คือตอนนี้ยังไม่ได้ไปเสียภาษีเลยครับ ก่อนไปยื่น พร้อมทั้งจะถูกปรับ เลยอยากจะถามทุกคนในพันทิปว่า รายได้ของผมเข้าข่ายแบบไหน ต้องยื่นแบบไหน
ผมประกอบอาชีพเป็น Freelance CG Artist ทำงาน ด้าน Computer Graphics, Animation ตอนนี้งงมากว่าผมเข้าข่าย 40(6), 40(7) หรือ 40(8) ขอยกตัวอย่างนะครับ
รายได้ทั้งปีของผม 1,000,000 บาท
รายจ่ายทั้งปีประกอบด้วย
1. ค่าจ้าง เพราะส่วนมากไม่ได้ทำคนเดียวครับ ซึ่งเป็นการจ่ายเต็ม ไม่ได้หัก 3% เช่นผมตกลงกับนาย A ว่าจ้าง 10000 ก็คือจ่าย 10000 เลย แต่ผมทำหลักฐานการจ่ายเงินเป็นใบเสร็จรับเงินไว้ทุกครั้ง พร้อมทั้งให้เจ้าตัวแนบสำเนาบัตร เซ็นสำเนาถูกต้องทุกครั้ง การจ่ายก็มีทั้งการโอน หรือยื่นเงินสดให้ ซึ่งค่าจ้างของตัวผมเองก็รวมอยู่ในนี้ด้วยครับ =
300,000
2. ค่าเช่าบ้าน =
180,000
3. ค่าไฟ+น้ำ+internet =
100,000
4. ค่าอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, tv, โต๊ะ เก้าอี้ =
200,000
5. ค่าใช้จ่ายจิปะถะ อื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง, ค่าเครื่องดื่ม อาหาร ในบ้าน ค่าเอนเตอเทนทีมงาน(บางทีครับ) =
100,000
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น =
880,000
1-5 มีหลักฐานใบเสร็จเก็บไว้หมดครับ ถามว่าผมเอามาคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายได้มั้ยครับ ถ้าหากได้ ผมคิดแบบนี้จะถูกมั้ยครับ
เท่าที่ผมศึกษามา
40(6) เงินได้จากวิชาชีพอิสระ (วิศวกร สถาปนิก นักกฎหมาย บัญชี ปราณีตศิลป์)หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 30% แต่ถ้าเป็นวิชาชีพแพทย์ หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 60%
40(7) เงินได้จากการรับเหมา หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 70%
รายได้ของผมเข้าข่าย 40(6)
เพราะในทวิ 50 ของลูกค้าที่จ่ายเงินให้ผมระบุมาตรงนั้นครับ ผมสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่าย
แบบเหมาตามอัตรา 30% ที่สรรพากรกำหนด ก็คือ
300,000 หรือ
เลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง 880,000 ซึ่งก็แน่นอนครับผมต้องเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง อยู่แล้วเพราะมากกว่า
เงินได้ 1,000,000 บาท
หักค่าใช้จ่าย 880,000 บาท
หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
หัก ณ ที่จ่าย 3% ไปแล้ว 30,000 บาท
เงินได้สุทธิ 60,000 บาท
ผมยังไม่แต่งงาน ไม่มีลูก และไม่มีค่าลดหย่อนใดๆ เพิ่มเติม ในปีภาษีนี้
0-150,000 = 0%
ค่าปรับ 2000 บาท
เบี้ยปรับ 0.5% ต่อเดือน (เม.ย.-ก.ค.) 0 X 0.5% X 4 เดือน = 0
รวมเงินที่ต้องจ่าย 2000 บาท
จากด้านบนเป็นการคำนวน แบบรายได้สุทธิ
แต่หากเลือกเสียแบบรายได้พึงประเมิน จะคิดจาก 0.5% ของรายได้ทั้งหมด(คูณด้วย 0.005) = 1,000,000 X 0.005 = 5,000
ค่าปรับ 2000
เบี้ยปรับ 0.5% ต่อเดือน (เม.ย.-ก.ค.) 5000 X 0.5% X 4 เดือน = 100
รวมเงินที่ต้องจ่าย 7100 บาท
ซึ่งอันไหนรัฐได้เยอะเค้าจะบังคับเลือกอันนั้นครับ คำถามคือผมเข้าใจถูกหรือผิดตรงไหนครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ
http://jakkapong.wordpress.com/2012/10/01/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-2-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E/
CG Artist แบบผมต้องเสียภาษีแบบไหนครับ
ผมประกอบอาชีพเป็น Freelance CG Artist ทำงาน ด้าน Computer Graphics, Animation ตอนนี้งงมากว่าผมเข้าข่าย 40(6), 40(7) หรือ 40(8) ขอยกตัวอย่างนะครับ
รายได้ทั้งปีของผม 1,000,000 บาท
รายจ่ายทั้งปีประกอบด้วย
1. ค่าจ้าง เพราะส่วนมากไม่ได้ทำคนเดียวครับ ซึ่งเป็นการจ่ายเต็ม ไม่ได้หัก 3% เช่นผมตกลงกับนาย A ว่าจ้าง 10000 ก็คือจ่าย 10000 เลย แต่ผมทำหลักฐานการจ่ายเงินเป็นใบเสร็จรับเงินไว้ทุกครั้ง พร้อมทั้งให้เจ้าตัวแนบสำเนาบัตร เซ็นสำเนาถูกต้องทุกครั้ง การจ่ายก็มีทั้งการโอน หรือยื่นเงินสดให้ ซึ่งค่าจ้างของตัวผมเองก็รวมอยู่ในนี้ด้วยครับ = 300,000
2. ค่าเช่าบ้าน = 180,000
3. ค่าไฟ+น้ำ+internet = 100,000
4. ค่าอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, tv, โต๊ะ เก้าอี้ = 200,000
5. ค่าใช้จ่ายจิปะถะ อื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง, ค่าเครื่องดื่ม อาหาร ในบ้าน ค่าเอนเตอเทนทีมงาน(บางทีครับ) = 100,000
รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น = 880,000
1-5 มีหลักฐานใบเสร็จเก็บไว้หมดครับ ถามว่าผมเอามาคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายได้มั้ยครับ ถ้าหากได้ ผมคิดแบบนี้จะถูกมั้ยครับ
เท่าที่ผมศึกษามา
40(6) เงินได้จากวิชาชีพอิสระ (วิศวกร สถาปนิก นักกฎหมาย บัญชี ปราณีตศิลป์)หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 30% แต่ถ้าเป็นวิชาชีพแพทย์ หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 60%
40(7) เงินได้จากการรับเหมา หักค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ 70%
รายได้ของผมเข้าข่าย 40(6) เพราะในทวิ 50 ของลูกค้าที่จ่ายเงินให้ผมระบุมาตรงนั้นครับ ผมสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่าย แบบเหมาตามอัตรา 30% ที่สรรพากรกำหนด ก็คือ 300,000 หรือ เลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง 880,000 ซึ่งก็แน่นอนครับผมต้องเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง อยู่แล้วเพราะมากกว่า
เงินได้ 1,000,000 บาท
หักค่าใช้จ่าย 880,000 บาท
หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท
หัก ณ ที่จ่าย 3% ไปแล้ว 30,000 บาท
เงินได้สุทธิ 60,000 บาท
ผมยังไม่แต่งงาน ไม่มีลูก และไม่มีค่าลดหย่อนใดๆ เพิ่มเติม ในปีภาษีนี้
0-150,000 = 0%
ค่าปรับ 2000 บาท
เบี้ยปรับ 0.5% ต่อเดือน (เม.ย.-ก.ค.) 0 X 0.5% X 4 เดือน = 0
รวมเงินที่ต้องจ่าย 2000 บาท
จากด้านบนเป็นการคำนวน แบบรายได้สุทธิ
แต่หากเลือกเสียแบบรายได้พึงประเมิน จะคิดจาก 0.5% ของรายได้ทั้งหมด(คูณด้วย 0.005) = 1,000,000 X 0.005 = 5,000
ค่าปรับ 2000
เบี้ยปรับ 0.5% ต่อเดือน (เม.ย.-ก.ค.) 5000 X 0.5% X 4 เดือน = 100
รวมเงินที่ต้องจ่าย 7100 บาท
ซึ่งอันไหนรัฐได้เยอะเค้าจะบังคับเลือกอันนั้นครับ คำถามคือผมเข้าใจถูกหรือผิดตรงไหนครับ ขอคำชี้แนะด้วยครับ
http://jakkapong.wordpress.com/2012/10/01/%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-2-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9E/