[CR] [Review] Crescendo อัลบั้ม Legend Session



ผ่านการทำงานเพลงมาหลากหลายรูปแบบภายใต้ชื่อ 'Crescendo' ไม่ว่าจะเป็น Soul Funk ในช่วงยุคเริ่มต้นของวง Funky ผสม Contemperary Jazz ในช่วงที่มีริคมารับช่วงในตำแหน่งนักร้องนำให้เป็นเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการทำเป็นรูปแบบเพลงบรรเลงออกมาด้วย จนมาถึงนัท นักร้องคนปัจจุบัน กับการเปลี่ยนมาเป็นวงดนตรี Rock แบบที่เรียกได้ว่าแทบจะเต็มรูปแบบในอัลบั้ม Raw และการทดลองนำเอาสำเนียงของดนตรีหลากหลายแบบมาใส่ใน Continue จนมาถึงอัลบั้มชุดล่าสุด 'Legend Session' แม้ Crescendo จะเป็นวงดนตรีที่ผ่านการทำอัลบั้มมามากที่สุดวงนึงของประเทศไทย แต่ก็ยังดูเหมือนว่า พวกเขายังคงมีไอเดียใหม่ๆที่ยังไม่เคยได้ลองทำในงานของตัวเองอยู่เสมอๆ

สิ่งที่แปลกไปอย่างเห็นได้ชัด และเป็นครั้งแรก ที่ Crescendo ได้ลองทำ นั่นก็คือการที่ทั้ง 10 เพลงในอัลบั้มชุดนี้ คือการหยิบจับเอาบทเพลงระดับ'ขึ้นหิ้ง'มาเรียบเรียงดนตรีเสียใหม่ ให้กลายเป็นเพลงของ Crescendo ไป และนั่นก็คือสิ่งที่พวกเขาทำได้สำเร็จจริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเอาเพลงเก่ากลับมาร้องใหม่ตามสมัยนิยมเท่านั้น เพราะนอกจากเนื้อร้องและทำนอง ซึ่งเป็นเพลงที่เราคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว ส่วนอื่นที่เหลือ ล้วนถูกวง Crescendo จับแต่งตัวใหม่ทั้งหมด ลองนึกถึงเพลงอย่าง 'บูมเมอแรง' 'มันแปลกดีนะ' 'ส้มหล่น' 'รักน้องคนเดียว' ที่กลายมาเป็นเพลงของ Crescendo ไปดูสิ ... นั่นแหละ คือสิ่งที่พวกเขาทำออกมาในอัลบั้ม Legend Session นี้

ดนตรีแบบที่ Crescendo เลือกที่จะทำในอัลบั้มชุดนี้ คือ Funk Rock เต็มรูปแบบ ที่ตัดทอนเอาเครื่องดนตรีส่วนเกินชนิดอื่นๆออกไปแทบทั้งหมด เน้นไปที่เพียง เบส , กีต้าร์ , กลอง และ Percussion ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักดนตรีหลักๆทั้ง 4 คนในวงเพียงเท่านั้น คล้ายๆกับที่เราเคยได้ยินกันมาจากอัลบั้ม Raw ซึ่งดูจะเป็นธรรมชาติของ Crescendo ในช่วงเวลานี้มากที่สุด เราจะไม่ได้ยินทั้งเครื่องเป่า (มีแค่เพลงเดียวในอัลบั้มชุดนี้) เครื่องสาย หรือแม้แต่เสียงเปียโน ที่ถูกนำมาใช้อย่างมากมายในงานช่วงแรกๆของวง ซึ่งนั่นทำให้ภาพรวมในดนตรีของพวกเขานั้นดู'ดิบ'ขึ้นมากว่าแต่ก่อนมาก

ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันคือความไม่ยึดมั่นถือมั่น อยู่กับ Sound แบบเดิมๆที่เคยทำให้วงประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว ด้วยการทำแต่เพลงแบบเดิมๆออกมา แต่กลับมั่นคงในการมุ่งหน้าไปสู่การควานหาสุ้มเสียงแบบใหม่ๆให้กับวงอยู่เสมอๆ แม้จะรู้ดี ว่านั่นคือความเสี่ยง ในการอาจจะเผลอทิ้งแฟนเพลงกลุ่มใหญ่บางกลุ่มเอาไว้ข้างหลังก็ตาม ซึ่งในฐานะนักดนตรี นอกจากฝีมืออันเก่งกาจแล้ว นี่คืออีกสิ่งที่ผมเคารพชื่นชมต่อวง Crescendo เสมอมา




นอกเหนือไปจากความเปลี่ยนแปลงในทิศทางของดนตรีแล้ว Crescendo ยังน่าจะนับได้ว่าเป็นวงที่มีนักดนตรีสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมเล่นด้วยมากที่สุดอีกวงหนึ่ง โดยมี 'นอ - นรเทพ มาแสง' มือเบส และ 'แชมป์ - ชินพัฒน์ หงส์อัมพร' มือกีต้าร์ ที่เป็นเหมือนแกนหลักของวง สำหรับในอัลบั้มนี้ก็เช่นกัน กับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในตำแหน่งมือกลอง โดยคนที่เข้ามารับไม้ต่อเป็นมือกลองคนที่ 3 ของวง ก็ไม่ใช่คนที่เราไม่คุ้นหน้าแต่อย่างใด เพราะนอกจากจะพอเห็นหน้ากันมาบ้างในคอนเสิร์ตช่วงปลายๆของอัลบั้ม Continue ที่เริ่มมารับช่วงต่อแทนมือกลองคนเก่า แฟนเพลงก็น่าจะคุ้นหน้าของเขาดี ในตำแหน่งมือกลองของวง Pause นั่นเอง ซึ่งนี่คงพอจะพูดได้ว่า มันคือการกลับมาทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ระหว่าง นอ และ บอส นับตั้งแต่สาเหตุของการหยุดไปอันน่าเศร้าของวง Pause

ส่วนอีกคนที่อัลบั้มชุดนี้ จะเป็นการทำงานร่วมกับ Crescendo เป็นอัลบั้มสุดท้ายก่อนจะแยกตัวออกไป นั่นก็คือนัท นักร้องนำของวง ซึ่งเป็นคนที่เรียกได้ว่า เป็นผู้นำ Crescendo กลับเข้ามาสู่เส้นทางดนตรีได้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยเพลงดังๆมากมายที่เป็นเสียงร้องของเขา หลังจากยุคของบีมา กับเพลงอย่าง 'ถ้ายังรัก' 'คำวิเศษ' 'เธอคือดวงตะวัน' 'ใจกลางความเจ็บปวด' 'กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม' โดยผลงานยุคต่อๆไป จะเป็นการร่วมงานกับนักร้องคนใหม่ ที่มาจากการค้นหาผ่านโครงการ 'The Next Crescendo' ที่ได้ตัวผู้ที่จะมารับไม้ต่อจากนัทมาเรียบร้อยแล้ว

ภาพของการเป็นวงดนตรีที่ดี นอกจากจะต้องสร้างมาตราฐาน และเอกลักษณ์ในการทำเพลงของตัวเองออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นมักจะเป็นผลที่เกิดจากการเล่นดนตรีร่วมกันมาอย่างยาวนาน เข้าขารู้ใจจนสามารถที่จะสร้างสำเนียงแบบเฉพาะของตัวเองออกมาได้ แต่ดูเหมือนว่า Crescendo จะเป็นวงดนตรีที่ออกเดินในวิถีทางที่แตกต่างออกไป การเปลี่ยนสมาชิกวงครั้งแล้วครั้งเล่า ความพยายามและการเลือก ที่จะไม่ทำซ้ำในสิ่งที่ตัวเองเคยทำ และประสบความสำเร็จกับมันมาแล้ว ทั้งหมดนี้ คือความหมายของการเป็นวงดนตรีชั้นดีในอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน

คงจะมีเพียงแค่ไม่กี่วงเท่านั้นในประเทศเรา ที่จะสามารถท้าทายทั้งตัวเอง และแฟนเพลง ในทุกครั้งที่ออกอัลบั้มชุดใหม่ๆ หากจะนับด้วยนิ้วมือ ก็คงจะเหลือนิ้วที่ไม่ต้องทำงานอยู่อีกมากพอควร และการที่ผมนับ Crescendo ให้เป็นหนึ่งในวงเหล่านั้น คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมถึงเลือกที่จะติดตามวงนี้ต่อไป ไม่ว่าชื่อเสียงของพวกเขาจะค่อยๆดังขึ้นตามชื่อวง หรือแม้กระทั่งช่วงที่ไม่อยู่ในความสนใจของคนหมู่มากสักเท่าไหร่นักก็ตาม


====================

Artist : Crescendo
Album : Legend Session
Producer : นรเทพ มาแสง
Label : สนามหลวง

====================


* สมาชิกของ Crescendo ในอัลบั้มนี้ ประกอบด้วย ..​

- นรเทพ มาแสง (นอ) : เบส
- นิรุจ เดชบุญ (บอส) : กลอง
- ชินพัฒน์ หงส์อัมพร (แชมป์) : กีต้าร์
- ชาติชาย มานิตยกุล (นัท) : นักร้อง
- ธีรพงษ์ ธนานิกกุล (จั๋ง) : Percussion

* http://soundsyndrome.exteen.com/20061117/the-album
Review ผลงานอัลบั้มเดี่ยวของ นรเทพ มาแสง

* http://soundsyndrome.exteen.com/20071125/crescendo
Review EP ใต้แสงตะวัน

* http://soundsyndrome.exteen.com/20081113/crescendo-four-days
Review อัลบั้ม Four Days

* http://soundsyndrome.exteen.com/20101226/crescendo-raw
Review อัลบั้ม Raw

* http://soundsyndrome.exteen.com/20120302/crescendo-continue
Review อัลบั้ม Continue


ฉันเองก็เสียใจ - Crescendo

คำร้อง : สุรักษ์ สุขเสวี
ทำนอง : วสันต์ โชติกุล
เรียบเรียง : นรเทพ มาแสง , ชินพัฒน์ หงส์อัมพร , นิรุจ เดชบุญ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ชื่อสินค้า:   Crescendo อัลบั้ม Legend Session
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่