาให้ผม ปลอดภัยไว้ก่อน ผมบอกกับตัวเอง เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ยามนี้ผมแยกสีแบงค์ไม่ถูก ทิปด้วยแบงค์ร้อยบ่อย เศร้าที่เห็นแบงค์ยี่สิบติดกระเป๋ากลับบ้านไป
ปั่ก ๆ พร่อกๆ แพร่กๆ เสียงเด็กประจำห้องน้ำทุบหลัง ขยำสะบักแขกคนอื่น ดังออกมาจากห้องน้ำชายไม่ขาดสาย
"อุย" แรงขนาดนี้ผมคงคอนโทรลของเหลวลำบาก
ถึงปวดฉี่หนักหนาอย่างไรก็ยังเสียดายเงินอยู่นะ ผมเปลี่ยนเป้าหมาย ออกไปด้านข้างลานจอดรถ ไม่ไกลกัน ขณะผมกำลังยิงกระต่าย (แปลว่าผู้ชายปัสสวะ) เรด้าห์ผมกลับผงกแก่นแท่นนำวิถีขึ้นหาเป้าหมาย ตรงม้านั่งเตี้ยๆ มีสาวนางหนึ่งนั่งมองจันทร์คลายความเมามึนพ่นควันบุหรี่ปุ๋ย ๆ อยู่ เรียวขายาวในชุดกระโปรงสั้นแค่เข่าสีเขียวขี้ม้าของเธอ ทำเอาผมวูบไหว
ผมหมือนถูกสะกดด้วยมนต์จันทรา สาวนางนั้นหันหน้ามา เธอคือคนที่ผมเจอที่ตลาดนัดคนเดินศุกร์ที่แล้ว ผมคิดว่าเธอจำผมได้
ผมบรรจงรูดซิบให้เรียบร้อย รอเธอดีดก้นบุหรี่วาบไปวาบลมลงพื้น ผมก็ก้าวไปประจันหน้าเธอเพื่ออะไรบางอย่าง เพราะทางดินมันบังคับทางเข้าผับไว้แบบนั้น
หนึ่ง สอง สาม เราจะได้พบหน้ากันผมออกไปยืนหน้าเธอ แต่ขาขวาผมมันอ่อนแรง แอลกอฮอร์ฉุดสติผมลงไปกองกับพื้น ก่อนสติจะดับวูปเหมือนตำรวจ 100 นาย ยกโรงพักมาผับ ปิดไฟตรวจฉี่ ผมได้ยินเสียงเธอ ร้องให้เด็กประจำห้องน้ำมาช่วยผม เธอมีน้ำใจมาก เสียงก็สดใสน่ารักจริง ๆ
" ช่วยด้วยค่ะ "น้องๆ ขา.......มาช่วยลุงคนนี้หน่อยค่ะ เมาเป็นหมาเลย"
น่ารักจริง ๆ