คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเรียนภาษาอย่างเดียว ไม่มีเป้าว่าจะเรียนต่อ ณ ประเทศนั้นๆเลย แนะนำให้ไปที่ที่ไม่แพงดีกว่าครับ เพราะการเรียนภาษาที่เมืองนอก ก็เอาแค่สภาพแวดล้อมก็พอ เพราะถ้าเข้ามหาลัย ก็ต้องมาสอบielts toefl อยู่ดี ไม่มีความจำเป็นต้องไปอยู่เมืองแพงๆ
ถ้าเรียนจบตรีแล้ว ก็ไม่ต้องไปเรียนอนุปริญญาอีกหรอกครับ ยกเว้นอยากเปลี่ยนสายที่จะเรียน
ใกล้เอเชียที่สุดก็ออสเตรเลีย หรือนิวซีเแลนด์คับ ถ้าเมกาหรือแคนาดาก็จะแพงเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน อังกฤษก็จะแพงค่ากินอยู่
ขอนอกเรื่องหน่อยเรื่องทำงานหน่ะครับ คือ การทำงานมันก็ช่วยค่าใช้จ่ายได้จริง แต่มันก็ส่งผลต่อการเรียนอ้อมๆหน่ะครับ การใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมันต้องทั้งความเข้าใจภาษา+ความเข้าใจแนวคิดวัฒนธรรม ตัววัฒนธรรมนี่แหละครับสำคัญ วัฒนธรรม แนวคิดต่างกันนี่ พูดภาษาไทยเหมือนกันยังไม่รู้เรื่องกันเลยครับ ทีนี้ถ้าเราทำงานมากๆแล้วงานที่ทำไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรมมากๆเช่นงานเสริฟอาหารล้างจาน เราจะเหนื่อย +สังคมที่ได้ก็เป็นสังคมไทย ผลลัพที่ได้ก็คือไม่มีวันเข้าใจว่าคนพื้นเมืองเค้าคิดอะไรยังไง ผลคือคุยกันไม่รู้เรื่อง เรียนภาษามาสิบปียี่สิบปีก็จะได้แค่ถามตอบเรื่องทั่วไปหรือธุระ จะมาซี้ปึ๊กตบไหล่ร้องไห้เวลาเป็นทุกข์หรือเฮฮาบ้าบออะไรก็จะไม่มี ต้องweightกันดีๆนะครับ ส่วนตัวเห็นมาเยอะแบบว่ามาเรียนภาษา พอเสริฟอาหารได้เงินดีทีนี้ก็ยาวเลย เรียนภาษายาวผ่านไป5ปีพูดภาษาอังกฤษได้เท่าเดิม
ที่บอกอยากทำงานหลายๆแบบนี่คือยังไงหลอครับ มาเรียนภาษาเค้าก็แทบจะไม่ได้ให้ทำงานอะไรอยู่แล้ว มันจะทำหลายๆแบบได้ไงครับ
ถ้าเรียนจบตรีแล้ว ก็ไม่ต้องไปเรียนอนุปริญญาอีกหรอกครับ ยกเว้นอยากเปลี่ยนสายที่จะเรียน
ใกล้เอเชียที่สุดก็ออสเตรเลีย หรือนิวซีเแลนด์คับ ถ้าเมกาหรือแคนาดาก็จะแพงเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน อังกฤษก็จะแพงค่ากินอยู่
ขอนอกเรื่องหน่อยเรื่องทำงานหน่ะครับ คือ การทำงานมันก็ช่วยค่าใช้จ่ายได้จริง แต่มันก็ส่งผลต่อการเรียนอ้อมๆหน่ะครับ การใช้ภาษาอังกฤษได้ดีมันต้องทั้งความเข้าใจภาษา+ความเข้าใจแนวคิดวัฒนธรรม ตัววัฒนธรรมนี่แหละครับสำคัญ วัฒนธรรม แนวคิดต่างกันนี่ พูดภาษาไทยเหมือนกันยังไม่รู้เรื่องกันเลยครับ ทีนี้ถ้าเราทำงานมากๆแล้วงานที่ทำไม่ได้เกี่ยวกับวัฒนธรรมมากๆเช่นงานเสริฟอาหารล้างจาน เราจะเหนื่อย +สังคมที่ได้ก็เป็นสังคมไทย ผลลัพที่ได้ก็คือไม่มีวันเข้าใจว่าคนพื้นเมืองเค้าคิดอะไรยังไง ผลคือคุยกันไม่รู้เรื่อง เรียนภาษามาสิบปียี่สิบปีก็จะได้แค่ถามตอบเรื่องทั่วไปหรือธุระ จะมาซี้ปึ๊กตบไหล่ร้องไห้เวลาเป็นทุกข์หรือเฮฮาบ้าบออะไรก็จะไม่มี ต้องweightกันดีๆนะครับ ส่วนตัวเห็นมาเยอะแบบว่ามาเรียนภาษา พอเสริฟอาหารได้เงินดีทีนี้ก็ยาวเลย เรียนภาษายาวผ่านไป5ปีพูดภาษาอังกฤษได้เท่าเดิม
ที่บอกอยากทำงานหลายๆแบบนี่คือยังไงหลอครับ มาเรียนภาษาเค้าก็แทบจะไม่ได้ให้ทำงานอะไรอยู่แล้ว มันจะทำหลายๆแบบได้ไงครับ
แสดงความคิดเห็น
งบ 300,000 บาท อยากเรียนภาษาต่อต่างประเทศ
ระหว่างนั้นแม่สามารถส่งเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายรายเดือนได้บ้าง แต่คงไม่เกิน 10,000 บาท/เดือน
ตั้งใจจะไปหลังจากจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว จะหลักสูตรไหนก็ได้ไม่เกี่ยงเลย ขอแค่ให้ได้ตามนี้
1. ภาษา เป็นเป้าหมายแรกที่ทำให้อยากไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ
2. สามารถทำงานได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
3. ระยะเวลา 1 ปี
แค่นี้พอครับ จริงๆการเรียนต่อต่างประเทศมีหลายๆแบบมากๆ ทั้งเรียนภาษาเฉยๆ ต่อปริญญาโท ปริญญาตรี
หรือแม้แต่อนุปริญญา ผมก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมต้องการจริงๆจากการไปเรียนต่อต่างประเทศครั้งนี้คือ
A. สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติได้ (ข้อนี้อยู่ที่ตัวเราเองด้วย)
B. ประสบการณ์ในการทำงานหลายๆแบบ
จริงๆผมก็ศึกษามาบ้างแล้ว บางคนก็ต่ออนุปริญญาอีกใบ บางคนก็ไปเรียนแค่ภาษา บางคนก็ไปทำงาน
ต่างคนก็ไม่เหมือนกัน จริงๆผมก็อยากต่ออนุปริญญาอีกใบเหมือนกัน แต่ด้วยครอบครัวผมมีข้อจำกัดคือ
1. เนื่องจากแม่ผมเป็นบุคคลที่หมดสิทธิ์ในการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ
2. จึงทำให้ผมต้องใช้ statement ในการขอวีซ่าเอง
3. จะมีก็แต่พี่สาวที่คนละพ่อ แต่แม่เดียวกัน (แต่ดันคนละนามสกุลอีก) ที่จะพอเป็นคนค้ำประกันให้ได้บ้าง
นั่นแหล่ะครับคือ สิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักเหมือนกัน จริงๆประเทศไหนก็ได้นะ ผมไม่เกี่ยงเลย(แต่ถ้ามีหลายตัวเลือกก็ดีนะ)
ขอให้ได้ตามเป้าหมาย A กับ B ก็พอ จึงอยากจะมาขอคำแนะนำจากพี่ๆ เพื่อนๆครับว่า
"งบ 300,000 บาท เนี่ยถ้าจะใช้ไปเรียนภาษาต่อต่างประเทศใช้ยังไงให้คุ้มค่าที่สุดครับ?"
ขอไปเรียนที่ต่างประเทศเท่านั้นนะครับ เดี๋ยวบางคนจะมาเม้นว่า ตั้งใจเรียนเองก็ได้ไม่เห็นต้องเสียตังขนาดนั้นบ้าง
เรียนที่นี่ใช้ไม่ถึงแสนบ้าง ใช่ครับว่าเรียนที่นี่มันได้จริงๆ แต่มันก็ได้แต่ข้อ A ผมอยากได้ข้อ B ด้วย
ปล.ขอบคุณทุกๆท่านล่วงหน้ามากๆเลยครับ