สุดท้ายก็ต้องขายบ้าน (แชร์ สำหรับคนที่จะกลับ ต่างจังหวัด)

(ขอเล่าแบบรวบรัด)  จขกท กับสามี ตัดสินใจจะกลับ ตจว. เพราะน้าสามีเป็นคนชวนให้ไปกรีดยางแบ่งเท่ากัน  โดยพักอยู่กับเขาไม่ต้องจ่ายค่าเช่า จ่ายแค่ค่าไฟ และน้ำต้องซื้อเนืองจากประปายังเข้าไม่ถึง ขุดบ่อไม่ได้  ซึ่งเป็นบ้านสำหรับคนงานกรีดยางชุดเก่าอยู่ แฟนตัดสินใจลาออกจากงาน   ลงไปอยู่ก่อนเพราะคิดแค่ว่าได้อยู่ใกล้กับ พ่อ แม่ ซึ่งไม่ค่อยสบาย ส่วน จขกท ไปๆ มาๆ เพื่อสังเกตการณ์เพราะถามน้องสาวสามี น้องบอกว่าขนาดญาติเค้าเองยังอยู่ไม่ได้เลย จขกท ขั้นๆลงๆ เหตุการณ์ปกติดี จึงตัดสินใจย้ายลงไปพร้อมกับลูกสาว ได้อยู่พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก    ตอนอยู่ที่นั่นหลังจากขายของกลับมา(ขายหมูปิ้ง) จขกท ต้องรีบไปบ้านน้าสามีซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ทำความสะอาดบ้าน หุงหาอาหาร ล้างจาน กวาดบ้าน เสร็จแล้วจึงกลับมาทำของตัวเอง

ผ่านไปไม่ถึงเดือน ตำลึงที่เคยเก็บมาทำแกงเลียง ยืนต้นตาย ไล่ดูจึงรู้ว่าโดนตัดเถาว์  ไปเล่าให้สามีฟัง สามีบอกว่าโดนยาฆ่าหญ้าหรือเปล่า จขกท เถียง ถ้าโดนยาฆ่าหญ้าทำไมถึงตายเฉพาะตำลึง สามีจึงไปดูก็เห็นว่าโดนตัดเถาว์ขาดทำให้ตำลึงตาย   ส่วนยางที่กรีดได้โดนหักสารพัด เช่น  ค่าน้ำมัน ค่าล้างรถ หักค่าบรรทุกไปขาย จะหักทุกอย่างที่หักได้ เคยพูดกับสามีว่า กรีดของชาวบ้านยังได้มากกว่าอีก  จนเรามาถึงบางอ้อ ตอนที่ไปได้ยิน น้าหลาน คุยกัน น้าคุยกับสามีเราว่าให้เอาที่ซึ่งได้รับมรดกประมาณ 5 ไร่ มาวางเอาเงินไปลงทุนเปิดร้านคอม มีเงินแล้วค่อยซื้อคืน (สรุปคือ น้าชวนมาเพราะอยากได้ที่แปลงนั้น โดยให้เอาที่มาวางแล้วเอาเงินไปลงทุน แล้วจะบอกว่าต้องใช้เงิน เมือ่เราไม่มีให้ก็จะยึดที่ ทำแบบนี้กับคนอื่นมาเยอะ)   สามีกลับมาเราพูดให้สามีฟัง สามีเริ่มเชื่อ จากนั้นบอกให้เราย้ายบ้าน ออกไปอยู่อีกหลัง เพราะหลังปัจจุบันจะรื้อเอาไม้ สามีและเราจึงต้องย้ายมาอีกหลัง อยู่ได้ซักพักบอกให้หาบ้านเช่า เพราะจะเอาหลังนี้ให้ลูกสาวทำเป็นเรือนหอ  และให้สามีเราจ่ายค่าไฟ 3 พันกว่าบาท(รวมทั้งหมดที่คนเก่าเช่า แล้วค้างไว้ไม่จ่าย)  ซึ่งบ้านหลังนี้แค่นอนตอนกลางคืน กลางวันอยู่ที่ร้านตลอด   สามีและเราตัดสินใจจะกลับ กรุงเทพ แต่น้าอีกคนบอกให้อยู่ต่อ โดยสร้างบ้านให้เราเช่า

               เราตัดสินใจกลับมา กทม อีกครั้งด้วยเงินที่เหลือ 6 บาท หลังจากจ่ายค่ารถ และค่าต่างๆแล้ว มาทำงานกับเจ้านายคนเดิม เกือบจะ 3 ปีแล้ว ทีสามีกับลูกอยู่ ตจว เราอยู่ กทม ขึ้นๆลงๆ กับ ตจว  ชวนสามีให้กลับมาก็ไม่ยอมกลับ บอกจะทำให้น้าเห็นให้ได้ว่า แม้เค้าไม่ช่วยเราก็สามารถเดินต่อไปได้
ตอนนี้ตัดสินใจจะขายบ้านที่กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด็น  เพราะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกอีกแล้ว  เราพร้อมที่จะต่อสู้ใหม่อีกครั้ง  ตอนนี้กำลังหาช่องทางประกาศขายบ้าน เพื่อเอาส่วนต่างอันน้อยนิดไปสร้างหลังใหม่ให้ลูก ได้เมื่อไหร่เราจะไปนับ 1 อีกรอบ    ความผิดพลาดที่เกิดคือ

-   ไม่คิดว่าน้าจะใช้แผนนี้ บีบสารพัดเพื่อให้เราหมดเงิน และหมดทางจะได้เอาที่ ที่เค้าอยากได้มาวางกู้เงินจากเขา
-   เราคิดและวางแผนไว้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังพลาด
-  ขายหมูปิ้งช่วงเช้า ขายดี แต่ทำไม่ไหวเพราะ ต้องมีคนช่วยปิ้ง โดยเราขาย แฟนกรีดยางรับจ้างช่วยไม่ได้
-  อาหารตามสั่ง ขาดประสบการณ์ในการเก็บรักษา ผัก  และการคำนวนจุดคุ้มทุน เราใช้แต่ของดีๆ เหมือนที่เรากิน
-  เริ่มทำอาหารตามสั่งไม่ไหว ผัดไม่ได้เริ่มปวดข้อมือ จับตะหลิวแทบไม่ได้ อีกทั้ง ไอไม่มีแสมหะ เป็นเวลา 1 เดือน (เมื่อก่อนไม่วัคซีนแก้ไอกรน)
***** สรุป ตั้งแต่ไปอยู่ที่นั่น ร้องให้แทบจะตลอด สงสารลูกที่สุด ลูกมีงานเต้นรำไม่มีเงินซื้อรองเท้าให้ลูก ให้ลูกใส่ของหลานคนโตเป็นรองเท้าสีขาว แต่เป็นลายอุลตร้าแมน  เพื่อนถามลูกสาวว่าทำไมไม่ซื้อรองเท้าใหม่ ลูกพูดว่า พ่อบอกไม่มีตังค์ ซ้ำใจปวดใจเป็นที่สุด *****

*** ตอนนี้ตัดสินในประกาศขายทาวเฮ้าส์ 18 ตรว 2 ชั้น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แถวเสรีไทย 41  ซึ่งทุกๆคน เจ้านาย เพือนบ้านค้านไม่ให้ขาย แต่ถ้าให้เลือก ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกอีกแล้ว  24  มิย ที่ผ่านมาวันเกิดลูก ถามว่าดีใจไม๊แม่มาหาหนู "ดีใจค่ะ แต่จะดีใจกว่านี้ถ้าแม่มาอยู่ด้วย" ***********

ท่านไหนที่คิดจะกลับไปอยู่บ้านแนะนำให้วางแผนให้ดี คิดบวกแล้วต้องคิดลบเผื่อไว้ด้วย จินตนาการ วาดภาพในอากาศ ทำให้เราพลาดมาหลายครั้ง ครั้งนี้พลาดไม่ได้อีกแล้ว
(แท็ก ห้องสีลม เพราะเราคือมนุษย์เงินเดือน /// ชายคา  กำลังหาแบบบ้านที่ใช้งบน้อยสร่างรังใหม่)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่