ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้นะ เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปจนมันกลายเป็นวัฒนธรรมไปเอง (ทฤษฎีอันนี้คิดเองเออเองนะคะ )
1.ใกล้ชิดธรรมชาติ >>สีเขียวทำให้มนุษย์ใจเย็นลง ว่ากันว่าจริง ๆ กัญชาเป็นสมุนไพร สูบทำให้ใจเย็นลง แต่ที่โดนแบนเพราะพวกค้าบุหรี่กะเหล้าอยากรวย ทั้ง ๆ ที่เต็มไปด้วยสารสังเคราะห์อันตรายเพียบแต่กลับไม่โดนแบน (เพราะรวยเลยใหญ่ ออกข่าวลวง?) ส่วนอาหารก็เป็นแบบออแกนิค ไม่ใช้ยาเร่งโต จนทำให้คนป่วยกันเยอะ คนชอบด้านปศุสัตว์เลี้ยงสัตว์ก็ทำไปตามความชอบอย่างแท้จริง ๆ ไม่ใช่เพราะเงินมาบังคับ ใครชอบปลูกผักปลูกผลไม้ก็ทำตามที่ชอบจริง ๆ เรื่องกัญชา? (เผื่อใครอยากรู้เพิ่มและถ้าอ่านอังกฤษออกก็เสิชได้ มีบทความเพียบ)
2.ศาสนา >>ยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน ยึดหลักความสุขความสบายใจของแต่ละคน แต่ใจความสำคัญคือสันติภาพในจิตใจก็พอแล้ว เมื่อไม่มีเรื่องเงิน คนคงจะเครียดกันน้อยลงเยอะ
3.วิทยาการต่าง ๆ >>คนชอบเรียนรู้ ประดิษฐ์คิดค้น ก็ทำตามความสุขความชอบไป บางคนอาจจะชอบคิด เพ้อไปอย่างเดียว บางคนอาจจะชอบรับคำสั่ง เอามาปฏิบัติจริง ๆ ก็ทำไปตามที่ชอบ
โดยสรุปคือ อยู่ในสังคมด้วยการที่ทุกคนเคารพซึ่งกันและกันว่าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ส่วนคนที่มีปัญหากับคนอื่น นิสัยไม่ดีอันนี้ก็แก้ที่ต้นเหตุน่าจะเวิร์คกว่า ก็จะมาดูว่า สมองผิดปกติป่าว การเลี้ยงดู หรืออะไร ไม่ใช่มาเข้าคุก ตัดสินประหารชีวิต คนเราไม่ได้ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ แต่ทุกคนมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ข้อเสียของแต่ละคนก็เอาข้อดีของอีกคนมาช่วยก็สมดุลกันได้ เหมือนหยินกับหยาง??
เริ่มแรกอาจจะต้องมีระบบเงินตราและกฎหมายก่อน หลังจากมีคนที่ชอบหลากหลาย มีความลงตัวมากขึ้นก็ค่อย ๆ ยกเลิกเงินตรา และกฎที่ไม่จำเป็นออกไป
http://www.thevenusproject.com/ >>อยากอยู่จัง 2012ที่ว่าเราเข้าสู่การเลื่อนระดับอาจจะเป็นอย่างที่พูดกันก็ได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน มันต้องเป็นไปได้แน่ ๆ อาจจะคัดเลือกคนก่อนดูตามดีเอ็นเอ/จิตวิทยาอะไรก็ว่าไป อิอิ แถมคลิปด้านล่าง
http://www.prachatai.com/journal/2008/09/18284  >>แบบดั้งเดิมเลย คิดมาตั้งนานแล้ว แต่บางข้อเราก็ไม่เห็นด้วยเช่นเสื้อผ้าใส่แบบเดียวกันคงไม่ได้ เพราะเราก็ชอบต่างกันได้
เพราะจริง ๆ สวรรค์มันไม่ต้องได้เข้าถึงตอนตายไปแล้วแต่ตอนนี้ถ้าช่วยกัน มันก็เป็นไปได้ อาจจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ขอเสียของแต่ละคนก็มีข้อดีของคนอื่นมาบาลานซ์ได้เหมือนชีวิตคู่
แล้ววทุกคนคิดว่ายังไงบ้าง จะเป็นจริงได้ไหมนะ