สุดท้ายแล้ว Part นี้เป็น  Part ที่ 4 ดาลัท - ฮานอย ตะลุยเวียดนาม 6 วัน คุ้มค่าจริงๆ ส่วนคนที่พลาด Part ก่อนหน้านั้น อยากให้เริ่มต้นอ่านตั้งแต่แรกจนถึง  Part  นี้ ครบรสจริงๆค่ะ

ตอนที่ 1 กรุงเทพ-โฮจิมินท์-มุยเน่ http://ppantip.com/topic/32263512

ตอนที่ 2 มุยเน่ - ดาลัท   http://ppantip.com/topic/32265661

ตอนที่ 3 มุ่ยเน่ - ดาลัท (ภาคต่อ)  http://ppantip.com/topic/32272947

ฝากอีกรีวิวนึงนะคะ ที่ประเทศศรีลังกา http://ppantip.com/topic/32326381

เริ่มเลยนะคะ ความเดินจากตอนที่แล้วที่บอกว่า มาถึงฮานอยเป็นอันต้องเกือบหลั่งน้ำตา ประเด็นคือ เราเปลี่ยนแผนข้าม ฮอยอัน ไป มุ่งตรงจาก ดาลัท มา ฮานอย เลยโดยเครื่องบิน ไม่สามารถนั่งรถบัสได้เนื่องจาก ฮอยอันน้ำท่วม แล้ว ใช้เวลาเดินทางยาวนาน ซึ่งเรามีเวลาจำกัด เลยต้องใช้เงินสดที่แลกไปเกือบหมดไปซื้อตั๋วเครื่องบิน เพราะบัตรเครดิตก็รูดไม่ได้ เมืองดาลัทนั้นเล็ก บัตรเดบิทที่เอาไปก็เป็นของ แบงค์ กรุงเทพ Befirst กดได้แค่ตู้ กรุงเทพอย่างเดียว เราก็แบบเครียด นั่งหาในเนต เจอสาขาฮานอย จดที่อยู่ จะนั่งรถไปให้ได้

เอาล่ะค่ะ ในที่สุด Vietjet ก็พาเราบินข้ามฟ้ามาในเวลาประมาณชั่วโมงครี่ง ถึงฮานอยก็ประมาณ บ่ายสอง ออกจากสนามบิน เหมือนเช่นหลายๆประเทศ แท๊กซี่นี่รุมตอมกันเป็นหางอึ่ง พอดีเจอฝรั่งชาวออสเตรเลียทำงานที่ฮานอย เลยพาไปขึ้นรถตู้โดยสาร อย่างรวดเร็ว เพื่อนั่งเข้าไปในเมือง คนขับถามจะไปไหน เราบอก Bangkok bank Hanoi พร้อมโชว์แผนที่+ที่อยู่ คนขับบอกโอเค พร้อมรับเงินไปประมาณ 70 บาท เพื่อเข้าเมือง ตายละ ถ้าไม่เจอ ธนาคารอดตายไป 2 วันในฮานอยแน่ๆ ครึ่งชั่วโมงต่อไป เค้าเรียกเราลงบอกถึงแล้ว Bangkok bank พร้อมชี้ไปที่ตึก เราก็งง เดินเข้าไปในตึกถามยาม ยามบอกขึ้นลิฟท์ไปชั้น 3 พอไปถึง พระเจ้าช่วยลูกด้วย มันเป็นธนาคารกรุงเทพจริงๆค่ะ แต่เป็นแค่ออฟฟิต ไม่มีตู้ ไม่มีช่องฝาก ถอน เราก็เล่าเรื่องให้พนักงานฟัง เค้าบอกช่วยไม่ได้จริงๆ มีทางเดียวให้ไปที่สถานฑูตไทย เรานี่น้ำตาซึมเลย ทำไมซวยอย่างนี้นะ พนักงานแบงค์ที่สาขาฮานอยดีมากเลย เค้าช่วยโทหาเพื่อนเราที่เป็นคนฟิลิปปินส์ว่าถ้าโอนเงินมาให้ แต่เพื่อนเราทำงานเลยไม่ได้รับสาย เค้าเลยให้ที่อยู่สถานฑูตมา เราก็บอก แต่ไอไม่มีตังค่ารถจะทำไง มานี่นึกว่าจะกดเงินได้ เศร้าๆ  เชื่อไหมคะ พนักงานรวบรวบเงินให้เราบอก เราช่วยได้แค่นี้จริงๆ ประมาณ 100 บาท ค่ารถไปสถานฑูต เราบอกขอบคุณๆๆจนไม่รู้จะขอบคุณยังไง มีน้ำใจมาก ไม่อยากรับเงินจาดเค้า แต่ไม่มีทางเลือกจริงๆ

เราเลยเดินออกไปเรียกแท๊กซี่บอกไป สถานฑูตไทย พร้อม โชว์ที่อยู่ที่เค้าเขียนมาให้เรา พอไปถึงสถานฑูตก็ประมาณ 4 โมงครึ่งจะปิดแล้ว เข้าไปเล่าเรื่องให้เค้าฟัง เค้าบอกมีทางเลือกให้ 2 ทาง คือ 1.โทรกลับหาที่บ้านให้โอนเงินมาให้ กับ 2.ยืมเงินจากสถานฑูตไปแล้วกลับไปคืนที่ไทย

เป็นเพื่อนๆเลือกอะไรกันคะ แต่เราขอโทรหาพ่อก่อน พ่อบอกยืมมาเลย เหลือก็เก็บไว้ ไปคืนเค้าที่หลัง พนักงานที่สถานฑูตเค้าบอกว่าเค้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้เราเท่าไร ต้องถามท่านฑูตไทยประจำที่ฮานอย แต่ท่านไม่อยู่ตอนนั้น เค้าเลยต่อโทรศัพท์ไปผ่านเลขา แล้วเราขอคุยกับท่าน ท่านก็ถามว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร พออธิบายจบ เค้าเลยให้เงินเรามาประมาณ 4500 บาท ทำเรื่อง เขียนเอกสาร บัตรประชาชน พาสปอร์ต เยอะแยะมาก แถมเรียกมอไซด์ให้ไปส่งเราที่ รร. ที่จองไว้ 30 บาทจากสถานฑูตค่ะ

ผ่านเรื่องน่าเศร้าแล้วมาถึง รร. ชื่อว่า New star hotel เราจองผ่านอโกด้าโดยใช้บัตรเครดิตเมื่อวาน เพราะเราคิดแล้วว่าในเมื่อเงินสดไม่มี ตัวเลือกสุดท้ายต้องทำทุกอย่างผ่านบัตรเครดิตให้หมด เลยจอง รร. ก่อน

นี่คือ รร. ที่จองไปนะคะ ราคา 550 บาท พอไปถึงพนักงาน upgrade ให้อีก สองเตียงใหญ่ ห้องติดหน้าต่างเมืองเลย สบายมาก สะอาดด้วย ตามรูปค่ะ



เราติดต่อที่ฟร้อนเสร็จ เค้าก็ถามว่า พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหน เราก็บอกว่าจะไป ฮาลอง เบย์ เรา ณ จุดๆนี้เหนื่อยมาก เลยถามเค้าว่าที่ รร. มีแพ็คเกจ แบบ joint tour ไหม เค้าบอกว่ามีราคาประมาณ 900 บาท / 1วัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า 8 โมง รถบริษัททัวร์จะมารับ เราก็เลยตกลง

นั่งพักชาร์จแบทมือถือ ท้องเริ่มร้องแล้ว เลยออกไปหาอะไรกิน

ตามตลาดด็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก เดินผ่านร้านขนมเร้านนึง เลยลองเข้าไปดู สั่งมาหนึ่งอย่าง หน้าตาเหมือนข้าวเดียวแดงกวนบ้านเรา


กินเสร็จก็เดินกลับ รร. อยากแนะนำว่าให้ขอนามบัตร รร.ไว้ ก็ดีนะคะ เวลาไปพักที่ไหน เผื่อหลงจะได้ ถามทางคนแถวนั้นได้ ระหว่างทางเจอร้านนี้ค่ะ เห็นเค้า shake shake น่ากินดี




เอาล่ะค่ะ คืนนี้ขอนอนหลับให้เต็มตา พร้อมเดินทางไปฮาลอง เบย์พรุ่งนี้ดีกว่า