จบเกมสยองขวัญแอลจีเรีย นักเตะของเราเหวอะหวะยับเยิน นอนพะงาบๆหายใจรวยรินจวนอยู่จวนไป ทั้งเลิฟและนักเตะโดนสื่อ บรรดาผู้เชี่ยวชาญและแฟนบอลถล่มยับ แผนแบ็ค 4 กับให้ลาห์มเป็นกองกลางในเกมโปรตุเกสที่ใครๆว่าเลิฟช่างกล้าแต่ก็เลิศไม่เบากลายเป็นแผนโคตรห่วยไปในพริบตา ต้องเปลี่ยนๆ กระแสเรียกร้องอึกทึกครึกโครม ลาห์มต้องลงมาเป็นแบ็คตามเดิม ต้องให้ไชวนี่กับเคดีร่าลงคู่กันเหมือนเมื่อก่อน เฮอเวเดสต้องเอาออก ตานี่ไม่ได้เรื่อง รับก็แย่รุกยิ่งไม่ได้เรื่อง อวบและโอซิลต้องกำจัดออกไปให้เชือร์เล่แล้น้ามิโรลงแทน ฯลฯ

นี่เราแย่ขนาดนั้นเลยหรือ แฟนพันธ์แท้ได้แต่ถอนหายใจ นึกๆไปก็เศร้าใจที่นักเตะของเราช่างพากันเจ็บ เดี๋ยวบัวเต็งเดี๋ยวเคดีร่าป่วย ตามัทส์ดูออกจะถึกบึกบึนแต่ไหงสามวันดีสี่วันไข้ซะงั้นล่ะ ลงเกมแรกไม่ถึง 90 นาทีก็เจ็บจนมุสตาฟี่ต้องลงแทน ตานี่กะแจ้งเกิด ส้มหล่มทับเป็นลัง ติดทีมไปบนความซวยของหนุ่มรอยส์สุดอาภัพ เกมแรกก็ดีอยู่หรอก แต่พอตามัทส์ป่วยอีก มุสตาฟี่เกิดกลายเป็นดาราแสดงนำในหนังสยองขวัญเยอรมันภาค 1 และ 2 ไปซะงั้น ย่ำแย่ฉุดเยอรมันเกือบลงเหว ดีที่เจ็บจนลงเล่นต่ออีกไม่ได้ แฟนบอลพากันโล่งใจ แต่ก็ขอให้หายไวๆแล้วกัน เผื่อวันหน้าจะกลับมาเป็นขุมกำลังของเราได้

ก่อนแข่งรอบ 8 ทีมกับฝรั่งเศส ทีมเยอรมันที่หลังเกมโปรตุเกสได้กลายเป็นเต็งหนึ่งก็ยังคงเป็นตัวเต็งต่อ แต่เต็งที่จะกลับบ้านก่อนฝรั่งเศสไปซะงั้น บรรดาสื่อทั้งเยอรมันและฝรั่งเศสกระหึ่มก้อง วงล้อเริ่มหมุนกลับจากวันที่ 8 กรกฎา 1982 มาสู่วันที่ 4 กรกฎา 2014 วันที่เราและฝรั่งเศสจะกลับมาพบกันอีกครั้ง วันที่เราหวังจะหวนคืนสู่วันอันยิ่งใหญ่ วันที่เยอรมันสู้ด้วยหัวใจสิงห์และแรงเฮือกสุดท้าย

รอบรองชนะเลิศที่เมืองเซวิญญาประเทศเสปน เยอรมันที่นักเตะบาดเจ็บระนาวต้องเจอกับฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยนักเตะระกับโลกอย่างพลาตินี ฯลฯ โทนี่ ชูมัคเคอร์ ของเยอรมันปกป้องประตูอย่างถึงเลือดถึงเนื้อ กระโดดโขกกองหน้าฝรั่งเศสจนฟันหัก 2 ซี่ สมองกระทบกระเทือน ซี่โครงร้าวจนพับหมดสติต้องหามออกจากสนาม โทนี่ถูกด่าจากทั่วโลกแต่โทนี่ไม่ยอมแพ้ เกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 จนต้องต่อเวลา

ครึ่งแรกของการต่อเวลา ฝรั่งเศสนำไป 3-1 ไม่มีใครคิดว่าเยอรมันจะตีเสมอได้ โคชเปลี่ยนเอารูมมนิกเก้ที่บาดเจ็บลง กัปตันของเราไม่ยอมให้เรือจม ลงช่วยแจวอย่างลืมสังขารและยิงตามได้เป็น 2-3 รูมเมนิเกตะโกนให้ลูกเรือสู้สู้และสู้ เรียกขวัญและกำลังใจนักเตะกลับคืนมา นักเตะสวมหัวใจสิงห์เข้าสู้ด้วยแรงเฮือกสุดท้าย และในที่สุด เคลาส์ ฟิชเชอร์ก็ตีลังกากลางอากาศยิงลูกกระหึ่มโลกเสมอไปเป็น 3-3 และได้ยิงจุดโทษในที่สุด

ทั่วโลกจารึกว่านี่คือเกมเขย่าขวัญแห่งเมืองเซวิญญา จารึกถึงหัวใจสิงห์ของเยอรมัน ไม่แค่เยอรมันจะตีเสมอได้แบบเหลือเชื่อ แต่ยังเขย่าขวัญคนดูต่อ เมื่อเริ่มยิงลูกโทษ อูลี่ สตีลิเกอร์ กองหลังเยอรมันยิงไม่เข้า ฟุบร้องไห้คาสนามจนลิทบาร์สกี้ปีกขาโก่งต้องปลอบใจ ยังหรอก เรายังไม่แพ้ เดี๋ยวโทนี่จะช่วยเรา และก็เป็นจริงตามนั้น โทนี่ป้องกันประตูได้ 2 ลูกจนมาถึงลูกสุดท้าย ลูกชี้แพ้ชี้ชนะ  ฮอร์ส รูเบชจะต้องยิง ถ้าเข้าเยอรมันจะเข้ารอบชิงทันที รูเบชสุดฮึดยิงประตูชัยนำเยอรมันเข้ารอบชิงไปในที่สุด น่าเสียดายที่เราบอบช้ำจนไม่มีแรงจะต่อกรกับอิตาลีและแพ้ไปในรอบชิง 1-3

วันพรุ่งนี้ 4 กรกฎา 2014 ฝรั่งเศสประกาศจะล้างแค้นเยอรมัน โอกาศก็สูงมากเพราะอยู่ๆฝรั่งเศสซึ่งมาบอลโลกแบบไม่หวังผลได้กลายเป็นเต็งแชมป์ไปแล้ว ยิ่งมาเจอเยอรมันที่กำลังร่อแร่อยู่หลายต่อหลายคนเลยว่าครั้งนี้เยอรมันท่าจะกลับบ้านแน่ แต่ก็มีอีกหลายคนว่าเราจะนำเรื่องราวแสนงดงามเมื่อ 32 ปีก่อนมาเป็นกำลังใจ และถ้าเราสู้ด้วยหัวใจสิงห์เราก็อาจชนะได้เช่นกัน

นสพ.พิมพ์เสปน El Mundo ว่าอย่าคิดประมาทเยอรมัน แม้ในเกมแอลจีเรียเยอรมันจะเกือบตายแต่เยอรมันก็ไม่ล้ม เพราะทีมอย่างเยอรมันนั้นสู้ด้วยเลือด หยาดเหงื่อและน้ำตา ก็หวังว่าเยอรมันรุ่นนี้จะสู้ยิบตาอย่างรุ่นพี่และนำชัยชนะมาให้แฟนๆ

ขอแค่ชนะอีก 3 ครั้งแล้วจะอภัยให้ทุกอย่าง

รักทีมชาติเยอรมันหมดหัวใจ