ศพ 11 แอด...คนตาย ต้องตาย (ศพที่สอง)
เช้าวันอาทิตย์ เวลา 10.23 นายเมธา ชายหนุ่มอายุ 23 ปี นักศึกษา ปีสาม มหาวิทยาลัยเอกชนแห่ง หนึ่ง ในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เมธาเป็น ชายหนุ่มหน้าตาดี ถึงแม้ทางบ้านจะมิได้ร่ำรวยถึงขนาด มหาเศรษฐี แต่ใน หนองคายก็จะมีคนรู้จัก พ่อแม่ของเขา นอกจากหน้าตาหล่อเข้าขั้น คารมคำพูดของเขา ก็สามารถ พิชิตหญิงสาวระดับดาวมหาวิทยาลัยมาแล้ว อีกทั้งเมธายังมีความสามารถเรื่องการเขียนโปรแกรมมากมาย ความจริงเมธาตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนเขาเพิ่งได้เบอร์หญิงสาว สุดเพอร์เฟคทีฟ เธอมาคนเดียว ไม่เล่นหูกับตากับใคร เมธาเข้าไปชนแก้ว และคุยกันจนถึงผับปิด เมธาพยายามชวนหล่อนไปทานอาหาร และดื่มต่อ แต่หญิงสาวปฏิเสธ แต่เขาก็ได้เบอร์มือถือมา เป็นเลขสวยที่ถ้าใครได้ยิน ก็ต้องรู้ว่า เบอร์มือถือนี้แพงระยับ อย่างแน่นอน เพราะขึ้นต้นด้วย 081 สามตัวแรก เป็นเลขเหมือนสามตัว แล้วสี่ตัวหลัง เป็นเลขเหมือนสี่ตัว
"คุณเคท พรุ่งนี้ผมจะโทรหาคุณอย่างแน่นอน..."
"ดิฉัน...ต้องไปก่อน แล้วโทรมานะคะ..."
ตอนแรก เมธาจะขอไปส่งหญิงสาว แต่เธอบอกนำรถมาด้วย เมธาไม่มีทางคิดว่า รถที่เธอขับมา เป็นรถ Ferrari California 400 แรงม้า เมธาจำได้แม่น เพราะมันเป็นรถในฝันของเขา ที่เมธาคิดไว้ว่า เขาจะต้อง ได้ขับมันสักครั้งในชีวิต บริกรขับมาจอดหน้าหญิงสาว เธอหยิบแบงค์พัน ห้าใบให้เด็กรับรถ ราวกับว่า นั่นคือ ธนบัตรใบละ ยี่สิบ ก็ไม่ปาน หญิงสาวเปิดกระจกมาโบกมืออำลา ท่ามกลางสายตา ของชายหนุ่ม หลายๆคน ต่างมองเมธาด้วยความรู้สึก อิจฉา รถเคลื่อนไปแล้ว เมธา จึงสอบถาม บริกรคนที่รับรถ เขาแจ้งทันทีว่า เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
"นั่นคุณวิกานต์ดา เป็นลูกสาวคนเดียวของ เจ้าสัวอมร เจ้าของ โกลด์ไดมอนด์ เจ้าของที่ ที่ทางผับมาเช่า ทางเจ้านายก็เลยให้สิทธ์คุณเคท เป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ครับพี่"
ดวงตาของเมธาเป็นประกาย ในตอนแรกเขานำรถฟอร์ดโฟกัส เวอร์ชั่นไมเนอร์เซนจ์มา ก็คิดว่า แค่นี้ก็หรูสุด ติ่งแล้ว แต่เมื่อมาพบหญิงสาวในวันนี้ เขารู้ความหมายของ สโลแกนที่ว่า 'เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน' คืออะไร
เมธากดหมายเลขโทรศัพท์ ไปยังปลายสาย เสียงโทรดังขึ้น สามครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงหวานใสรับสายขึ้นมา
"สวัสดีค่ะ เคทรับสายค่ะ..."
เมธาเก็กเสียงหล่อสุดฤทธิ์
"สวัสดีครับ ผมเมธาครับ คุณ เคทจำผมได้ไหมครับ..."
เสียงปลายสายเงียบไปพัก ก่อนเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น
"อ๋อ!...คุณเมธา นี่เอง พอดีเคท เพิ่งตื่นเลย สับสนนิดหน่อย คุณเมธานี่ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ"
แล้วทั้งสองก็สนทนาอย่างสดชื่น ราวกับว่า ทั้งสองเป็นคู่รักกัน ที่รักกันมาก จนสุดท้าย เมธาขอแอดหญิง สาวเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค
"คุณเมธาเพื่อนเยอะไหมคะ..."
"ผมมีเพื่อน เกือบร้อยน่ะครับ...ทำไมหรือครับ..."
"คือเฟสของ เคทเป็นแบบจำกัดเพื่อนน่ะค่ะ ถ้าเกิดเฟสของคุณเมธา เพื่อนมากกว่า 10 คนเฟสของเคทจะไม่รับแอดน่ะค่ะ แย่จัง เคทอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยสิ!.."
เมธาคิดอยู่ไม่นาน ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจเหลือแสน
"ก็ไม่เห็นยาก งั้นผมจะเปิดเฟสใหม่ เพื่อขอให้เคทรับผมเป็นเพื่อน"
"จริงด้วย...เคทลืมเรื่องนี้เสียสนิท ถ้างั้นคุณเมธา แอดมาที่ kate _wikarnda
เคทจะรอคุณเมธาที่นี่ไม่ไปไหน อย่างเด็ดขาด..."
เมธารีบจดชื่อ แล้วลองค้นหา ก็พบว่า ปรากฎชื่อของหญิงสาวจริงๆ รูปของเธอน่ารักหวาน สมเป็นคุณหนู ในตระกูลสูงศักดิ์ ที่ร่ำรวยเกินกว่า ที่เขาจะจินตนาการ เมธาลองใช้เฟสหลักตนเองเข้าขอเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนได้ เพราะไม่มีคำสั่งตอบรับการเป็นเพื่อน หญิงสาวหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยออกมา
"เห็นไหม ว่าไม่ได้ เพราะเฟสของเคทเป็นแบบจำกัดเพื่อน..."
เมธารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่หญิงสาวทราบว่าเขากำลังใช้เฟสหลักแอดเป็นเพื่อน ไม่ใช่อะไร เพราะเมธา ต้องการอวดเพื่อนๆ ในเฟสได้เห็นคู่ควงคนใหม่ของเขาให้เพื่อนๆในเฟสอิจฉาจนอกแตกตายนั่นเอง หญิงสาว ก็เหมือนล่วงรู้ความคิดของเขา จึงเอ่ยออกมา เพื่อสอนให้เขาทำตาม
"คุณเมธา ก็ทำเฟสใหม่ขึ้นมา แล้วมาแอดเป็นเพื่อนกับเคท โดยใช้ชื่ออื่นก่อน แล้วเมื่อรับแอดเคทแล้ว ก็ค่อยใช้เฟสตัวใหม่นั้น แอดเป็นเพื่อนกับตัวคุณเอง แค่นี้ ใครๆก็จะเห็นว่า คุณกำลังคบกับเคทอยู่.."
"จริงด้วย ผมลืมเสียสนิท...แต่คุณเคท นี่ช่างรู้ใจผมจริงๆ.."
"หึๆๆ..ก็คนที่เคทสนใจ มีหรือว่าเคทจะอ่านใจเขาไม่ออก..."
น้ำเสียงในช่วงท้ายนั้น แฝงอะไรในน้ำเสียง เพราะมันทั้งลึกลับและเยือกเย็น จนเมธารู้สึกเย็นวาบที่ท้ายทอย ก่อนที่เมธาจะทำการสมัครเฟสใหม่ เพียงไม่นานหลังจากที่ได้เฟสใหม่ชื่อใหม่แล้วเขารีบแอดหญิงสาวทันที และเขาก็ได้เป็นเพื่อนกับหญิงสาวในทันที เมธาได้รับการยอมรับให้เป็นเพื่อนแล้ว เขาตะโกนออกมาอย่าง สุดเท่ว่า
"Yes.!......เรียบร้อยแล้วครับ..."
แต่ปลายสายเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะ แบบต่ำๆ..ของหญิงสาว ก่อนตัดสายไป เมธาส่งเสียงไป ก็มีแต่ เสียงดัง ตู๊สๆๆ... เมธาคิ้วขมวด ก่อนจะวางสาย และกดเบอร์โทรอีกหลายครั้ง แต่กลายเป็นคำว่า
'ขอโทษค่ะ หมายเลขนี้....ยังไม่ได้จดทะเบียนในระบบ'
เมธาถึงกับงง ในการให้บริการของ คลื่นความถี่ของค่ายนี้
"อะไรของมันเนี่ยะ เมื่อกี้ยังโทรได้ ตอนนี้ ดันตัดไปเฉยๆ..."
สายตาของเมธาจ้องมองไปที่เฟสของหญิงสาว มันกลับกลายเป็นภาพหลุมฝังศพ ที่ต้นไม้ใบหญ้า มันพริ้ว ไหวเหมือนกับต้องสายลม ซึ่งเมธาไม่เคยเห็นเฟสบุคของใคร ทำภาพเคลื่อนไหวเหมือนจริงเช่นนี้มาก่อน ตัวลูกศรกระพริบ เหมือนเชิญชวนให้ เมธาเข้าไปกดดู ว่าป้ายชื่อที่หลุมศพ มันเป็นชื่อของใคร เมธากด ดับเบิ้ลคลิ๊ก เพื่อเข้าชม ในตอนนั้น เขาคิดว่า หญิงสาวแค่อาจมีความคิดแผลงๆ เท่านั้น...แล้วเมื่อเครื่อง ประมวลผลออกมา ที่ปรากฎเป็นชื่อของ....
นางสาววิกานต์ดา ........อายุ 20 ปี
ชาตะ 28 กุมภาพันธ์ 2535
มรณะ 28 กุมภาพันธ์ 2555
"เฮ้ย!!...นี่มันอะไรวะเนี่ยะ..."
ทันใด มีเสียงหัวเราะเย็นๆ ออกจากเครื่องพีซี เป็นเสียงของ ผู้หญิงที่เขาคุยทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่
"ก็คนตายยังไงคะ คุณเมธา ดิฉันเหงามาก เลยต้องการให้คุณ...มาอยู่กับเคท...ตลอดไป..."
เครื่องคอมสามารถตอบโต้กับ เมธาได้ เมธาตบหน้าตนเองอย่างแรงดังสนั่น ก่อนเอ่ยออกมา
"นี่มันฝันร้ายแน่ๆ...นี่มันฝันร้ายแน่ๆ.."
"ก็ไหนว่า คุณเมธา มาอยู่กับเคทได้ตลอดเวลา ไม่ใช่หรือคะ...ดิฉันเฝ้ารอคุณมานานแล้วใต้ดินนี้ ไม่ร้อนเท่าไหร่เลย เย็นเหมือนติดแอร์ ตอนนี้ เคทต้องการไออุ่น...ต้องการมากกกกก"
ฉับพลันเสียงหญิงสาวตรงคำว่ามาก กลายเป็นเสียงต่ำโหยหวนจนเมธาอ้าปากออกเพราะไม่สามารถทนคลื่น เสียงที่มีอานุภาพทำลายระบบประสาทการได้ยิน อีกทั้งระบบการเต้นของหัวใจขากรรไกรของเมธากว้าง อย่างน่ากลัว มันเป็นเพราะระบบป้องกันตัวของมนุษย์ ยามเมื่อมีความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่องหู ขากรรไกร จะง้างออก เพื่อปิดระบบการรับฟัง หรือแรงดันอากาศ ...แต่ไม่มีใครทนคลื่นเสียงชนิดนี้ ได้เกิน 5 วินาที แต่เสียงนี้ดำเนินถึง 10 วินาที โลหิตของเมธา ทะลักออกมาจากทวารทั้งเก้า... ดวงตานั้นเหลือกถลน ออกมา ลิ้นจุกที่ปาก ลำตัวเกร็ง นิ้วมือ นิ้วเท้า บิดจากแรงเหยียดของเส้นเอ็น จนผิดรูปไปหมด เขาสิ้นใจ ตั้งแต่ 4 วินาทีแรก ที่สัญญาณเสียงปรากฎ ภาพในจอก็เลือนหายไป ตัวลูกศรคำสั่งทำงานเอง ราวกับว่า มีคนมาจัดการ ลบชื่อที่แอดออก แล้วกดปุ่มชัตดาวน์ เครื่องก็ปิดลง พร้อมวิญญาณของเมธา ที่หลุดลอย ออกไป อย่างไม่ทราบสาเหตุ ว่าที่เขาต้องตาย มันเป็นเพราะอะไร.....
..............................
สารวัตรขจร เล่าเรื่องคดี นายเมธาให้ อรุณประภาฟัง เธอรับฟังอย่างสงบ ไม่มีความตื่นเต้น หรือยินดี ยินร้ายอะไร แล้วเขาก็กล่าว สรุปออกมา
"ผมมีข้อมูลที่จะให้คุณภาทราบสามข้อ ข้อที่หนึ่ง ที่คุณเมธาต้องตายเพราะมาจากคลื่นความถี่ของเสียง ที่เปลี่ยนเป็นคลื่นไมโครเวฟ เข้าไปทำลายสมอง"
"มันเป็นคลื่นที่มีลักษณะของการทำลายสมองคล้ายกัน แต่ความรุนแรงแตกต่างชัดเจน เพราะคลื่นการทำลายที่สังหารคุณวิราศิณีรุนแรงกว่ามาก..."
"ข้อที่สอง ในสายสุดท้ายที่คุณเมธาโทรไป ระบุเป็นเบอร์ของคุณวิกานต์ดา ซึ่งในเครื่องบันทึกในมือถือของเขาระบุว่า ผู้ตายคุยกับสายนั้นถึง หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่เขาจะพยายามโทรไปเบอร์เดิมหลายครั้ง แล้วผมก็ตรวจสอบมาแล้วว่า คุณวิกานต์ดาเสียชีวิตมาได้ เกือบ 2 ปี เบอร์มือถือดังกล่าว ถูกทำให้เป็นเบอร์เปล่าโดยบิดาผู้ตายได้ขอซื้อเบอร์ทิ้งไว้ เพราะฉะนั้น คนทั่วไปโทรไปจะมีแต่เสียงเครื่องตอบรับอัตโนมัต แล้วที่แปลกก็คือผู้ตายคุยกับสายนั้นได้อย่างไร เป็นชั่วโมง ในกระแสเลือดของคุณเมธา ก็ไม่มีสารเคมีแปลกปลอม หรือยาเสพติด มีเพียง แอลกอฮอล์ ตกค้างเล็กน้อย เหมือนคุณวิราศิณี"
"ลักษณะที่โทรคุยกับคนที่ตายไปแล้ว เหมือนของน้องสาวคุณ ที่มีการคุยกับคุณกันตกานต์ที่ตายไปก่อนแล้วเช่นกัน"
ข้อที่สาม...ผมยังไม่บอก เพราะข้อนี้สำคัญมาก เพราะข้อนี้ มันจะเชื่อมทั้งหมด เข้าหากัน"
อรุณประภาคิดตาม ก่อนจะเอ่ยออกมา
"แล้วคดีของนายเมธา มันเกี่ยวข้องยังไง กับการตายของยัยณี...หรือคะ"
สารวัตรขจรแอนหลัง ก่อนยกกาแฟเอสเพรสโซ่ขึ้นดื่มแบบจิบๆ เมื่อเขาวางแก้ว จึงเอ่ยออกมา
"นายเมธา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ คุณวิราศิณี อาจจะมีรูปภาพในหนังสือที่เขาเก็บสะสม หรือภาพในอริยาบทต่างๆ ของน้องสาวคุณ ใน พีซีของเขา...แต่มันมิใช่ประเด็นของ การตายของนายเมธาเพราะทุกคนที่ตายจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน ในข้อที่สาม"
"เกี่ยวเนื่องกัน...หึๆๆ...คุณทำให้ดิฉันอยากรู้แล้วว่า ความเกี่ยวเนื่องมันอยู่...ตรงไหน.."
หลังจากที่ สารวัตรขจรดื่มกาแฟจนหมด เขาจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม
"งั้นมาเข้าเรื่อง ศพที่สองก็แล้วกัน ว่าทำไม ผมถึงคิดว่า...เรื่องนี้จะไม่จบที่ศพที่สอง..."
อรุณประภา กระพริบตาช้าๆ ก่อนจะกล่าวออกมา
"ดิฉันต้องการที่จะทราบเรื่องนี้ จนทนแทบไม่ไหวแล้ว..."
"ศพที่สอง...เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน สถานบริการสำหรับผู้ชายแห่งหนึ่ง...ผมจะเล่าเรื่องอย่างช้าๆ..."
"................"
-------------------------------------
ศพ 11 ศพแรก (เรื่องสั้นที่...สอง...)
เช้าวันอาทิตย์ เวลา 10.23 นายเมธา ชายหนุ่มอายุ 23 ปี นักศึกษา ปีสาม มหาวิทยาลัยเอกชนแห่ง หนึ่ง ในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เมธาเป็น ชายหนุ่มหน้าตาดี ถึงแม้ทางบ้านจะมิได้ร่ำรวยถึงขนาด มหาเศรษฐี แต่ใน หนองคายก็จะมีคนรู้จัก พ่อแม่ของเขา นอกจากหน้าตาหล่อเข้าขั้น คารมคำพูดของเขา ก็สามารถ พิชิตหญิงสาวระดับดาวมหาวิทยาลัยมาแล้ว อีกทั้งเมธายังมีความสามารถเรื่องการเขียนโปรแกรมมากมาย ความจริงเมธาตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะเมื่อคืนเขาเพิ่งได้เบอร์หญิงสาว สุดเพอร์เฟคทีฟ เธอมาคนเดียว ไม่เล่นหูกับตากับใคร เมธาเข้าไปชนแก้ว และคุยกันจนถึงผับปิด เมธาพยายามชวนหล่อนไปทานอาหาร และดื่มต่อ แต่หญิงสาวปฏิเสธ แต่เขาก็ได้เบอร์มือถือมา เป็นเลขสวยที่ถ้าใครได้ยิน ก็ต้องรู้ว่า เบอร์มือถือนี้แพงระยับ อย่างแน่นอน เพราะขึ้นต้นด้วย 081 สามตัวแรก เป็นเลขเหมือนสามตัว แล้วสี่ตัวหลัง เป็นเลขเหมือนสี่ตัว
"คุณเคท พรุ่งนี้ผมจะโทรหาคุณอย่างแน่นอน..."
"ดิฉัน...ต้องไปก่อน แล้วโทรมานะคะ..."
ตอนแรก เมธาจะขอไปส่งหญิงสาว แต่เธอบอกนำรถมาด้วย เมธาไม่มีทางคิดว่า รถที่เธอขับมา เป็นรถ Ferrari California 400 แรงม้า เมธาจำได้แม่น เพราะมันเป็นรถในฝันของเขา ที่เมธาคิดไว้ว่า เขาจะต้อง ได้ขับมันสักครั้งในชีวิต บริกรขับมาจอดหน้าหญิงสาว เธอหยิบแบงค์พัน ห้าใบให้เด็กรับรถ ราวกับว่า นั่นคือ ธนบัตรใบละ ยี่สิบ ก็ไม่ปาน หญิงสาวเปิดกระจกมาโบกมืออำลา ท่ามกลางสายตา ของชายหนุ่ม หลายๆคน ต่างมองเมธาด้วยความรู้สึก อิจฉา รถเคลื่อนไปแล้ว เมธา จึงสอบถาม บริกรคนที่รับรถ เขาแจ้งทันทีว่า เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
"นั่นคุณวิกานต์ดา เป็นลูกสาวคนเดียวของ เจ้าสัวอมร เจ้าของ โกลด์ไดมอนด์ เจ้าของที่ ที่ทางผับมาเช่า ทางเจ้านายก็เลยให้สิทธ์คุณเคท เป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ครับพี่"
ดวงตาของเมธาเป็นประกาย ในตอนแรกเขานำรถฟอร์ดโฟกัส เวอร์ชั่นไมเนอร์เซนจ์มา ก็คิดว่า แค่นี้ก็หรูสุด ติ่งแล้ว แต่เมื่อมาพบหญิงสาวในวันนี้ เขารู้ความหมายของ สโลแกนที่ว่า 'เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน' คืออะไร
เมธากดหมายเลขโทรศัพท์ ไปยังปลายสาย เสียงโทรดังขึ้น สามครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงหวานใสรับสายขึ้นมา
"สวัสดีค่ะ เคทรับสายค่ะ..."
เมธาเก็กเสียงหล่อสุดฤทธิ์
"สวัสดีครับ ผมเมธาครับ คุณ เคทจำผมได้ไหมครับ..."
เสียงปลายสายเงียบไปพัก ก่อนเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น
"อ๋อ!...คุณเมธา นี่เอง พอดีเคท เพิ่งตื่นเลย สับสนนิดหน่อย คุณเมธานี่ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ"
แล้วทั้งสองก็สนทนาอย่างสดชื่น ราวกับว่า ทั้งสองเป็นคู่รักกัน ที่รักกันมาก จนสุดท้าย เมธาขอแอดหญิง สาวเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค
"คุณเมธาเพื่อนเยอะไหมคะ..."
"ผมมีเพื่อน เกือบร้อยน่ะครับ...ทำไมหรือครับ..."
"คือเฟสของ เคทเป็นแบบจำกัดเพื่อนน่ะค่ะ ถ้าเกิดเฟสของคุณเมธา เพื่อนมากกว่า 10 คนเฟสของเคทจะไม่รับแอดน่ะค่ะ แย่จัง เคทอยากเป็นเพื่อนกับคุณด้วยสิ!.."
เมธาคิดอยู่ไม่นาน ก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจเหลือแสน
"ก็ไม่เห็นยาก งั้นผมจะเปิดเฟสใหม่ เพื่อขอให้เคทรับผมเป็นเพื่อน"
"จริงด้วย...เคทลืมเรื่องนี้เสียสนิท ถ้างั้นคุณเมธา แอดมาที่ kate _wikarnda
เคทจะรอคุณเมธาที่นี่ไม่ไปไหน อย่างเด็ดขาด..."
เมธารีบจดชื่อ แล้วลองค้นหา ก็พบว่า ปรากฎชื่อของหญิงสาวจริงๆ รูปของเธอน่ารักหวาน สมเป็นคุณหนู ในตระกูลสูงศักดิ์ ที่ร่ำรวยเกินกว่า ที่เขาจะจินตนาการ เมธาลองใช้เฟสหลักตนเองเข้าขอเป็นเพื่อน แต่ก็ไม่ สามารถเข้าไปเป็นเพื่อนได้ เพราะไม่มีคำสั่งตอบรับการเป็นเพื่อน หญิงสาวหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยออกมา
"เห็นไหม ว่าไม่ได้ เพราะเฟสของเคทเป็นแบบจำกัดเพื่อน..."
เมธารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ที่หญิงสาวทราบว่าเขากำลังใช้เฟสหลักแอดเป็นเพื่อน ไม่ใช่อะไร เพราะเมธา ต้องการอวดเพื่อนๆ ในเฟสได้เห็นคู่ควงคนใหม่ของเขาให้เพื่อนๆในเฟสอิจฉาจนอกแตกตายนั่นเอง หญิงสาว ก็เหมือนล่วงรู้ความคิดของเขา จึงเอ่ยออกมา เพื่อสอนให้เขาทำตาม
"คุณเมธา ก็ทำเฟสใหม่ขึ้นมา แล้วมาแอดเป็นเพื่อนกับเคท โดยใช้ชื่ออื่นก่อน แล้วเมื่อรับแอดเคทแล้ว ก็ค่อยใช้เฟสตัวใหม่นั้น แอดเป็นเพื่อนกับตัวคุณเอง แค่นี้ ใครๆก็จะเห็นว่า คุณกำลังคบกับเคทอยู่.."
"จริงด้วย ผมลืมเสียสนิท...แต่คุณเคท นี่ช่างรู้ใจผมจริงๆ.."
"หึๆๆ..ก็คนที่เคทสนใจ มีหรือว่าเคทจะอ่านใจเขาไม่ออก..."
น้ำเสียงในช่วงท้ายนั้น แฝงอะไรในน้ำเสียง เพราะมันทั้งลึกลับและเยือกเย็น จนเมธารู้สึกเย็นวาบที่ท้ายทอย ก่อนที่เมธาจะทำการสมัครเฟสใหม่ เพียงไม่นานหลังจากที่ได้เฟสใหม่ชื่อใหม่แล้วเขารีบแอดหญิงสาวทันที และเขาก็ได้เป็นเพื่อนกับหญิงสาวในทันที เมธาได้รับการยอมรับให้เป็นเพื่อนแล้ว เขาตะโกนออกมาอย่าง สุดเท่ว่า
"Yes.!......เรียบร้อยแล้วครับ..."
แต่ปลายสายเขากลับได้ยินเสียงหัวเราะ แบบต่ำๆ..ของหญิงสาว ก่อนตัดสายไป เมธาส่งเสียงไป ก็มีแต่ เสียงดัง ตู๊สๆๆ... เมธาคิ้วขมวด ก่อนจะวางสาย และกดเบอร์โทรอีกหลายครั้ง แต่กลายเป็นคำว่า
'ขอโทษค่ะ หมายเลขนี้....ยังไม่ได้จดทะเบียนในระบบ'
เมธาถึงกับงง ในการให้บริการของ คลื่นความถี่ของค่ายนี้
"อะไรของมันเนี่ยะ เมื่อกี้ยังโทรได้ ตอนนี้ ดันตัดไปเฉยๆ..."
สายตาของเมธาจ้องมองไปที่เฟสของหญิงสาว มันกลับกลายเป็นภาพหลุมฝังศพ ที่ต้นไม้ใบหญ้า มันพริ้ว ไหวเหมือนกับต้องสายลม ซึ่งเมธาไม่เคยเห็นเฟสบุคของใคร ทำภาพเคลื่อนไหวเหมือนจริงเช่นนี้มาก่อน ตัวลูกศรกระพริบ เหมือนเชิญชวนให้ เมธาเข้าไปกดดู ว่าป้ายชื่อที่หลุมศพ มันเป็นชื่อของใคร เมธากด ดับเบิ้ลคลิ๊ก เพื่อเข้าชม ในตอนนั้น เขาคิดว่า หญิงสาวแค่อาจมีความคิดแผลงๆ เท่านั้น...แล้วเมื่อเครื่อง ประมวลผลออกมา ที่ปรากฎเป็นชื่อของ....
นางสาววิกานต์ดา ........อายุ 20 ปี
ชาตะ 28 กุมภาพันธ์ 2535
มรณะ 28 กุมภาพันธ์ 2555
"เฮ้ย!!...นี่มันอะไรวะเนี่ยะ..."
ทันใด มีเสียงหัวเราะเย็นๆ ออกจากเครื่องพีซี เป็นเสียงของ ผู้หญิงที่เขาคุยทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่
"ก็คนตายยังไงคะ คุณเมธา ดิฉันเหงามาก เลยต้องการให้คุณ...มาอยู่กับเคท...ตลอดไป..."
เครื่องคอมสามารถตอบโต้กับ เมธาได้ เมธาตบหน้าตนเองอย่างแรงดังสนั่น ก่อนเอ่ยออกมา
"นี่มันฝันร้ายแน่ๆ...นี่มันฝันร้ายแน่ๆ.."
"ก็ไหนว่า คุณเมธา มาอยู่กับเคทได้ตลอดเวลา ไม่ใช่หรือคะ...ดิฉันเฝ้ารอคุณมานานแล้วใต้ดินนี้ ไม่ร้อนเท่าไหร่เลย เย็นเหมือนติดแอร์ ตอนนี้ เคทต้องการไออุ่น...ต้องการมากกกกก"
ฉับพลันเสียงหญิงสาวตรงคำว่ามาก กลายเป็นเสียงต่ำโหยหวนจนเมธาอ้าปากออกเพราะไม่สามารถทนคลื่น เสียงที่มีอานุภาพทำลายระบบประสาทการได้ยิน อีกทั้งระบบการเต้นของหัวใจขากรรไกรของเมธากว้าง อย่างน่ากลัว มันเป็นเพราะระบบป้องกันตัวของมนุษย์ ยามเมื่อมีความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่องหู ขากรรไกร จะง้างออก เพื่อปิดระบบการรับฟัง หรือแรงดันอากาศ ...แต่ไม่มีใครทนคลื่นเสียงชนิดนี้ ได้เกิน 5 วินาที แต่เสียงนี้ดำเนินถึง 10 วินาที โลหิตของเมธา ทะลักออกมาจากทวารทั้งเก้า... ดวงตานั้นเหลือกถลน ออกมา ลิ้นจุกที่ปาก ลำตัวเกร็ง นิ้วมือ นิ้วเท้า บิดจากแรงเหยียดของเส้นเอ็น จนผิดรูปไปหมด เขาสิ้นใจ ตั้งแต่ 4 วินาทีแรก ที่สัญญาณเสียงปรากฎ ภาพในจอก็เลือนหายไป ตัวลูกศรคำสั่งทำงานเอง ราวกับว่า มีคนมาจัดการ ลบชื่อที่แอดออก แล้วกดปุ่มชัตดาวน์ เครื่องก็ปิดลง พร้อมวิญญาณของเมธา ที่หลุดลอย ออกไป อย่างไม่ทราบสาเหตุ ว่าที่เขาต้องตาย มันเป็นเพราะอะไร.....
..............................
สารวัตรขจร เล่าเรื่องคดี นายเมธาให้ อรุณประภาฟัง เธอรับฟังอย่างสงบ ไม่มีความตื่นเต้น หรือยินดี ยินร้ายอะไร แล้วเขาก็กล่าว สรุปออกมา
"ผมมีข้อมูลที่จะให้คุณภาทราบสามข้อ ข้อที่หนึ่ง ที่คุณเมธาต้องตายเพราะมาจากคลื่นความถี่ของเสียง ที่เปลี่ยนเป็นคลื่นไมโครเวฟ เข้าไปทำลายสมอง"
"มันเป็นคลื่นที่มีลักษณะของการทำลายสมองคล้ายกัน แต่ความรุนแรงแตกต่างชัดเจน เพราะคลื่นการทำลายที่สังหารคุณวิราศิณีรุนแรงกว่ามาก..."
"ข้อที่สอง ในสายสุดท้ายที่คุณเมธาโทรไป ระบุเป็นเบอร์ของคุณวิกานต์ดา ซึ่งในเครื่องบันทึกในมือถือของเขาระบุว่า ผู้ตายคุยกับสายนั้นถึง หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่เขาจะพยายามโทรไปเบอร์เดิมหลายครั้ง แล้วผมก็ตรวจสอบมาแล้วว่า คุณวิกานต์ดาเสียชีวิตมาได้ เกือบ 2 ปี เบอร์มือถือดังกล่าว ถูกทำให้เป็นเบอร์เปล่าโดยบิดาผู้ตายได้ขอซื้อเบอร์ทิ้งไว้ เพราะฉะนั้น คนทั่วไปโทรไปจะมีแต่เสียงเครื่องตอบรับอัตโนมัต แล้วที่แปลกก็คือผู้ตายคุยกับสายนั้นได้อย่างไร เป็นชั่วโมง ในกระแสเลือดของคุณเมธา ก็ไม่มีสารเคมีแปลกปลอม หรือยาเสพติด มีเพียง แอลกอฮอล์ ตกค้างเล็กน้อย เหมือนคุณวิราศิณี"
"ลักษณะที่โทรคุยกับคนที่ตายไปแล้ว เหมือนของน้องสาวคุณ ที่มีการคุยกับคุณกันตกานต์ที่ตายไปก่อนแล้วเช่นกัน"
ข้อที่สาม...ผมยังไม่บอก เพราะข้อนี้สำคัญมาก เพราะข้อนี้ มันจะเชื่อมทั้งหมด เข้าหากัน"
อรุณประภาคิดตาม ก่อนจะเอ่ยออกมา
"แล้วคดีของนายเมธา มันเกี่ยวข้องยังไง กับการตายของยัยณี...หรือคะ"
สารวัตรขจรแอนหลัง ก่อนยกกาแฟเอสเพรสโซ่ขึ้นดื่มแบบจิบๆ เมื่อเขาวางแก้ว จึงเอ่ยออกมา
"นายเมธา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ คุณวิราศิณี อาจจะมีรูปภาพในหนังสือที่เขาเก็บสะสม หรือภาพในอริยาบทต่างๆ ของน้องสาวคุณ ใน พีซีของเขา...แต่มันมิใช่ประเด็นของ การตายของนายเมธาเพราะทุกคนที่ตายจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน ในข้อที่สาม"
"เกี่ยวเนื่องกัน...หึๆๆ...คุณทำให้ดิฉันอยากรู้แล้วว่า ความเกี่ยวเนื่องมันอยู่...ตรงไหน.."
หลังจากที่ สารวัตรขจรดื่มกาแฟจนหมด เขาจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม
"งั้นมาเข้าเรื่อง ศพที่สองก็แล้วกัน ว่าทำไม ผมถึงคิดว่า...เรื่องนี้จะไม่จบที่ศพที่สอง..."
อรุณประภา กระพริบตาช้าๆ ก่อนจะกล่าวออกมา
"ดิฉันต้องการที่จะทราบเรื่องนี้ จนทนแทบไม่ไหวแล้ว..."
"ศพที่สอง...เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน สถานบริการสำหรับผู้ชายแห่งหนึ่ง...ผมจะเล่าเรื่องอย่างช้าๆ..."
"................"
-------------------------------------