ถาม: การที่คนเราจะเป็นเนื้อคู่กันต้องมีการเกื้อกูลกันในอดีตชาติและในชาติปัจจุบัน ซึ่งมีความหมายครอบคลุมอย่างไร เช่น ต้องทำบุญร่วมกันอย่างสม่ำเสมอหรือแค่เคยใส่บาตรร่วมกัน 1-2 ครั้ง จะทำให้มาเจอกันในชาติต่อไปหรือไม่ แล้วถ้าชาติก่อนเราไม่เคยทำบุญร่วมกับใครเลยก็แสดงว่าในชาตินี้เราจะไม่มีเนื้อคู่ใช่หรือไม่
ตัดประเด็นที่ว่าเราไม่เคยทำบุญร่วมกับใครมาทิ้งไปเลยครับ ระหว่างการเกิดตายเป็นอนันตชาติในสังสารวัฏของพวกเรานั้น ไม่มีทางที่เราจะไม่เคยทำบุญร่วมกับใครมาเลย หากคุณเข้าใจว่าบุญคืออะไร ร่วมทำบุญคืออะไร ความสงสัยนี้จะหมดไปแน่
เมื่อกล่าวถึงการทำบุญร่วมกัน ใครๆก็มักนึกถึงการใส่บาตรพระร่วมกัน เพราะนั่นเป็นภาพที่เห็นง่าย แล้วเราก็ได้รับรู้ผ่านหนังผ่านละครบ่อยๆ ความจริง บุญมี ๓ ชนิดคร่าวๆ ได้แก่
๑) ทาน
๒) ศีล
๓) ภาวนา
หากคุณไม่เคยให้ทานร่วมกับใครเลย แต่เคยต้องอยู่กับใครสักครู่ แล้วต่างฝ่ายต่างซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่โกหกกัน ไม่นอกใจกัน แค่นั้นก็จัดเป็นการทำบุญว่าด้วยการรักษาศีลร่วมกันแล้ว และถ้าหากคุณเคยชอบฟังธรรมะของครูบาอาจารย์องค์ไหน แล้วชักชวนคนใกล้ตัวให้ไปฟังตาม เสร็จแล้วเขาเกิดถูกอัธยาศัยกับธรรมะเพื่อการพ้นทุกข์ของครูบาอาจารย์ที่คุณพาไป เขาเกิดความเลื่อมใสและนึกขอบคุณคุณ หันมาปฏิบัติธรมตามคุณบ้าง แม้เพียงนิดๆหน่อยๆ แค่นั้นก็จัดเป็นการร่วมบุญในแง่การภาวนา อันมีผลให้ผูกพันทางวิญญาณอย่างแน่นแฟ้นใหญ่หลวงแล้ว
คราวนี้ดูในแง่ที่ว่าทำด้วยกันแค่ไหนถึงจะเป็นคู่บุญ จากที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัส ว่าหญิงชายจะพบกันทั้งชาตินี้และชาติหน้า ก็เพราะมีเหตุ คือต่างฝ่ายต่างมีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน คำว่า "เสมอกัน" นั้น อย่างน้อยที่สุดคือร่วมยินดีไปในแนวความเชื่อเดียวกัน มีใจปรารถนาจะรักษาศีล มีใจอยากสละให้ และอย่างน้อยพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายนอกจากไม่สนองแล้วยังเอาแต่ขัดๆๆ
ยิ่งไปกว่านั้น พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่าความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเหตุสองประการ ประการแรกคือเคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติ ประการที่สองคือชาตินี้ได้เกื้อกูลกัน นั่นแหละความรักอย่างลึกซึ้งถึงจะเกิดได้
มองด้วยข้อสรุปนี้ คู่บุญตัวจริงก็คือคนที่เคยคิดดี พูดดี ทำดีต่อกันมาก่อน รวมทั้งมีศรัทธาไปในทางเดียว แข็งแรงในศีลข้อเดียวกัน มีใจคิดสละประมาณเดียวกัน และอย่างน้อยต้องพูดกันรู้เรื่องประมาณเพลินคุยได้ไม่รู้เบื่อ ประเภทใส่บาตรครั้งสองครั้ง อาจมีผลให้เกิดความรู้สึกปิ๊งๆบ้าง แต่จะไม่มีเหตุปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนให้ได้พบกันบ่อยๆ ได้เกื้อกูลกันโดยปราศจากอุปสรรคขัดขวางอย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆว่าต้องสร้างปัจจัยใหม่กันเหนื่อยพอดูครับ
โดย ดังตฤณ
ที่มา :
http://forum.02dual.com/index.php?topic=4791.msg28704&fb_action_ids=446610865376018&fb_action_types=og.likes&fb_source=aggregation&fb_aggregation_id=288381481237582
ทำบุญแค่ไหนจึงจะได้เป็นคู่กัน?
ถาม: การที่คนเราจะเป็นเนื้อคู่กันต้องมีการเกื้อกูลกันในอดีตชาติและในชาติปัจจุบัน ซึ่งมีความหมายครอบคลุมอย่างไร เช่น ต้องทำบุญร่วมกันอย่างสม่ำเสมอหรือแค่เคยใส่บาตรร่วมกัน 1-2 ครั้ง จะทำให้มาเจอกันในชาติต่อไปหรือไม่ แล้วถ้าชาติก่อนเราไม่เคยทำบุญร่วมกับใครเลยก็แสดงว่าในชาตินี้เราจะไม่มีเนื้อคู่ใช่หรือไม่
ตัดประเด็นที่ว่าเราไม่เคยทำบุญร่วมกับใครมาทิ้งไปเลยครับ ระหว่างการเกิดตายเป็นอนันตชาติในสังสารวัฏของพวกเรานั้น ไม่มีทางที่เราจะไม่เคยทำบุญร่วมกับใครมาเลย หากคุณเข้าใจว่าบุญคืออะไร ร่วมทำบุญคืออะไร ความสงสัยนี้จะหมดไปแน่
เมื่อกล่าวถึงการทำบุญร่วมกัน ใครๆก็มักนึกถึงการใส่บาตรพระร่วมกัน เพราะนั่นเป็นภาพที่เห็นง่าย แล้วเราก็ได้รับรู้ผ่านหนังผ่านละครบ่อยๆ ความจริง บุญมี ๓ ชนิดคร่าวๆ ได้แก่
๑) ทาน
๒) ศีล
๓) ภาวนา
หากคุณไม่เคยให้ทานร่วมกับใครเลย แต่เคยต้องอยู่กับใครสักครู่ แล้วต่างฝ่ายต่างซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่โกหกกัน ไม่นอกใจกัน แค่นั้นก็จัดเป็นการทำบุญว่าด้วยการรักษาศีลร่วมกันแล้ว และถ้าหากคุณเคยชอบฟังธรรมะของครูบาอาจารย์องค์ไหน แล้วชักชวนคนใกล้ตัวให้ไปฟังตาม เสร็จแล้วเขาเกิดถูกอัธยาศัยกับธรรมะเพื่อการพ้นทุกข์ของครูบาอาจารย์ที่คุณพาไป เขาเกิดความเลื่อมใสและนึกขอบคุณคุณ หันมาปฏิบัติธรมตามคุณบ้าง แม้เพียงนิดๆหน่อยๆ แค่นั้นก็จัดเป็นการร่วมบุญในแง่การภาวนา อันมีผลให้ผูกพันทางวิญญาณอย่างแน่นแฟ้นใหญ่หลวงแล้ว
คราวนี้ดูในแง่ที่ว่าทำด้วยกันแค่ไหนถึงจะเป็นคู่บุญ จากที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัส ว่าหญิงชายจะพบกันทั้งชาตินี้และชาติหน้า ก็เพราะมีเหตุ คือต่างฝ่ายต่างมีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน คำว่า "เสมอกัน" นั้น อย่างน้อยที่สุดคือร่วมยินดีไปในแนวความเชื่อเดียวกัน มีใจปรารถนาจะรักษาศีล มีใจอยากสละให้ และอย่างน้อยพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายนอกจากไม่สนองแล้วยังเอาแต่ขัดๆๆ
ยิ่งไปกว่านั้น พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่าความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเหตุสองประการ ประการแรกคือเคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติ ประการที่สองคือชาตินี้ได้เกื้อกูลกัน นั่นแหละความรักอย่างลึกซึ้งถึงจะเกิดได้
มองด้วยข้อสรุปนี้ คู่บุญตัวจริงก็คือคนที่เคยคิดดี พูดดี ทำดีต่อกันมาก่อน รวมทั้งมีศรัทธาไปในทางเดียว แข็งแรงในศีลข้อเดียวกัน มีใจคิดสละประมาณเดียวกัน และอย่างน้อยต้องพูดกันรู้เรื่องประมาณเพลินคุยได้ไม่รู้เบื่อ ประเภทใส่บาตรครั้งสองครั้ง อาจมีผลให้เกิดความรู้สึกปิ๊งๆบ้าง แต่จะไม่มีเหตุปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนให้ได้พบกันบ่อยๆ ได้เกื้อกูลกันโดยปราศจากอุปสรรคขัดขวางอย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆว่าต้องสร้างปัจจัยใหม่กันเหนื่อยพอดูครับ
โดย ดังตฤณ
ที่มา : http://forum.02dual.com/index.php?topic=4791.msg28704&fb_action_ids=446610865376018&fb_action_types=og.likes&fb_source=aggregation&fb_aggregation_id=288381481237582