นิยาย จันทร์เสี้ยว เขี้ยว วิญญาณ - บทที่ 5 - (โดย เพอฟูเม่ )

กระทู้สนทนา
เป็นการเริ่มต้นของการเขียนนิยาย ไม่ได้เก่งกาจ วาดหวังไว้สูงนัก และแต่งขึ้นจากจินตนาการ มิได้คิดพาดพิงหรือ บิดเบือนความจริงจากเรื่องใดๆนะคะ ( เป็นเรื่องสมมุติขึ้นเท่านั้นนะคะ)
บทแรก การค้นพบ http://ppantip.com/topic/32121665
บทที่     -1-        http://ppantip.com/topic/32130617
บทที่     -2-        http://ppantip.com/topic/32148915
บทที่     -3-        http://ppantip.com/topic/32184172
บทที่     -4-        http://ppantip.com/topic/32239301

                                                                              จันทร์เสี้ยว เขี้ยว วิญญาณ
                                                                             
                                                                                        บทที่ 5

                ข่าวการเดินทางมาประเทศไทยของเหล่าเชฟระดับโลกที่ต้องการมาประชันฝีมือในการทำอาหารระดับท๊อปแห่งเอเชีย สร้างความสนใจให้แก่เหล่านักชิมเป็นอย่างมาก งานเทศกาลอาหารแห่งเอเชียในปีนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะครั้งนี้ได้นางแบบคนดังอย่าง แสงตะวันมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้งานนี้อีกด้วย

                   “ มาแล้ว มาแล้ว “ เสียงนักข่าวบอกต่อกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ของงาน เริ่มเปิดทางให้พรีเซ็นเตอร์นางแบบแสนสวยที่วันนี้มาในชุดเก๋ไก๋ไม่น้อย แสงตะวันเดินเคียงคู่มากับประธานของงานสำคัญนี้เพื่อเริ่มพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ

                 “ วันนี้ ตะวันต้องขอบคุณทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมากนะคะ ที่ให้โอกาสตะวันได้ทำหน้าที่ ทูตอาหารแห่งเอเชีย ตะวันดีใจมากที่ได้รับเกียรตินี้คะ “ นางแบบคนสวยให้สัมภาษณ์นักข่าวพร้อมโพสท่าให้ถ่ายรูปอย่างเป็นกันเองหลังจากพิธีการสำคัญเสร็จสิ้นลงไป  

                   “ ว้าย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ......... “  เสียงกรีดร้องอย่างตกใจดังมาจากด้านหลังงานเมื่อพนักงานคนหนึ่งไปตามหาแขกคนสำคัญของงานที่จะต้องขึ้นให้สัมภาษณ์บนเวที

                  เสียงร้องอย่างตกอกตกใจเมื่อเหล่าพนักงานอีกหลายคนวิ่งไปตามเสียงแรกที่ได้ยินแต่ต้องมาพบเจอกับสภาพศพของเชฟคนดัง ส่วนพนักงานคนแรกที่พบเห็นศพก็อยู่ในสภาพสติแตก ตัวสั่นไม่หยุด เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องรีบกันเหล่านักข่าว และคนในงานให้ออกไปจากที่แห่งนี้
    จากงานที่มีแต่รอยยิ้มต้องกลายมาเป็นงานแห่งความหวาดหวั่นขึ้นมาแทนอย่างไม่คิดไม่ฝัน แขกในงานต่างโดนแยกไปไว้ห้องอีกด้านและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่เรียงสอบปากคำทีละคนอยู่

                 “ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ “ แสงตะวันนั่งหน้าซีดอยู่ในห้องรับรอง VIP พร้อมด้วยเหล่าแขกในงานระดับสูงอีก 3-4 คน

                 “ ขอโทษนะครับ ผมคงต้องขอรบกวนเวลาพวกคุณกันซักนิด ขอสอบปากคำเบื้องต้นกันนิดหน่อยก่อนนะครับ “ ณรงค์ฤทธิ์ เดินเข้ามาในห้องพร้อมพนักงานสอบสวนอีก 2 คน

                “ ณรงค์ “ แสงตะวันยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นเพื่อนสนิท
                “ เป็นไงตะวัน ตกใจมากไหม “ ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ แววตาฉายความห่วงใยเพราะหน้าตาของคนตรงหน้ามันแย่มาก
                 “ น่ากลัวอะ คืนนี้เราต้องนอนไม่หลับแน่เลย ภาพมันติดตามาก “
                “ งั้นเราไปนอนเป็นเพื่อนมะ “ ชายหนุ่มหยอดเข้าให้

                 แสงตะวันขว้างค้อนเข้าให้ทำเอา ณรงค์หัวเราะกับท่าทางที่เห็น ทุกครั้งที่เขามีโอกาสในการหยอดคำหวาน กระเซ้าเล่น เขาจะไม่เคยปล่อยให้มันผ่านไปแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอคนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขามากไปกว่าคำว่าเพื่อนเลยก็ตาม

                “ ขอโทษครับผู้หมวด รบกวนช่วยออกไปดูศพกันหน่อยครับ เราเจออะไรแปลกๆครับ “ จ่าเก่งวิ่งมาตามหน้าตาตื่น
                “ ได้จ่า เดี๋ยวเรามานะตะวัน เราไปส่งบ้านเองนะ รอแป๊บนะ “ ณรงค์ฤทธิ์ หันไปกำชับเพื่อนสาวก่อนลุกเดินตามจ่าเก่งออกไป แต่ก็ยังไม่วายหันมามองแสงตะวันด้วยความห่วงใย


                     ภายในห้องที่เกิดเหตุ เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างสาละวันกับการเก็บหลักฐาน โดยมีผู้กองพสุยืนอยู่ไม่ไกลและพลิกดูสิ่งที่อยู่ในถุงเก็บหลักฐานพร้อมเจ้าหน้าที่ชันสูตรที่กำลังรายงานผลเบื้องต้น

                 “ ที่ตัวผู้ตายพบรอยฟันเล็กๆอยู่ทั่วตัวเลยครับ  อีกทั้งเรายังพบเส้นขนสีเทา และรอยเท้าเล็กๆ อยู่ทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นพวกหนูนะครับจากหลักฐานที่ได้ ”
            “ นี่มันอะไรครับผู้กอง “ ณรงค์ฤทธิ์ รับหลักฐานที่อยู่ในมือหัวหน้ามาดูอย่างสนใจ แต่เมื่อเขาได้มองมันชัดๆ สิ่งที่เขาเห็นมันคือฟันซี่หนึ่ง
                “ มันคือฟัน นายลองดูดีๆซิ เห็นอะไรน่าตกใจไหม “  พสุตอบหน้าเครียด ก่อนเดินผละออกมา

                  ณรงค์ฤทธิ์ ทำตามที่หัวหน้าบอก เขาพลิกของในมืออย่างช้าๆ ค่อยๆมองฟันที่อยู่ในถุงอย่างตั้งใจ คิ้วขมวดมุ่นและรู้สึกพูดอะไรไม่ออกเมื่อสังเกตเห็นว่าที่ฟันมีรอยจางๆ คล้ายตัวอักษร แต่มันจะเป็นไปได้งั้นหรือ  ชายหนุ่มส่งถุงสำคัญให้จ่าเก่งพร้อมกำชับให้ดูแลอย่างดี ก่อนที่จะเดินตามผู้กองพสุออกไป

              “ มันจะเป็นไปได้ไงกัน  มันจะเกี่ยวข้องกันกับคดีนั้นได้ไงกันครับ “
              “ อาจจะเกี่ยว หรืออาจจะไม่เกี่ยว ตอนนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้ คงต้องรอทาง LAPตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน “
          
             “ ณรงค์  ตะวันจะกลับแล้วนะ ถ้านายยังไม่เสร็จงานก็ทำไป ไม่ต้องห่วงนะ “ หญิงสาวโทรมาบอกเพื่อนสนิทก่อนที่จะสตาร์รถขับออกไปจากลานจอดรถ ตอนนี้เธออยากจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดดังนั้นเมื่อตำรวจสอบปากคำจากเธอเรียบร้อย เธอจึงเดินดิ่งกลับมายังรถโดยทันที
             “ เดี๋ยวซิตะวัน “ ณรงค์ฤทธิ์เสียงหลง แต่คนปลายสายวางหูไปเรียบร้อยแล้วเมื่อมองมาทางด้านหน้าของตึก รถเก๋งสีเทาของแสงตะวันก็ขับพ้นทางออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ถอนใจเสียดายโอกาสที่จะได้ไปส่ง
         ผู้กอง    พสุเดินมาตบบ่าเบาๆ เหมือนจะเข้าใจในอาการที่เกิดขึ้นของลูกน้องคนเก่ง ก่อนจะออกคำสั่งให้กลับไปทำงานให้เสร็จ


         รถเก๋งของแสงตะวันจอดสนิทอยู่ริมถนนใหญ่ ขับต่อไปอีกเพียงนิดก็จะถึงบ้าน แต่พลังใจคนขับมันหมดลงเสียก่อน เธอขับรถออกมาจากงานในสภาพมึนงงกับสิ่งที่เห็นในวันนี้แสงตะวันก้มหน้าซบกับพวงมาลัยรถ ภาพของ เชฟ อองตวน ยืนยิ้มหัวเราะทักทายกับเธอเมื่อตอนสายก่อนเปิดงานอาหาร การพูดคุยอย่างสนุกสนาน เขาทำให้เธอหัวเราะไปกับเรื่องตลกของลูกค้าเขา แต่ยังไม่ทันไรคนเป็นคนนี้ก็กลับกลาย เป็นคนตายไปเสียแล้ว

               “ ทำไมภาพที่เห็นมันถึงเหมือนกับ ความฝันที่เราฝันนะ “ แสงตะวันถอนหายใจ ความกังวลใจมันช่างหนักหนาเกินกว่าที่หัวใจดวงเล็กของเธอจะทนรับไหว  เธอนั่งนิ่งอยู่ในรถสักพักก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกเบาๆ พร้อมเสียงที่คุ้นเคย แสงตะวันเงยหน้าขึ้นหันมองตามเสียงภายในใจขอให้เป็นคนที่เธอหวังว่าใช่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่