ขออนุญาติเล่าเลยละกันครับ.....
ขอชี้แจงจุดประสงค์ก่อนที่ผมมาเล่าเนื่องจากไม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบการสัมภาษณ์แบบนี้ อยากขอกำลังใจ และอยากแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ อยากขอกำลังใจ (อยากรบกวนให้ HR ที่บริษัทอื่นๆ มาเห็นและอ่านบทความนี้ และขอความคิดเห็นต่อการสัมภาษณ์หน่อยครับ)
บริษัทแห่งนี้ที่ผมมีความตั้งใจที่จะเข้าทำงานเพราะเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีชื่อเสียง และระบบสวัสดิการที่ดี ดังนั้น ผมจึงมีความประสงค์อยากจะเข้าเพื่อชีวิตและครอบครัวของตัวเองที่ดีขึ้น ผมเป็นคนเรียนเก่ง จบด้านบริหารมาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ที่บ้านไม่ได้มีฐานะดีอะไรพ่อแม่แค่ให้เงินค่ากินเท่านั้น ส่วนอยากได้อะไรก็ต้องทำงานเพื่อหามาเอง ผมทำงานตั้งแต่ ม.4 แล้วครับ ทำงานตั้งแต่เป็นเด็กเสิรฟ์ พนักงานขายพาร์ทไทม รับจ้างสอนหนังสือที่มหาลัย จนจบมหาลัย ขณะเรียนมหาลัยก็เรียนดีมาตลอดจนได้เรียนฟรีเพื่อไม่อยากเป็นภาระของพ่อกับแม่ เพราะท่านก็เหนื่อยมามากแล้ว
ตัวผมเองเรียนมหาลัยรัฐที่พอมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่ ตจว. พอจบมหาลัยผมก็ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำงานได้ ปีกว่ากว่าๆ ก็ลาออกเพราะว่างานที่ทำไม่ตรงกับฟิลลิ่งงานที่อยากทำครับ ตอนนี้ผมว่างงานได้ 1 เดือนกว่าๆ แล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วบริษัทแห่งนี้ก็โทรมาเรียกไปสัมภาษณ์ที่ ปราจีนบุรี ผมก็จัดแจงรีบเตรียมตัวเป็นอย่างดีสองวัน วันแรกอ่านข้อมูลบริษัท และเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ต้องไปทำ เนื่องจากผมไม่เคยมีประสบการณ์มา และผมก็มีความตั้งใจเป็นอย่างมาก วันที่สองก็เตรียมภาษาอังกฤษ เพราะเป็นบริษัทต่างชาติมาลงทุนเลยต้องเตรียมข้อมูล เพื่อให้มีโอกาสได้งานเยอะที่สุด
ลืมบอกไปผมทำงานจัดซื้อมาก่อน และผมสมัครตำแหน่งด้านธุรการทั่วไป โดยตำแหน่งนี้คือต้องดูแลสวัสดิการและความเรียบร้อยภายในโรงงานทั้งหมด พอถึงวันสัมภาษณ์ก็มีรถบริษัทมารับไปสัมภาษณ์ พอถึงบริษัทผมก็เตรียมตัวสัมภาษณ์ และพูดคุยกับผู้สมัครท่านอื่นๆ ทักทายๆ กัน เพื่อความไม่เครียดก็ได้พูดคุยกันห้าคน แล้วก็มีเจ้าหน้าที่มาจัดลำดับ ผมได้ลำดับที่ 3 คนแรกเข้าไปคุยเกือบครึ่งชม. คนที่สองเข้าไปนานประมาณ 45 นาที ตอนเค้าออกมาผมก็ถามว่าทำไมนานจังเพราะคนแรกก็ไม่ถึงขนาดนี้ เพื่อนที่ไปสัมภาษณ์ จึงบอกว่า "อ๋อ... เพราะว่ากรรมการมีสายโทรศัพท์เรียกเข้าขณธสัมภาษณ์ เหมือนจะมีประชุมกันบ่ายสามครึ่ง" ซึ่งตอนนั้นจะบ่ายสามแล้วขณะที่คนที่สองออกมา ตอนนั้นเหลืออีก 3 คน รวมผม ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่ากรรมการเค้าคงมีความยุติธรรมดีตัดสินอย่างเป็นเหตุเป็นผล
*** ตอนนี้ก็ถึงคิวผมแระ ปรากฏ เข้าไปก็สวัสดีทักทายกรรมการเป็นมารยาท และ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ก็บอกให้แนะนำตัว พอผมพูดได้สักพัก เล่าถึงครอบครัว เค้าก็บอกให้เราพูดสรุปๆ ให้ทำเวลาเร็วๆ เพราะเค้ามีประชุม ไอผมก็เล่าทุกอย่างแบบสรุปเรื่องต่างๆ เช่น เรียน ทำงาน ฝึกงาน งานล่าสุดที่ทำมาแบบสรุปๆ ปรากฏ คนที่ใหญ่ที่สุดเค้าก็ไม่ถามอะไรเพิ่มเหมือนไม่สนใจผมตั้งแต่แรก และโยนไปให้กรรมการท่านอื่นถาม เค้าก็ถามวนไป วนมา ว่ามาที่ยนี่ได้ยังไง มีไรจะถามเพิ่มไหม เท่านั้นผมก็ปิดท้ายถามเรื่องสวัสดิการออกกำลังกาย และก็จบ และสุดท้ายพี่คนที่เรียกมาสัมภาสเค้าก็แจ้งว่าเด๋วพรุ่งนี้ถ้าได้ไม่ได้ยังไงจะโทรไปนะครับ
วันรุ่งขึ้นเค้าโทรมาแจ้งผมว่า "น้องไม่ผ่านสัมภาษณ์นะ เพราะว่านายเค้าดูว่าน้องจะเป็นคนสำอางๆ ไม่น่าจะทำงานนี้ได้ เพราะมันต้องลุยๆ" ผมก็อึ้งไปสักพักแล้วก็ตอบกลับด้วยมารยาทว่า "ขอบคุณมากครับจริงๆ แล้วภายนอกผมดูเป็นอย่างงั้นจริง แต่ผมลุยงานมาตลอดไปมาเกือบทั่วประเทศแล้วครับ" ผมอาจดูเป็นคนสำอางเพราะว่าบุคลิคผมเป็นคนขาว ตี๋ หน้าตาพอใช้ได้ ไม่ล่ำ ส่วนที่สัมภาษณ์ ส่วนใหญ่ก็จะล่ำ หรือไม่ก็อ้วนๆ ดูลุยๆ คือ อันนี้คือประเด็นให้ผมกลับมาตั้งคำถามว่า == แบบนี้จะมีการสัมภาษณ์ ? ไปเพื่ออะไรเพราะสุดท้ายคุณก็ไม่ใช้วิจารณญาณใดๆ เลย เพียงแค่เห็นแค่รูปร่างหน้าตาแล้วก็ตัดสินเลย ทั้งๆที่ ประวัติผมทำงานลุยงานมาตลอด เป็เด็กเรียนเก่ง กิจกรรมก็ทำมาตลอด งานเก่าที่ทำก็เป็นงานลุยๆ ไปเกือบทั่วประเทศมาแล้ว แล้วก็ให้เวลาผมแค่สิบนาทีโดยอ้างว่าติดประชุม ทั้งๆ ที่ผมเดินทางไปกลับเกือบทั้งวัน หรือว่าการสัมภาษณ์แบบนี้เค้าดูเอาคนที่รูปร่างหน้าตาที่เค้าชอบ หรือ ความสามารถที่จะสามารถทำงานได้ ผมไม่เข้าใจครับ และก็เสียความรู้สึกมากๆ
ปล.อยากแชร์ประสบการณ์ และบอกเล่าถึงความรู้สึกที่น่าผิดหวัง และวอนถาม HR ที่อื่นๆ ว่าเด๋วนี้เค้าใช้ระบบรูปร่างหน้าตาที่ถูกใจคณะกรรมการและไม่ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ขนาดนี้แล้วหรอครับ ?
ขอบพระคุณทุกท่านมากๆ ที่มาอ่านข้อความของผมยังไงก็มาแสดงความเห็นกันได้นะครับ
ความรู้สึกหลังสัมภาษณ์งานที่ บริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง จ.ปราจีนบุรี
ขอชี้แจงจุดประสงค์ก่อนที่ผมมาเล่าเนื่องจากไม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบการสัมภาษณ์แบบนี้ อยากขอกำลังใจ และอยากแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ อยากขอกำลังใจ (อยากรบกวนให้ HR ที่บริษัทอื่นๆ มาเห็นและอ่านบทความนี้ และขอความคิดเห็นต่อการสัมภาษณ์หน่อยครับ)
บริษัทแห่งนี้ที่ผมมีความตั้งใจที่จะเข้าทำงานเพราะเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีชื่อเสียง และระบบสวัสดิการที่ดี ดังนั้น ผมจึงมีความประสงค์อยากจะเข้าเพื่อชีวิตและครอบครัวของตัวเองที่ดีขึ้น ผมเป็นคนเรียนเก่ง จบด้านบริหารมาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ที่บ้านไม่ได้มีฐานะดีอะไรพ่อแม่แค่ให้เงินค่ากินเท่านั้น ส่วนอยากได้อะไรก็ต้องทำงานเพื่อหามาเอง ผมทำงานตั้งแต่ ม.4 แล้วครับ ทำงานตั้งแต่เป็นเด็กเสิรฟ์ พนักงานขายพาร์ทไทม รับจ้างสอนหนังสือที่มหาลัย จนจบมหาลัย ขณะเรียนมหาลัยก็เรียนดีมาตลอดจนได้เรียนฟรีเพื่อไม่อยากเป็นภาระของพ่อกับแม่ เพราะท่านก็เหนื่อยมามากแล้ว
ตัวผมเองเรียนมหาลัยรัฐที่พอมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่ ตจว. พอจบมหาลัยผมก็ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำงานได้ ปีกว่ากว่าๆ ก็ลาออกเพราะว่างานที่ทำไม่ตรงกับฟิลลิ่งงานที่อยากทำครับ ตอนนี้ผมว่างงานได้ 1 เดือนกว่าๆ แล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วบริษัทแห่งนี้ก็โทรมาเรียกไปสัมภาษณ์ที่ ปราจีนบุรี ผมก็จัดแจงรีบเตรียมตัวเป็นอย่างดีสองวัน วันแรกอ่านข้อมูลบริษัท และเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ต้องไปทำ เนื่องจากผมไม่เคยมีประสบการณ์มา และผมก็มีความตั้งใจเป็นอย่างมาก วันที่สองก็เตรียมภาษาอังกฤษ เพราะเป็นบริษัทต่างชาติมาลงทุนเลยต้องเตรียมข้อมูล เพื่อให้มีโอกาสได้งานเยอะที่สุด
ลืมบอกไปผมทำงานจัดซื้อมาก่อน และผมสมัครตำแหน่งด้านธุรการทั่วไป โดยตำแหน่งนี้คือต้องดูแลสวัสดิการและความเรียบร้อยภายในโรงงานทั้งหมด พอถึงวันสัมภาษณ์ก็มีรถบริษัทมารับไปสัมภาษณ์ พอถึงบริษัทผมก็เตรียมตัวสัมภาษณ์ และพูดคุยกับผู้สมัครท่านอื่นๆ ทักทายๆ กัน เพื่อความไม่เครียดก็ได้พูดคุยกันห้าคน แล้วก็มีเจ้าหน้าที่มาจัดลำดับ ผมได้ลำดับที่ 3 คนแรกเข้าไปคุยเกือบครึ่งชม. คนที่สองเข้าไปนานประมาณ 45 นาที ตอนเค้าออกมาผมก็ถามว่าทำไมนานจังเพราะคนแรกก็ไม่ถึงขนาดนี้ เพื่อนที่ไปสัมภาษณ์ จึงบอกว่า "อ๋อ... เพราะว่ากรรมการมีสายโทรศัพท์เรียกเข้าขณธสัมภาษณ์ เหมือนจะมีประชุมกันบ่ายสามครึ่ง" ซึ่งตอนนั้นจะบ่ายสามแล้วขณะที่คนที่สองออกมา ตอนนั้นเหลืออีก 3 คน รวมผม ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่ากรรมการเค้าคงมีความยุติธรรมดีตัดสินอย่างเป็นเหตุเป็นผล
*** ตอนนี้ก็ถึงคิวผมแระ ปรากฏ เข้าไปก็สวัสดีทักทายกรรมการเป็นมารยาท และ ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ก็บอกให้แนะนำตัว พอผมพูดได้สักพัก เล่าถึงครอบครัว เค้าก็บอกให้เราพูดสรุปๆ ให้ทำเวลาเร็วๆ เพราะเค้ามีประชุม ไอผมก็เล่าทุกอย่างแบบสรุปเรื่องต่างๆ เช่น เรียน ทำงาน ฝึกงาน งานล่าสุดที่ทำมาแบบสรุปๆ ปรากฏ คนที่ใหญ่ที่สุดเค้าก็ไม่ถามอะไรเพิ่มเหมือนไม่สนใจผมตั้งแต่แรก และโยนไปให้กรรมการท่านอื่นถาม เค้าก็ถามวนไป วนมา ว่ามาที่ยนี่ได้ยังไง มีไรจะถามเพิ่มไหม เท่านั้นผมก็ปิดท้ายถามเรื่องสวัสดิการออกกำลังกาย และก็จบ และสุดท้ายพี่คนที่เรียกมาสัมภาสเค้าก็แจ้งว่าเด๋วพรุ่งนี้ถ้าได้ไม่ได้ยังไงจะโทรไปนะครับ
วันรุ่งขึ้นเค้าโทรมาแจ้งผมว่า "น้องไม่ผ่านสัมภาษณ์นะ เพราะว่านายเค้าดูว่าน้องจะเป็นคนสำอางๆ ไม่น่าจะทำงานนี้ได้ เพราะมันต้องลุยๆ" ผมก็อึ้งไปสักพักแล้วก็ตอบกลับด้วยมารยาทว่า "ขอบคุณมากครับจริงๆ แล้วภายนอกผมดูเป็นอย่างงั้นจริง แต่ผมลุยงานมาตลอดไปมาเกือบทั่วประเทศแล้วครับ" ผมอาจดูเป็นคนสำอางเพราะว่าบุคลิคผมเป็นคนขาว ตี๋ หน้าตาพอใช้ได้ ไม่ล่ำ ส่วนที่สัมภาษณ์ ส่วนใหญ่ก็จะล่ำ หรือไม่ก็อ้วนๆ ดูลุยๆ คือ อันนี้คือประเด็นให้ผมกลับมาตั้งคำถามว่า == แบบนี้จะมีการสัมภาษณ์ ? ไปเพื่ออะไรเพราะสุดท้ายคุณก็ไม่ใช้วิจารณญาณใดๆ เลย เพียงแค่เห็นแค่รูปร่างหน้าตาแล้วก็ตัดสินเลย ทั้งๆที่ ประวัติผมทำงานลุยงานมาตลอด เป็เด็กเรียนเก่ง กิจกรรมก็ทำมาตลอด งานเก่าที่ทำก็เป็นงานลุยๆ ไปเกือบทั่วประเทศมาแล้ว แล้วก็ให้เวลาผมแค่สิบนาทีโดยอ้างว่าติดประชุม ทั้งๆ ที่ผมเดินทางไปกลับเกือบทั้งวัน หรือว่าการสัมภาษณ์แบบนี้เค้าดูเอาคนที่รูปร่างหน้าตาที่เค้าชอบ หรือ ความสามารถที่จะสามารถทำงานได้ ผมไม่เข้าใจครับ และก็เสียความรู้สึกมากๆ
ปล.อยากแชร์ประสบการณ์ และบอกเล่าถึงความรู้สึกที่น่าผิดหวัง และวอนถาม HR ที่อื่นๆ ว่าเด๋วนี้เค้าใช้ระบบรูปร่างหน้าตาที่ถูกใจคณะกรรมการและไม่ให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ขนาดนี้แล้วหรอครับ ?
ขอบพระคุณทุกท่านมากๆ ที่มาอ่านข้อความของผมยังไงก็มาแสดงความเห็นกันได้นะครับ