ขอแทนตัวเองว่า เอม ละกันค่ะ
เราอายุ 23 เพิ่งเรียนจบ ป.ตรี
เริ่มเรื่องเลยนะคะ คือเรามีแฟนค่ะ ขอแทนว่าชื่อ แบงค์ละกัน เค้าเป็นรุ่นพี่ แก่กว่าประมาณ 5 ปี คือรู้จักกันมานานตั้งแต่เด็กค่ะ (เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน) แต่เพิ่งมาคบกันได้ 2 ปี
คือขอท้าวความก่อนนะคะ บ้านเราเนี่ย มีพี่ชายหนึ่งคน เรา แล้วก็น้องสาวอีกหนึ่งคน ปกติเวลามีแฟนหรือมีคนมาจีบเนี่ย ก็จะเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ไม่ได้สนับสนุนมากแบบไม่ได้เอ่ยปากชวนมากินข้าวอะไรอย่างนั้น คือแค่รับรู้ แต่ถ้าเราอยากชวนมาก็ชวน ไม่ได้ว่า แล้วบ้านเราก็ไม่เคยทะเลาะกัน ถ้ามีอะไรก็จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า
พอเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนที่พี่เค้าเริ่มจีบเรา เราก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เงียบ (แม่รู้จักเค้าอยู่ก่อนแล้วในฐานะรุ่นพี่เรา) แล้วเย็นวันนึงเราก็บอกว่าเนี่ย เย็นนี้ชวนเค้ามากินข้าวแล้วนะ แม่ก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอเค้ามา เค้าก็ซื้อกับข้าวมาให้ด้วย ตามมารยาท ก็กินๆปกติ แล้วเค้าก็กลับไป
พอกลับไปเท่านั้นและ แม่เราเริ่มเลย
แม่ : "โง่ ทำไมถึงไปคบกับมัน"
เราก็งงดิ เพราะแต่ก่อนแม่ก็ดูจะสนิทกับเค้า(ในฐานะรุ่นพี่เรา) แบบทักทายพูดคุยกันได้แบบสนิทสนม แต่พอมาจีบเรากลายเป็นไม่พอใจ แล้วเราก็โกรธมากที่เค้ามาด่าเราว่าโง่ เลยเถียงกันไปเถียงกันมา เพราะเราก็คิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด
1. เพราะเราไม่ได้โกหก ปิดบัง เหมือนเคยมีข้อตกลงกันว่ามีอะไรให้บอก ให้เล่าให้ฟัง เราก็เล่า พามาที่บ้าน แบบไม่ได้คิดจะปกปิดอะ แต่สุดท้ายมาโดนด่าแบบนี้
2. ยิ่งเราเถียง แม่เราก็ยิ่งมีอคติมากว่าเราไปปกป้องเค้า ยิ่งเถียงไม่ได้ยิ่งพาลไปถึงขั้นว่า "เนี่ยดูสิ ทำเป็นมากินข้าวมาพูดจาดีครับครับกับแม่ เสแสร้ง" คือเราก็งง คือปกติเด็กจะพูดกับผู้ใหญ่จะให้พูดยังไงเหรอ แล้วการที่เค้ามากินข้าวบ้านเราแล้วเค้าทำตัวมีมารยาทนี่คือผิด คือจะต้องให้ทำตัวเป็นกุ๊ยเหรอถึงจะไม่เสแสร้ง?
ขอเล่าย้อนนิดนึง คือแบงค์เนี่ยก่อนจะมาจีบเรา เค้าก็เสเพลอยู่พักนึง(ตอนเค้าวัยรุ่น) แบบเรียนไม่จบ(เพิ่งจบก่อนมาจีบเรา สรุปคือเรียน 6 ปี) คือเรารู้ว่าเค้าไม่ชอบเรียนหนึงสือ แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือเค้าทำงานเล็กๆน้อยๆเก็บเงินใช้เอง จนซื้อรถเองได้ เค้าชอบปาร์ตี้เฮฮา เราก็ไปเที่ยวกับเค้าบ่อย เลยทำให้สนิทกันมาก่อน(ซึ่งตอนนั้นแม่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย) สรุปแม่ไม่พอใจกับอดีตเค้าที่เสเพล และคิดว่าตอนนี้เค้าก็ยังเป็นอยู่
แม่ด่าเราใหญ่ว่าเนี่ยไม่รู้เหราว่าอดีตเค้าเป็นคนยังไง ทำไมถึงไปคบกับมัน เราก็ได้แต่เถียงกลับว่าก็รู้ แต่มันก็แค่อดีต เพราะเราก็รู้สึกว่าตั้งแต่เค้ามาจีบเราเค้าก็พยายามทำตัวให้ดีขึ้น แม่เราก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าเค้ามาเสแสร้ง อยู่กับเค้า24ชม.หรือไง รู้เหรอไงว่าวันๆเค้าไปกินเหล้าเมายาที่ไหน คือเราก็ไม่รู้จะเถียงยังไงแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ 24 ชม. แต่คนคบกันก็ต้องคุยกันไว้ใจกันปะ แล้วเราก็ไม่ได้โง่ถ้าเค้าจะหลอก เราก็แอบเสียใจนะที่แม่คิดว่าเราโง่มากเหรอ ทั้งๆที่ผ่านมาเราก็เรียนดีมาตลอด เรื่องเรียนไม่เท่าไหร่ มันก็แค่ตำรา แต่ในชีวิตจริงเราก็ใช้ชีวิตด้วยความเฉลียว ไม่เคยมีใครมาเอาเปรียบได้ แล้วทำไมแม่ทำเป็นเหมือนไม่เคยรู้จักเราเลย
การเถียงกันครั้งนั้นจบไปด้วยความมึนตึง แล้วเหมือนแม่ก็ค่อยๆลืมไป (เค้าคิดว่าเราเลิกกะพี่แบงค์ไปตามที่เค้าต้องการ)
จนผ่านมา 4-5 เดือน เหมือนมีคนมาบอกว่าเนี่ยเห็นเราเดินอยู่กับพี่แบงค์ที่ห้าง
ตกเย็นเค้าก็เรียกเราไปคุย ว่ายังไม่เลิกติดต่อกับ"มัน"อีกเหรอ
เรา : ก็ไม่เคยพูดหนิว่าจะเลิก
แม่ : นี่เตือนอะไรเดี๋ยวนี้ไม่ฟังเลยใช่มั้ย (เริ่มขึ้นเสียง)
เรา : ก็ฟัง แล้วก็เอามาคิดวิเคราะห์เอง แล้วก็คิดว่าสิ่งที่แม่เข้าใจมันผิด ก็เลยไม่ทำตาม(เลิก)อย่างที่แม่ต้องการ
แม่ : แล้วไม่เห็นเหรอว่าอดีตเค้าเป็นคนยังไง
เรา : ก็รู้ แต่ดูที่ปัจจุบันมากกว่า ว่าเค้าพยายามจะทำตัวให้ดีขึ้นขนาดไหน อดีตใครก็ผิดพลาดกันทั้งนั้น
แม่ : นี่แม่เป็นแม่เตือนนี่จะไม่ฟังกันเลยใช่มั้ย!
เรา : ก็รับฟัง แต่ไม่ทำตาม ถ้าจะต้องทำตาม เค้าเรียกว่าสั่ง! สั่งให้เลิก ไม่ใช่เตือน!
แม่ : นี่เห็นผู้ชายดีกว่าแม่ใช่มั้ย ถึงกล้าเถียงเนี่ย!
เรา : ไม่ได้เห็นผู้ชายดีกว่า ไม่ได้จะเลือกระหว่างแม่กับผู้ชายเลย ไม่ว่าจะเป็นคนนี้หรือคนไหน แต่นี่มันเป็นปัญหาระหว่างแม่กับตัวหนู แม่กำลังจะกดดันให้เลือก ระหว่างสิ่งที่แม่ต้องการ กับสิ่งที่หนูต้องการ!
แม่ : นี่มองไม่เห็นความหวังดีของแม่เลยใช่มั้ย
เรา : หวังดี หรือต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการกันแน่ ถ้าหวังดี ก็ต้องโอเคกับการที่หนูมีความสุขสิ คบกับเค้า หนูไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลย ไม่เคยคิดจะปิดบัง แต่ในเมื่อบอกไปแล้วโดนด่าอย่างที่ทะเลาะกันครั้งแรก ใครจะไปอยากเล่าอยากพูดอีก การเรียนหนูก็ไม่ได้เสีย แล้วเค้าก็ไม่ได้พาหนูไปกินเหล้าเมายาที่ไหน ตัวเค้าเองก็แทบจะเลิกเที่ยวด้วยซ้ำ แล้วเนี่ยมันยังไม่ดีอีกเหรอ ยังต้องหวังให้อะไรดีอีกเหรอ
การเถียงครั้งนั้น อีกเช่นเคย จบลงด้วยความมึนตึง และแม่ ที่มโนไปว่า เราจะเลิกกับเค้า(อีกแล้ว)
หลังจากนั้นเราก็คบเค้าต่อไป แอบไปไหนมาไหน ก็ยอมรับนะว่าโกหก ว่าไปกับเพื่อนบ้าง ไปทำรายงานบ้าง รู้สึกผิด แต่จะทำไงได้ พูดไปก็ทะเลาะ
จนผ่านมาอีกซักครึ่งปี ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันอีก
คือแม่เราไปเผอิญเจอเค้าที่ร้านอาหาร แล้วเค้าทนไม่ไหว เหมือนอยากเคลียร์ตัวเอง ก็เลยเดินเข้ามาขอคุยด้วย ก็เดินเข้ามาคุยกับแม่เราเลย ถามว่าไปเอามาจากไหนที่เค้าไปกินเหล้าเมายาทุกวันอะไรงี้ เราไม่รู้รายละเอียดมาก ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่น้องโทรมาบอก กลับมาบ้านแม่ก็ขึ้นมาคุยกับเราถึงห้อง (โดยที่คิดว่าเราเลิกกับเค้าไปแล้ว)
แม่ : นี่เห็นมั้ย แม่บอกแล้วมันมารยาททรามแค่ไหน เข้ามาคุยไม่เห็นหัวแม่เลย
เรา : แม่ไม่เคยบอกให้เลิกเพราะเค้ามารยาททราม แม่บอกให้เลิกเพราะอดีตของเค้าไม่ใช่เหรอ
แม่ : แต่แม่ก็รู้ว่ามันเป็นคนแบบนี้
เรา : แม่รู้เหรอว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น รู้ล่วงหน้าตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้วที่บอกให้เลิกเหรอว่าวันนี้เค้าจะเข้ามาคุยกับแม่แบบนี้ แล้วตอนนั้นก็ไม่เห็นพูดอะไรแบบนี้หนิ ด่าแต่อดีตๆๆของเค้า เก่งเนอะ รู้ไปหมดทุกอย่าง
แม่ : นี่แล้วจะมาโมโหใส่แม่ทำไมเนี่ย ก็แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ
(พี่ชายเราที่ได้ยินเริ่มทนไม่ได้)
พี่ : แม่ หยุดซะทีเถอะ นี่เค้ายังคบกันอยู่ เค้าแอบคบกันมา 2 ปีแล้ว รู้บ้างรึเปล่า
แม่ : (เงียบ)
ย้อนหน่อย คือพี่ชายเราตอนแรกก็ไม่ได้เห็นด้วยเลยที่เราจะคบกับเค้า ก็เหตุผลเดียวกับแม่แหละ ว่าเค้าเคยเสเพล ช่วงเดือนแรกๆเราก็คุยกับพี่เราไม่ได้เลย จนเราทนไม่ไหว ก็เข้าไปพูดกับพี่ตรงๆ บอกว่า ไม่ต้องเห็นด้วยตอนนี้ก็ได้ แต่ให้โอกาสเค้าหน่อย ให้เค้าได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้าเป็นห่วงหนูจริงๆก็ช่วยกันดู ถ้าคิดว่าเค้าไม่ดีจริงๆ ก็ค่อยมาว่ากันอีกที พี่ชายเราก็โอเค (เราก็เคยพูดกับแม่แบบนี้นะ แบบพยายามใช้เหตุผลมากๆ ว่าถ้าเป็นห่วงก็มาช่วยกันดูสิ ให้โอกาสเค้าก่อน แต่แม่เราไม่ยอมท่าเดียว T__T) สรุปพี่ชายเราเค้าก็ดูอยู่ห่างๆมาตลอด จนปีนึงสองปีผ่านไป เค้าก็เห็นว่าแบงค์จริงใจกับเราจริงๆและไม่ได้พาเราไปทางไม่ดี เค้าก็เลยเข้าข้างเราแล้ว มีอะไรเราก็ปรึกษาเค้าเต็มที่
ต่อ
พี่ : เอก(ชื่อพี่)ก็รับรู้มาตลอด เค้าไม่ได้ทำอะไรเสียหายกันเลย
แม่ : อ๋อ เดี๋ยวนี้รวมหัวกันหลอกแม่ใช่มั้ย
พี่ : ก็แล้วมีใครพูดอะไรกับแม่ได้มั้ยล่ะ
แม่ : แล้วไง เห็นดีเห็นงามด้วย สนับสนุนกันใหญ่
พี่ : ก็เค้าก็จริงใจกับน้อง
แม่ : แน่สิ ก็ทำมาเป็นทำดีด้วย
พี่ : อ่าว แล้วเค้ามาทำดีกับน้องเราแล้วมันไม่ดีตรงไหน
แม่ : (เงียบ)
พี่ : นี่แม่ต้องการอะไรกันแน่
แม่ : มันไม่คู่ควรกับน้อง แม่ต้องการให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด
พี่ : แล้วใครที่คู่ควร ต้องเป็นดาราเหรอ ต้องเอามหาเศรษฐีรวยล้นฟ้าเหรอ ไม่เข้าใจ
แม่ : (เงียบ)
: เออ รวมหัวกันเข้าไป ไม่เห็นหัวชั้นอยู่แล้วหนิ เห็นผู้ชายดีกว่าชั้นอยู่แล้วหนิ
แล้วก็เถียงกันต่ออีกเยอะเลยค่ะ คร่าวๆก็คือ ยังไงนางก็ไม่ยอม ทุกวันนี้ก็สงครามเย็นใส่เรา ไม่พูดด้วย ทำหน้าหงิกหน้างอตลอดเวลา ยิ่งเวลาพูดชื่อแบงค์ขึ้นมา(เวลาเราพูดกับพี่ไรงี้)
พี่พิมพ์มายืดยาวจริงๆก็แค่อยากระบายน่ะค่ะ ขอบคุณที่อ่านนะคะ (ถ้ามีใครอ่านจบ 55) อยากขอความเห็นหน่อยว่า
1. เราเลวมากเลยเหรอ แต่เราคิดว่าเราก็มีเหตุผลนะ ไม่ได้เป็นคนโลกสวยแบบ บุญคุณแม่ล้นฟ้า ต้องเชื่อฟัง ห้ามเถียง ไม่งั้นชีวิตนี้คงไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองต้องการ
2. เราควรจะทำยังไงดี คือทุกครั้งที่เถียงกัน เค้าก็จะพูดแบบ นี่ไม่เห็นความหวังดีของแม่เลยเหรอ คือเราก็แบบ ถ้าหวังดีแล้วไม่ฟังเหตุผลเลยแบบนี้ มันก็ไม่ใช่ปะ แล้วไง ลูกทุกคนต้องทำตามอย่างที่แม่ต้องการ เพียงเพราะความ"หวังดี"เนี่ยนะ มันก็ไม่ต่างจากแม่ที่บังคับลูกเรียนหมอ บังคับลูกไม่ให้เป็นตุ๊ดแบบนี้ปะ (ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า แต่เราว่ามันก็แนวเดียวกัน คือรับในสิ่งที่ลูกต้องการไม่ได้ และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ดีกว่า)
3. ไม่รู้แล้ว แค่อยากระบาย รับฟังทุกความเห็นนะแจ๊ะ
แม่สั่งให้เลิกกับแฟน เราไม่เลิก กลายเป็นลูกเนรคุณ เหรอ?
เราอายุ 23 เพิ่งเรียนจบ ป.ตรี
เริ่มเรื่องเลยนะคะ คือเรามีแฟนค่ะ ขอแทนว่าชื่อ แบงค์ละกัน เค้าเป็นรุ่นพี่ แก่กว่าประมาณ 5 ปี คือรู้จักกันมานานตั้งแต่เด็กค่ะ (เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียน) แต่เพิ่งมาคบกันได้ 2 ปี
คือขอท้าวความก่อนนะคะ บ้านเราเนี่ย มีพี่ชายหนึ่งคน เรา แล้วก็น้องสาวอีกหนึ่งคน ปกติเวลามีแฟนหรือมีคนมาจีบเนี่ย ก็จะเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ไม่ได้สนับสนุนมากแบบไม่ได้เอ่ยปากชวนมากินข้าวอะไรอย่างนั้น คือแค่รับรู้ แต่ถ้าเราอยากชวนมาก็ชวน ไม่ได้ว่า แล้วบ้านเราก็ไม่เคยทะเลาะกัน ถ้ามีอะไรก็จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า
พอเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนที่พี่เค้าเริ่มจีบเรา เราก็เล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เงียบ (แม่รู้จักเค้าอยู่ก่อนแล้วในฐานะรุ่นพี่เรา) แล้วเย็นวันนึงเราก็บอกว่าเนี่ย เย็นนี้ชวนเค้ามากินข้าวแล้วนะ แม่ก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอเค้ามา เค้าก็ซื้อกับข้าวมาให้ด้วย ตามมารยาท ก็กินๆปกติ แล้วเค้าก็กลับไป
พอกลับไปเท่านั้นและ แม่เราเริ่มเลย
แม่ : "โง่ ทำไมถึงไปคบกับมัน"
เราก็งงดิ เพราะแต่ก่อนแม่ก็ดูจะสนิทกับเค้า(ในฐานะรุ่นพี่เรา) แบบทักทายพูดคุยกันได้แบบสนิทสนม แต่พอมาจีบเรากลายเป็นไม่พอใจ แล้วเราก็โกรธมากที่เค้ามาด่าเราว่าโง่ เลยเถียงกันไปเถียงกันมา เพราะเราก็คิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด
1. เพราะเราไม่ได้โกหก ปิดบัง เหมือนเคยมีข้อตกลงกันว่ามีอะไรให้บอก ให้เล่าให้ฟัง เราก็เล่า พามาที่บ้าน แบบไม่ได้คิดจะปกปิดอะ แต่สุดท้ายมาโดนด่าแบบนี้
2. ยิ่งเราเถียง แม่เราก็ยิ่งมีอคติมากว่าเราไปปกป้องเค้า ยิ่งเถียงไม่ได้ยิ่งพาลไปถึงขั้นว่า "เนี่ยดูสิ ทำเป็นมากินข้าวมาพูดจาดีครับครับกับแม่ เสแสร้ง" คือเราก็งง คือปกติเด็กจะพูดกับผู้ใหญ่จะให้พูดยังไงเหรอ แล้วการที่เค้ามากินข้าวบ้านเราแล้วเค้าทำตัวมีมารยาทนี่คือผิด คือจะต้องให้ทำตัวเป็นกุ๊ยเหรอถึงจะไม่เสแสร้ง?
ขอเล่าย้อนนิดนึง คือแบงค์เนี่ยก่อนจะมาจีบเรา เค้าก็เสเพลอยู่พักนึง(ตอนเค้าวัยรุ่น) แบบเรียนไม่จบ(เพิ่งจบก่อนมาจีบเรา สรุปคือเรียน 6 ปี) คือเรารู้ว่าเค้าไม่ชอบเรียนหนึงสือ แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือเค้าทำงานเล็กๆน้อยๆเก็บเงินใช้เอง จนซื้อรถเองได้ เค้าชอบปาร์ตี้เฮฮา เราก็ไปเที่ยวกับเค้าบ่อย เลยทำให้สนิทกันมาก่อน(ซึ่งตอนนั้นแม่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย) สรุปแม่ไม่พอใจกับอดีตเค้าที่เสเพล และคิดว่าตอนนี้เค้าก็ยังเป็นอยู่
แม่ด่าเราใหญ่ว่าเนี่ยไม่รู้เหราว่าอดีตเค้าเป็นคนยังไง ทำไมถึงไปคบกับมัน เราก็ได้แต่เถียงกลับว่าก็รู้ แต่มันก็แค่อดีต เพราะเราก็รู้สึกว่าตั้งแต่เค้ามาจีบเราเค้าก็พยายามทำตัวให้ดีขึ้น แม่เราก็ไม่ยอมท่าเดียว บอกว่าเค้ามาเสแสร้ง อยู่กับเค้า24ชม.หรือไง รู้เหรอไงว่าวันๆเค้าไปกินเหล้าเมายาที่ไหน คือเราก็ไม่รู้จะเถียงยังไงแล้ว ก็ไม่ได้อยู่ 24 ชม. แต่คนคบกันก็ต้องคุยกันไว้ใจกันปะ แล้วเราก็ไม่ได้โง่ถ้าเค้าจะหลอก เราก็แอบเสียใจนะที่แม่คิดว่าเราโง่มากเหรอ ทั้งๆที่ผ่านมาเราก็เรียนดีมาตลอด เรื่องเรียนไม่เท่าไหร่ มันก็แค่ตำรา แต่ในชีวิตจริงเราก็ใช้ชีวิตด้วยความเฉลียว ไม่เคยมีใครมาเอาเปรียบได้ แล้วทำไมแม่ทำเป็นเหมือนไม่เคยรู้จักเราเลย
การเถียงกันครั้งนั้นจบไปด้วยความมึนตึง แล้วเหมือนแม่ก็ค่อยๆลืมไป (เค้าคิดว่าเราเลิกกะพี่แบงค์ไปตามที่เค้าต้องการ)
จนผ่านมา 4-5 เดือน เหมือนมีคนมาบอกว่าเนี่ยเห็นเราเดินอยู่กับพี่แบงค์ที่ห้าง
ตกเย็นเค้าก็เรียกเราไปคุย ว่ายังไม่เลิกติดต่อกับ"มัน"อีกเหรอ
เรา : ก็ไม่เคยพูดหนิว่าจะเลิก
แม่ : นี่เตือนอะไรเดี๋ยวนี้ไม่ฟังเลยใช่มั้ย (เริ่มขึ้นเสียง)
เรา : ก็ฟัง แล้วก็เอามาคิดวิเคราะห์เอง แล้วก็คิดว่าสิ่งที่แม่เข้าใจมันผิด ก็เลยไม่ทำตาม(เลิก)อย่างที่แม่ต้องการ
แม่ : แล้วไม่เห็นเหรอว่าอดีตเค้าเป็นคนยังไง
เรา : ก็รู้ แต่ดูที่ปัจจุบันมากกว่า ว่าเค้าพยายามจะทำตัวให้ดีขึ้นขนาดไหน อดีตใครก็ผิดพลาดกันทั้งนั้น
แม่ : นี่แม่เป็นแม่เตือนนี่จะไม่ฟังกันเลยใช่มั้ย!
เรา : ก็รับฟัง แต่ไม่ทำตาม ถ้าจะต้องทำตาม เค้าเรียกว่าสั่ง! สั่งให้เลิก ไม่ใช่เตือน!
แม่ : นี่เห็นผู้ชายดีกว่าแม่ใช่มั้ย ถึงกล้าเถียงเนี่ย!
เรา : ไม่ได้เห็นผู้ชายดีกว่า ไม่ได้จะเลือกระหว่างแม่กับผู้ชายเลย ไม่ว่าจะเป็นคนนี้หรือคนไหน แต่นี่มันเป็นปัญหาระหว่างแม่กับตัวหนู แม่กำลังจะกดดันให้เลือก ระหว่างสิ่งที่แม่ต้องการ กับสิ่งที่หนูต้องการ!
แม่ : นี่มองไม่เห็นความหวังดีของแม่เลยใช่มั้ย
เรา : หวังดี หรือต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการกันแน่ ถ้าหวังดี ก็ต้องโอเคกับการที่หนูมีความสุขสิ คบกับเค้า หนูไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลย ไม่เคยคิดจะปิดบัง แต่ในเมื่อบอกไปแล้วโดนด่าอย่างที่ทะเลาะกันครั้งแรก ใครจะไปอยากเล่าอยากพูดอีก การเรียนหนูก็ไม่ได้เสีย แล้วเค้าก็ไม่ได้พาหนูไปกินเหล้าเมายาที่ไหน ตัวเค้าเองก็แทบจะเลิกเที่ยวด้วยซ้ำ แล้วเนี่ยมันยังไม่ดีอีกเหรอ ยังต้องหวังให้อะไรดีอีกเหรอ
การเถียงครั้งนั้น อีกเช่นเคย จบลงด้วยความมึนตึง และแม่ ที่มโนไปว่า เราจะเลิกกับเค้า(อีกแล้ว)
หลังจากนั้นเราก็คบเค้าต่อไป แอบไปไหนมาไหน ก็ยอมรับนะว่าโกหก ว่าไปกับเพื่อนบ้าง ไปทำรายงานบ้าง รู้สึกผิด แต่จะทำไงได้ พูดไปก็ทะเลาะ
จนผ่านมาอีกซักครึ่งปี ก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันอีก
คือแม่เราไปเผอิญเจอเค้าที่ร้านอาหาร แล้วเค้าทนไม่ไหว เหมือนอยากเคลียร์ตัวเอง ก็เลยเดินเข้ามาขอคุยด้วย ก็เดินเข้ามาคุยกับแม่เราเลย ถามว่าไปเอามาจากไหนที่เค้าไปกินเหล้าเมายาทุกวันอะไรงี้ เราไม่รู้รายละเอียดมาก ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่น้องโทรมาบอก กลับมาบ้านแม่ก็ขึ้นมาคุยกับเราถึงห้อง (โดยที่คิดว่าเราเลิกกับเค้าไปแล้ว)
แม่ : นี่เห็นมั้ย แม่บอกแล้วมันมารยาททรามแค่ไหน เข้ามาคุยไม่เห็นหัวแม่เลย
เรา : แม่ไม่เคยบอกให้เลิกเพราะเค้ามารยาททราม แม่บอกให้เลิกเพราะอดีตของเค้าไม่ใช่เหรอ
แม่ : แต่แม่ก็รู้ว่ามันเป็นคนแบบนี้
เรา : แม่รู้เหรอว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น รู้ล่วงหน้าตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้วที่บอกให้เลิกเหรอว่าวันนี้เค้าจะเข้ามาคุยกับแม่แบบนี้ แล้วตอนนั้นก็ไม่เห็นพูดอะไรแบบนี้หนิ ด่าแต่อดีตๆๆของเค้า เก่งเนอะ รู้ไปหมดทุกอย่าง
แม่ : นี่แล้วจะมาโมโหใส่แม่ทำไมเนี่ย ก็แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ
(พี่ชายเราที่ได้ยินเริ่มทนไม่ได้)
พี่ : แม่ หยุดซะทีเถอะ นี่เค้ายังคบกันอยู่ เค้าแอบคบกันมา 2 ปีแล้ว รู้บ้างรึเปล่า
แม่ : (เงียบ)
ย้อนหน่อย คือพี่ชายเราตอนแรกก็ไม่ได้เห็นด้วยเลยที่เราจะคบกับเค้า ก็เหตุผลเดียวกับแม่แหละ ว่าเค้าเคยเสเพล ช่วงเดือนแรกๆเราก็คุยกับพี่เราไม่ได้เลย จนเราทนไม่ไหว ก็เข้าไปพูดกับพี่ตรงๆ บอกว่า ไม่ต้องเห็นด้วยตอนนี้ก็ได้ แต่ให้โอกาสเค้าหน่อย ให้เค้าได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้าเป็นห่วงหนูจริงๆก็ช่วยกันดู ถ้าคิดว่าเค้าไม่ดีจริงๆ ก็ค่อยมาว่ากันอีกที พี่ชายเราก็โอเค (เราก็เคยพูดกับแม่แบบนี้นะ แบบพยายามใช้เหตุผลมากๆ ว่าถ้าเป็นห่วงก็มาช่วยกันดูสิ ให้โอกาสเค้าก่อน แต่แม่เราไม่ยอมท่าเดียว T__T) สรุปพี่ชายเราเค้าก็ดูอยู่ห่างๆมาตลอด จนปีนึงสองปีผ่านไป เค้าก็เห็นว่าแบงค์จริงใจกับเราจริงๆและไม่ได้พาเราไปทางไม่ดี เค้าก็เลยเข้าข้างเราแล้ว มีอะไรเราก็ปรึกษาเค้าเต็มที่
ต่อ
พี่ : เอก(ชื่อพี่)ก็รับรู้มาตลอด เค้าไม่ได้ทำอะไรเสียหายกันเลย
แม่ : อ๋อ เดี๋ยวนี้รวมหัวกันหลอกแม่ใช่มั้ย
พี่ : ก็แล้วมีใครพูดอะไรกับแม่ได้มั้ยล่ะ
แม่ : แล้วไง เห็นดีเห็นงามด้วย สนับสนุนกันใหญ่
พี่ : ก็เค้าก็จริงใจกับน้อง
แม่ : แน่สิ ก็ทำมาเป็นทำดีด้วย
พี่ : อ่าว แล้วเค้ามาทำดีกับน้องเราแล้วมันไม่ดีตรงไหน
แม่ : (เงียบ)
พี่ : นี่แม่ต้องการอะไรกันแน่
แม่ : มันไม่คู่ควรกับน้อง แม่ต้องการให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด
พี่ : แล้วใครที่คู่ควร ต้องเป็นดาราเหรอ ต้องเอามหาเศรษฐีรวยล้นฟ้าเหรอ ไม่เข้าใจ
แม่ : (เงียบ)
: เออ รวมหัวกันเข้าไป ไม่เห็นหัวชั้นอยู่แล้วหนิ เห็นผู้ชายดีกว่าชั้นอยู่แล้วหนิ
แล้วก็เถียงกันต่ออีกเยอะเลยค่ะ คร่าวๆก็คือ ยังไงนางก็ไม่ยอม ทุกวันนี้ก็สงครามเย็นใส่เรา ไม่พูดด้วย ทำหน้าหงิกหน้างอตลอดเวลา ยิ่งเวลาพูดชื่อแบงค์ขึ้นมา(เวลาเราพูดกับพี่ไรงี้)
พี่พิมพ์มายืดยาวจริงๆก็แค่อยากระบายน่ะค่ะ ขอบคุณที่อ่านนะคะ (ถ้ามีใครอ่านจบ 55) อยากขอความเห็นหน่อยว่า
1. เราเลวมากเลยเหรอ แต่เราคิดว่าเราก็มีเหตุผลนะ ไม่ได้เป็นคนโลกสวยแบบ บุญคุณแม่ล้นฟ้า ต้องเชื่อฟัง ห้ามเถียง ไม่งั้นชีวิตนี้คงไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตัวเองต้องการ
2. เราควรจะทำยังไงดี คือทุกครั้งที่เถียงกัน เค้าก็จะพูดแบบ นี่ไม่เห็นความหวังดีของแม่เลยเหรอ คือเราก็แบบ ถ้าหวังดีแล้วไม่ฟังเหตุผลเลยแบบนี้ มันก็ไม่ใช่ปะ แล้วไง ลูกทุกคนต้องทำตามอย่างที่แม่ต้องการ เพียงเพราะความ"หวังดี"เนี่ยนะ มันก็ไม่ต่างจากแม่ที่บังคับลูกเรียนหมอ บังคับลูกไม่ให้เป็นตุ๊ดแบบนี้ปะ (ไม่รู้เกี่ยวรึเปล่า แต่เราว่ามันก็แนวเดียวกัน คือรับในสิ่งที่ลูกต้องการไม่ได้ และคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ดีกว่า)
3. ไม่รู้แล้ว แค่อยากระบาย รับฟังทุกความเห็นนะแจ๊ะ