สโลแกนของเราคือ “หนึ่งประเทศ หนึ่งทีม หนึ่งความฝัน” นั่นหมายถึงว่าเราต้องสามัคคีกันสุดๆเพื่อที่จะไปริโอด้วยกันและไปนำถ้วยกลับบ้านเราให้ได้

แข่งมา 3 เกมแล้วท่ามกลางแดดเปรี้ยงและฝนกระหน่ำ เราเป็นที่ 1 ของกลุ่มตามคาด แต่ก็ไม่วายมีคำถามตลอดว่าวันแข่งกับแอลจีเรียจะให้ไชวนี่หรือเคดีร่าลงเป็นตัวจริง จะให้ลาห์มเล่นแบ็คหรือกองกลางดี

เลิฟบอกสื่อว่าผมต้องแบ่งงานให้ทั้งไชวนี่และเคดีร่าเพราะทั้ง 2 คนเจ็บมานาน เคดีร่าเจ็บหนักถึง 6 เดือน ที่ฟิตจนติดทีมมาด้วยได้นี่ก็แทบจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว ส่วนไชวนี่ แน่ละที่เขาเข้าขากับโครสและลาห์มได้ดีเพราะเล่นด้วยกันที่บาร์เยิร์น แต่ไชวนี่เจ็บนานและยังไม่ฟิตเต็มร้อย ยังไม่สามารถลงเล่นได้ครบ 90 นาทีแน่นอน เพราะงั้นผมต้องการทั้ง 2 คน ทั้งไชวนี่และเคดีร่าเป็นผู้นำทีมและสำคัญต่อทีมมากๆทั้ง 2 คน ส่วนจะให้ใครลงเป็นตัวจริงให้ใครลงครึ่งหลังนั้นผมตัดสินใจจากความรู้สึกที่เห็นตอนซ้อมนั่นแหละ อีกอย่างหนึ่ง การทีนักเตะคนไหนไม่ได้ลงเป็นตัวจริงแต่เปลี่ยนตัวลง มันไม่ได้หมายถึงว่าเขาโดนทำโทษ แต่เป็นเรื่องของการแบ่งงานกันทำเพื่อให้ได้ผลดีต่อทีมซะมากกว่า

เรื่องลาห์ม เขาเล่นเป็นกองกลางได้ดีแล้ว การพลาดแค่ครั้งเดียวจะให้เราถึงกับเปลี่ยนระบบเลยหรือ มันยิ่งจะทำให้สับสนยิ่งขึ้น ผมต้องการให้ลาห์มคุมเกมเดินหน้าและพร้อมลงช่วยกองหลังซึ่งเขาก็ทำได้ดี 3 เกมที่ผ่านมาผมว่าเราเล่นได้ตามแผน จะมีก็แต่เกมกานาในช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่เราเล่นกันแบบเสียสติ ซึ่งผมหวังว่านักเตะของเราคงได้บทเรียนแล้วว่าเราต้องใช้สมองในการเล่นด้วย เลิฟเสริมว่า สิ่งที่เราจะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นคือ คุมหลังให้แน่นกว่านี้ พยายามอย่าส่งบอลพลาด บุกให้เร็วขึ้น และเมื่อหาช่องทางหน้าประตูได้จะต้องเป็นเพชรฆาตในการจบเกมให้ดีกว่านี้ โอกาสแสนจะหายาก เมื่อได้มาต้องทำให้ได้ เลิฟส่งท้าย

ลาห์มให้สัมภาษณ์ว่า เราต้องการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศให้ได้ เราไม่ต้องการต่อเวลาหรือยิงลูกโทษแต่ต้องการชนะในเวลาเท่านั้น ไม่งั้นเราอาจต้องกลับบ้านเร็วกว่าที่คิด ทีมเราแกร่งกว่า แทคติคก็ดีกว่า เพราะงั้นเราต้องเข้ารอบให้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะประมาทแอลจีเรีย เรารู้ว่าเขาจะสู้ยิบตาแน่ เลิฟเสริมว่า แอลจีเรียทั้งไวทั้งใจสู้ เข้าปะทะอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรม กองหน้าก็จบประตูได้ เราไม่ประมาทเขาแน่นอน

เยอรมันสู้ๆ เยอรมันสู้ตาย ขอให้ชนะแอลจีเรียและอีก 3 ครั้งที่เหลือนะ